วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

แนะอาหารที่สิงคโปร์

สิงคโปร์ นอกจากจะขึ้นลือชาชื่อเรื่องช็อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว อาหารสิงคโปร์ก็เป็นไฮไลท์สำคัญหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักนึกถึงเสมอ เมื่อแวะมายังเมืองสิงโตแห่งนี้ เรียกได้ว่า ที่นี่ เป็นสวรรค์ของนักชิม เมืองหลวงด้านอาหารแห่งเอเชียเลย เนื่องด้วย สิงคโปร์มีหลากหลายเชื้อชาติ ทำให้อาหารของเมืองนี้มีทั้งรูปแบบของอาหารตะวันตก อินเดีย จีน อินโดนีเซีย และอื่นๆ มากมายให้เลือก บางอย่างเป็นจีนแท้ บางอย่างเป็นจีนผสมแขก (มุสลิมและฮินดู)

อาหารสิงคโปร์ หารับประทานง่ายดาย ตามศูนย์อาหาร มุมถนนต่างๆ ไม่ว่าจะไปส่วนไหนของเกาะก็หาทานอาหารเหล่านั้นได้อย่างสบายๆ มีทั้งร้านติดแอร์และไม่ติดแอร์ และส่วนใหญ่มีเมนูเหมือนๆ กันหมดทั่วเกาะ ร้านอาหารส่วนใหญ่ตามศูนย์อาหารเหล่านี้ มักจ้างพ่อครัวแม่ครัวมาจากประเทศแม่ เจ้าของสูตรอาหารเมนูนั้นๆ สำหรับรสชาตินั้น อาหารเกาหลีค่อนข้างใกล้เคียงกับต้นฉบับ ส่วนรสชาติอาหารญี่ปุ่นหรือไทยเป็นสไตล์สิงคโปร์มากกว่าต้นฉบับ ราคาอาหารค่อนข้างแพงกว่าปรกตินิดหน่อย โดยเฉพาะอาหารเกาหลีและญี่ปุ่น ปรกติราคาอาหารที่นี่จานละ 2.5-4 เหรียญสิงคโปร์ แต่อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น และอาหารไทย ประมาณ 4 เหรียญสิงคโปร์ขึ้นไป 


ถ้าอยากรู้ว่าร้านไหน ที่ไหน อาหารอะไรอร่อยน่าลิ้มลองละก้อ คงต้องสังเกตร้านที่มีคิวต่อแถวยาวๆ รับรองว่าไม่พลาดความอร่อยเลิศ เมื่อมาถึงถิ่นเมืองสิงโตแล้ว ก็มาลองชิมกันว่าอาหารท้องถิ่นรสเลิสของเขาซะหน่อย ว่าแต่ว่ามีอาหารอะไรบ้างไปดูกัน


1. ข้าวมันไก่ไหหลำ
อย่างที่ทราบกันดีว่า สิงคโปร์ขึ้นชื่อเรื่องข้าวมันไก่เป็นพิเศษ ข้าวมันไก่สิงคโปร์ เมนูยอดฮิตของชาวจีนไหหลำ หรือไหหนาน ที่มีน้ำจิ้มพริกตำสีส้มสด ไม่มีเต้าเจี้ยว กลิ่นหอมอ่อนๆ รสเผ็ดเล็กน้อย มีต้นหอมสับ ขิงสับละเอียดผสมกระเทียมกับน้ำมันงาให้ราดเนื้อไก่ให้ชุ่มฉ่ำก่อนหม่ำด้วย ยังมีซอสถั่วเหลืองสีดำข้น กับน้ำซุป แต่รดชาดไก่เขาไม่เหมือนบ้านเรานะ เพราะเขาใช้ไก่จากมาเลย์ เป็นคนละสายพันธุ์กับไก่เมืองไทย ไก่เขาจะนุ่ม โดยเฉพาะหนังนุ่ม กรอบ มากจนละลาย ไม่เหนียวเหมือนหนังสติ๊ก เสริฟกับข้าวสวยเป็นถ้วยๆ เมล็ดข้าวเขามันบานๆ ร่วนเป็นเม็ดดี รสชาติดี อร่อยดี ข้าวมันไก่สิงคโปร์นี่ เป็นสูตรไหหลำ มันต่างจากข้าวมันไก่ไทยทั่วไป ซึ่งมักจะเป็นสูตรแต้จิ๋ว เพราะคนจีนในไทยเป็นแต้จิ๋ว แต่จีนในสิงคโปร์เป็นไหหลำ ดังนั้นมันก็เลยออกมาต่างกัน


แนะนำ
**ว่ากันว่าร้านข้าวมันไก่ไหหลำ (Chicken Rice) อร่อยที่สุดคือ ข้าวมันไก่ร้านบุญทงกี่ หรือ บุญตงเดียรติ (Boon Tong Kee) www.boontongkee.com.sg มีหลายสาขา ได้แก่
         -ร้าน Food Stall อยู่ใน Fountain Food Court ใต้ห้างคาร์ฟูร์ตรง Suntec City เดินเข้าไปแล้วก็มองหาป้ายใหญ่ๆ เขียนคำว่า "Chicken Rice" เข้าไปดูใกล้ๆ จะมีป้ายเล็กๆ เขียนว่า "Boon Tong Kee"
         -อีกสาขาอยู่ริมถนน Balestier ขึ้นรถไฟใต้ดินไปที่สถานี Novena ขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งตรงข้ามไปยังโบสถ์ Balestier แล้วต่อรถเมล์สาย 131 ไปลงที่ป้าย Shaw Plaza สาขาสุดท้ายอยู่ที่ถนน Rangoon ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดิน Farrer Park

นอกเหนือจากร้าน "Boon Tong Kee" ยังมีข้าวมันไก่อื่นๆ ที่หากินง่ายๆ
**ย่านโนวีนา (Novena) ชื่อร้าน “Wee Nam Kee Hainanese Chicken Rice” เปิดตั้งแต่เช้าตรู่ยันเที่ยงคืน ถ้าไปช่วงกลางวันหรือเย็น ๆ ต้องรอต่อคิวกันยาว

**ศูนย์อาหารทั่วไปราคาไม่แพงมาก


2. ลักซา (Laksa or Curry Laksa)
อาหารเส้นที่นิยมกันมากๆ ในสิงคโปร์ นั้นคือ ลักซา เป็นอาหารมาเลย์ชนิดหนึ่ง เส้นแป้งคล้ายๆ เส้น ก๊วยเตี้ยวคล้ายๆ บะหมี่ เส้นเขาจะกลมๆใหญ่ๆเหนียวนุ่ม ที่เรียกว่า บีฮูน (beehoon) ลวกจนนุ่มเนื้อไก่ กุ้งต้มสุก ไข่เจียวที่ซอยเป็นฝอยราดน้ำซุปสูตรพิเศษเคี่ยวจากหัวกุ้งและพริกแกงที่มีส่วนผสมของสมุนไพรหลายชนิดโรยหน้าด้วย ขิง พริกชี้ฟ้าแดง ต้นหอม แตงกวา หอมแดงเจียวกรอบ และใบลักซา

ลักซา มีต้นกำเนิด จากชาวจีนฮกเกี้ยนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานแถบคาบสมุทรมลายู อาหารนี้จึงได้ผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมจีนและมาเลย์ โดยเป็นอาหารเส้นๆ แบบวัฒนธรรมของจีน ส่วนเครื่องเทศในซุปแสนเผ็ดร้อนแบบมาเลย์

ลักซา มี 2 ประเภท คือ น้ำแกงแบบกะทิ กับ น้ำแกงแบบใส ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมทานกัน เป็นลักซาน้ำกะทิ คล้ายๆ กับก๋วยเตี๋ยวแกงของบ้านเรา ส่วนน้ำกะทิมีเครื่องเคียงหลายแบบ ใช้ไก่บ้าง อาหารทะเลบ้าง ที่ขาดไม่ได้คือ เต้าหู้ทอด ถั่วงอก และผักแพว



แนะนำ
**ร้านกะทงลักซ่า (328 Katong Laksa ) เป็นลักซาต้นตำหรับ มีความแตกต่างของลักซาที่นี่ คือ กินโดยไม่ต้องใช้ตะเกียบ เพราะเส้นมันถูกตัดมาแล้ว แนะนำให้นั่ง MRT หรือ รถเมล์ที่ไปถนน Joo Chait Road คล้ายกับว่ากำลังอยู่ในมาเลเซีย เพราะเห็นผู้หญิงคลุมผ้าแต่งตัวแบบมาเลเดินอยู่เต็มไปหมด ร้าน 328 Katong Laksa จะอยู่ตรงหัวมุม Joochiat Road ร้านนี้คนเข้าคิวรอ

** Food Court ที่ย่านไชน่าทาวน์ ถัด Smith Street ไปอีกบล๊อก มีร้านขนมของจีนหลายร้าน

**ร้าน Thai Express เป็นร้านอาหารไทย ที่เจ้าของเป็นชาวสิงคโปร์ ปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วไปในสิงคโปร์ และเปิดสาขาต่างประเทศด้วย อยู่ระหว่างทางเชื่อมสถานีรถไฟใต้ดิน City Hall กับ ศูนย์การค้า Suntec ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางการค้า ที่มีคนพลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์

**มีทุก ศูนย์อาหารต่างๆ หรือ ที่สนามบินในสิงคโปร์ มีขายรสชาติอร่อยใช้ได้


3. ปูผัดซอสพริก (Chili Crab)
Chili Crab หรือ ปูศรีลังกาผัดซอสพริก สูตรพิเศษของสิงคโปร์ ที่ใครได้ชิมแล้วเป็นต้องติดใจไปทุกราย ถือเป็นอาหารจานหลักอย่างหนึ่งของเมืองสิงโต ปูผัดซอสพริกนี้ มีรสเปรี้ยวหวานของมะเขือเทศกับซอสน้ำซอสผสมกัน ทานกับ Bun หรือ หมั่นโถว (Mantou) จิ้มน้ำซอส รสชาติของเนื้อปูเนี่ยจะนุ่มนิดๆ เด้งๆ คือ เค้าทำมาสุกกำลังดี ลงตัวมากๆ หาทานได้ตามร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังทั่วไป


แนะนำ
**ย่าน Chinatown
-ร้าน Tiong Shian Porridge เปิดตั้งแต่เช้า มีพวกโจ๊กอร่อยๆ ขาย ส่วนอาหารทะเลเริ่มสั่งได้ตั้งแต่ 11 โมงครึ่ง ออกจากสถานีรถไฟฟ้า MRT Chinatown แล้ว เดินเรียบถนนใหญ่ (ถนน New Bridge) ไปประมาณ 200 เมตร ก็จะเห็นร้านเลย คนนั่งกินเยอะๆมากๆ ปูผัดพริกไทยดำ เนื้อแน่นมาก 2 ตัว ประมาณ 32 เหรียญ
-ร้าน Yam Cha ในไชน่าทาวน์ เป็นปูผัดไข่เค็ม โดยปูเขาตัวใหญ่ เป็นปูศรีลังกา ปูผัดพริกไทยดำที่ร้านนี้ หน้าตาน่ากินทีเดียว และมีเมนู ขากบอบหม้อดิน Frog Porridge ขากบใหญ่ๆ แน่นๆ อร่อยดี

**อยู่แถวๆ โรงแรม The Fullerton Hotel ที่เดินมาจาก ที่โชว์สิงห์โตขาว Merlion ปูที่นั่นตัวใหญ่มาก (ก้ามก็ใหญ่)

**ย่าน Clark Quay
-ร้าน QuaySide Seafood ปูศรีลังกาผัดพริก เป็นแบบ Open Air นั่งติดกับแม่น้ำ ดูบรรยากาศของแสดงไฟกลางคืนไป ทานอาหารทะเลไป โรแมนติกได้รางวัลร้านอาหารทะเลยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อนเลย
-ร้านปู Jumbo ตรงสถานีคลากคีย์ (Clarke Quay) ตรงข้ามห้าง Central ลงสั่ง Chili Crab แบบผัดเกลือกับพริกไทยดำ และ เมนูกุ้งผัดซอสมะนาว อร่อยมากๆ จ้า

**ร้าน NO SignBoard SeaFood เว็บ http://nosignboardseafood.com/ เป็นร้านเก่าแก่ที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 1981 เป็นแค่ร้านเล็กๆ ธรรมดาๆ ไม่มีป้ายหน้าร้าน เขาทำอาหารซีฟู๊ดจนดัง อยู่ย่าน The Esplanade, 8 Raffles Avenue แนะนำให้นั่งรถเมล์เพราะมีหลายสายผ่านที่ร้าน แต่ไปรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ก็สะดวกกว่าดี ลงที่สถานี City Hall, แล้วเดินมาที่ Esplande linkway

**แถวย่าน East coast ปูผัดพริกไทดำ อร่อยมากๆ ชื่อร้าน Long Beach

หมายเหตุ: ร้านที่ขายปูผัดซอสพริก มีกระจายมีอยู่ทั่วทุกมุมของสิงคโปร์เลย หาทานง่าย


4. บักกุ๊ดเต๋ (Bak kut teh)
อาหารประจำชาติสิงคโปร์อีกอย่างที่น่าสนใจ คือ บักกุ๊ดเต๋ หรือ ซี่โครงหมูอ่อนตุ๋นยาจีน อร่อยตรงน้ำซุป ปรุงด้วยเครื่องเทศสมุนไพรต่างๆ แต้จิ๋ว น้ำซุปใสเผ็ดร้อนพริกไทย รสชาติกลมกล่อม ที่สำคัญขอเติมน้ำซุปได้ด้วย เสิร์ฟด้วยข้าวสวย หรือปาท่องโก๋ และชาจีน

บักกุ๊ดเต๋ นิยมใช้ ซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ที่มีเนื้อติดกระดูกเยอะๆ หมักด้วยเกลือกับพริกไท และซ้อสปรุงรส แล้วนำไปทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ เพื่อไม่ให้เปื่อยด้านนอก เวลาตุ๋นนานๆ จากนั้นนำน้ำไปตุ๋นในน้ำแกงใส่เครื่องปรุงแบบจีน เป็นต้นว่า โป๊ยกั้ก, อบเชย, กานพลู, ตังกุย, เม็ดยี่หร่า, พริกไทเม็ด และ กระเทียม โดยเคี่ยวด้วยไฟเบาๆ ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ส่วนร้านไหนมีทีเด็ดอะไรพิเศษ ก็เป็นสูตรทางเทคนิคของแต่ละร้านไป



แนะนำ
**ร้าน NG AH SIO PORK RIBS SOUP EATING HOUSE ร้านนี้มีชื่อเสียงโด่งดังว่าเป็นร้านบักกุ๊ตเต๋ที่อร่อยทีสุดในสิงคโปร์ อยู่ย่านถนน Rangoon แนะนำให้นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่สถานี Farrer Park Exit B แล้วเดินไปตามถนนประมาณ 1 ป้ายรถเมล์

**ร้าน 333 Bakkutteh (ถนน Balestier ตรงข้ามกับ Shaw Plaza) จากร้านนี้เดินไปร้านข้าวมันไก่ Boon Tong Kee สาขา Balestier ใกล้นิดเดียว

**ร้าน Songfa (เว็บไซด์ http://www.songfa.com.sg/) มีคนเต็มแทบทุกวัน เปิดบริการ 11.00 -22.00 น. และหยุดทุกวันจันทร์ อยู่ติดกับ Clarke Quay หาง่าย


5. มะตะบะ (Matabak/Murtabak)
มะตะบะ เป็นอาหารประจำชาติของชาวมุสลิม มะตะบะของสิงคโปร์ ได้ประยุกต์ขึ้นมา โดยการนำแป้งมาห่อไส้ที่ประกอบไปด้วย หอมใหญ่ เครื่องเทศ เนื้อวัว เนื้อไก่ อาจผสมกับไข่ไก่ หรือผักชนิดต่างๆ ก่อนนำมาทอดกับน้ำมันและเนยเทียม ทานคู่กับน้ำจิ๋ม

มะตะบะของสิงคโปร์ คล้ายๆ กับพิซซ่าในแบบพื้นเมือง สอดไส้ด้วยเนือแกะหรือเนื้อไก่สับที่ปรุงรสแล้วเสิร์ฟพร้อมแกงกะหรี่


แนะนำ
**ร้านแกงกะหรี่ บนถนน Race Course
**Chinatown Food Street ที่ถนน Smith Fisherman’s Village ที่ Paris Ris
** ศูนย์อาหาร Newton Hawker Centre
**ร้าน Singapore Zam Zam Restaurant Pte Ltd อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับ Sultan Mosque
**ตามร้านอาหารต่างๆ ที่ ตั้งอยู่รอบมัสยิดเลียบถนน North Bridge


6. สะเต๊ะ (Satay)
สะเต๊ะ เป็นอาหารมลายู แต่ชาวไทยนำไปประยุกต์ ทำให้มีหมูสะเต๊ะรับประทานกัน ส่วนสะเต๊ะของชาวสิงคโปร์ รสชาติจะไม่แตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่นัก แต่เขาจะไม่มีน้ำจิ้มถั่ว หรือ น้ำอาจาดแบบบ้านเรานะจ๊ะ น้ำจิ้มของเค้าค่อนข้างเผ็ดกว่าเมืองไทย แต่เค้าให้น้ำจิ้มมากๆ รับประทานกับผัก เช่น แตงกวา หอมแขก และที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวปั้นเป็นก้อนกลมๆห่อใบตองนึ่ง เนื้อสะเต๊ะส่วนใหญ่จะเป็น เนื้อกุ้ง เนื้อไก่ เนื้อแพะ เนื้อแกะ เนื้อวัว ไม่มีเนื้อหมู มีคนทานเยอะเพราะว่าสะเต๊ะของเขาหอม และอร่อยมากๆ ราคาก็ไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ เสิร์ฟกับข้าวต้มมัด แตงกวาและซอสถั่วเข้มข้นจ้า

สะเต๊ะที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ ได้แก่ City Satay, Kwong Satay และ Fatman Satay เป็นต้น


แนะนำ
**ร้าน King Satay Club เดินเลียบแม่น้ำไป พอสุดตึกที่เป็นโรงแรม Novotel Clarke Quey ก็เลี้ยวขวา ร้านที่ 2 ทางซ้ายมือ

**ถนน Robinson ตลาดกลางคืน ชื่อ ตลาด Lao Pa Sat เป็นศูนย์อาหารเก่าแก่ของสิงค์โปร์ ช่วงกลางวันเป็นศูนย์อาหารธรรมดา แต่ช่วงกลางคืนเป็นถนนสะเต๊ะ มีหลายร้าน เช่น ร้าน Boon Tat ST BBQ (เลขที่ร้าน 43/44), ร้าน Satay Club gxHo9ho มีโต๊ะไปวางบนถนนรอบๆ Lau Pa Sat แล้วตั้งร้านกัน สำหรับการเดินทางมาที่ Lau Pa Sat แนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Raffles Place แล้วเดินมาทางออก เดินครงมาทางด้านขวามือ เดินไปเรื่อยๆ ตามชายคาตึก ผ่านสำนักงานของ AIA ข้ามถนน Telegarph ตรงมาจะเห็น Lua Pa Sat อยู่ข้างหน้า

นอกจากนั้น อาหารจานเด็ดทั้ง 6 อย่างแล้ว ยังมีอาหารยอดนิยมอื่นๆ คือ อาหารก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ก๋วยเตี๋ยวเห็ดหอม ส่วนใหญ่เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง มีอยู่มากมายทั่วเกาะ เนื่องจากสิงคโปร์เคยเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย จึงได้รับวัฒนธรรมด้านอาหารจากชาวมาเลย์ ซึ่งตั้งรกรากอยู่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งยังมีอาหารจีนด้วยเช่นกัน

ชอบทานแบบไหน ลองเลือกเองนะจ๊ะ

1 ความคิดเห็น :