วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เที่ยวมอสโก แดนหมีขาว ตอน 2 (จบ)

กรุงมอสโก นอกจากเป็นเมืองที่ใหญ่สุดในประเทศรัสเซียแล้ว ยังเป็นหนึ่งในมหานครที่ใหญ่ที่สุดโลกด้วย อีกทั้งเป็นศูนย์กลางด้านการเมือง การเงิน เศรษฐกิจ และการคมนาคมของแดนหมีขาว เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์มากมาย




ไปดูกันว่า มอสโก มีสถานที่ท่องเที่ยวใดบ้าง หากคุณมีโอกาศไปเที่ยวที่นี่




1. สถานีรถไฟใต้ดิน มอสโก
มาถึงกรุงมอสโกแล้ว ลองนั่งรถไฟใต้ดิน มอสโก ดู เพราะว่า รถไฟใต้ดินนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่ชาวรัสเซียสามารถอวดชาวต่างชาติให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ มีประวัติศาสตร์ ความเป็นชาตินิยม และวัฒนธรรมประเพณีอันสวยงาม ด้วยการตกแต่งของแต่ละสถานีนั้นมีความแตกต่างกันด้วย ประติมากรรม โคมไฟระย้า เครื่องแก้ว หินแกรนิต หินอ่อน ล้วนแล้วแต่ปราณีต สวยงาม

    



สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโก ได้รับการกล่าวขวัญว่า เป็นสถานีรถไฟใต้ดินแห่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยศิลปะงดงามน่าชื่นชม โดยเพดานของสถานีนั้นเป็นสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก มีแชนเดอเลียแขวนประดับเพิ่มความงามหรู แถมแต่ละสถานียังงดงามอย่างไม่ซ้ำกัน


2. จัตุรัสแดง
สถานที่สำคัญของกรุงมอสโก ตั้งอยู่กลางใจเมืองของมอสโก ทางด้านหน้าจัตุรัสแดงนั้น เป็นที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซีย สังเกตุได้จากที่พื้นถนนจะมีสัญลักษณ์เป็นวงกลม และภายในวงกลมนี้ มีนักท่องเที่ยวเข้าไปยืนกลางวงกลมนั้นและโยนเศษ เหรียญข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลังเพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมาที่มอสโกอีกครั้ง ชื่อของจัตุรัสแดงอาจจะฟังดูแล้วนึกถึงการนองเลือด แต่แท้จริงๆ แล้วคำว่า จัตุรัสแดง หมายถึงความสวยงาม ความดีงามเท่านั้น ลานกว้างของจัตุรัสแดงนี้มีพื้นที่กว้าง 695 เมตร ยาว 130 เมตร ทำหน้าที่เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ต่างๆ ของรัสเซียมาหลายยุคหลายสมัย คล้ายๆ กับสนามหลวงของไทย ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีต่างๆ ของประเทศ เช่น การสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของกองทัพรัสเซียในโอกาสต่างๆ รวมไปถึงการชุมนุมเรียกร้องเดินขบวนของประชาชนด้วยเช่นกัน




บริเวณจัตุรัสแดง ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รายรอบอีกมากมาย เช่น พระราชวังเครมลิน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์รัสเซีย และห้างสรรพสินค้า GUM (ห้างกุม) จตุรัสแดง เป็นสถานที่ประกาศข่าวต่อสาธารณะชน และที่ประหารชีวิตทางด้านทิศใต้หน้าวิหารเซนต์บาซิล มีแท่นหินรูปกลมยกพื้นขึ้น มีชื่อว่า " Lopnoe Mesto "เป็นแท่นที่ประทับของพระเจ้าซาร์และนักบวชเพื่อพบกับประชาชนและปราศรัยกับฝูงชนที่เข้ามาเฝ้าสีแดง หรือ ดราสนายา ในภาษารัสเซียหมายถึง ความงาม สีแห่งโชคลาภ ความมั่นคง ร่ำรวย ชัยชนะ

ภาษารัสเซีย จตุรัสแดง ว่า "คราสนายา ปลอซซาด" เป็นจตุรัสสวยงามที่สุดในโลก เป็นสถานที่เก็บศพเลนิน ศาสดาของประเทศสังคมนิยม สร้างด้วยหินแกรนิต และหินอ่อน นับล้านชิ้นตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสก เป็นพื้นที่ลานกว้าง ซึ่งมีบางท่านได้เปรียบเทียบว่า ลานจตุรัสแดงที่กว้างขนาดนี้ คล้ายท้องสนามหลวง จตุรัสแดงนั้นไม่ได้มีความสำคัญแค่ประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเท่านั้น หากเพียงแต่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชนชาติเผ่าพันธุ์ คือ ศูนย์รวมทางจิตวิญญาณทั้งมวลของชาวรัสเซีย ที่ได้มีบทบาทและส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงที่ยื่งใหญ่และสำคัญของบ้านเมืองเกือบจะทุกครั้ง คือความทรงจำที่ผ่านมารุ่นต่อรุ่นที่ชาวรัสเซียสัมผัสได้


3. มหาวิหารเซนต์บาซิล




วิหารเซนต์บาซิล ประกอบด้วยยอดโดม 9 ยอด ที่มีสีสันสวยงาม สดใส ใครๆ ก็ตั้งชื่อเล่นให้วิหารนี้ว่า “โบสถ์ลูกกวาด” สร้างด้วยศิลปะรัสเซียโบราณโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย Postnik Yakovlev ที่หลังจากสร้างเสร็จก็ถูกควักดวงตาทั้งสองข้าง โดยคำสั่งของพระเจ้าอีวานที่ 4 หรือ กษัตริย์อีวานผู้โหดร้าย ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มาก จึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จแก่สถาปนิกผู้ออกแบบด้วยการควักดวงตาทั้งสอง เพื่อไม่ให้สถาปนิกผู้นั้นสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก


4. หอนาฬิกาซาวิเออร์



หอนาฬิกาซาวิเออร์ ตั้งอยู่บนป้อมสปาสสกายา ที่มียอดเป็นนาฬิกา เป็นศิลปะโกธิก บนยอดมีดาวแดง 5 แฉก ที่ทำมาจากทับทิมน้ำหนัก 20 ตัน ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์นำมาประดับไว้เมื่อปี ค.ศ.1995 มีลักษณะคล้ายหอบิ๊กเบนที่ลอนดอน ว่ากันว่าเมื่อก่อนนี้นาฬิกาเรือนนี้เดินไม่ค่อยจะตรงเท่าไรนัก แต่ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงจนนาฬิกาบนป้อมนี้ถูกใช้เป็นนาฬิกาเทียบเวลาของประเทศทีเดียว



5. ห้างสรรพสินค้ากุม มอสโก



ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย สร้างในปีค.ศ.1895 เป็นอาคารสูง 3 ชั้น อาคารที่ออกแบบโดย Aleksander Pomerantsev ในรูปแบบที่เรียกว่า Russian Revival มีหลังคากระจกโค้ง โครงเหล็กให้แสงส่องเข้ามาให้ความสว่างแก่ตัวอาคารเพื่อประหยัดพลังงาน มีร้านค้าเปิดให้บริการมากมายสำหรับให้ผู้ที่เดินทางหรือผู้ที่ชอบการช้อปปิ้งถึง 200 ร้านค้าด้วยกัน เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่โตและสวยงาม มีความโดดเด่น จำหน่ายสินค้าจำพวกแบรนด์เนม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง น้ำหอม และสินค้าที่เป็นประเภทของที่ระลึก ซึ่งมีให้เลือกกันอย่างหลากหลายทีเดียว


6. อนุสรณ์สถานเลนิน



อนุสรณ์สถานเลนิน เป็นที่เก็บศพสร้างด้วยหินอ่อนสีแดง ภายในมีศพเลนินนอนอยู่บนแท่นหินมีโลงแก้วครอบอยู่ ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสหน้าวังเครมลิน นับว่าเลนินเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียตที่ยังมีคนนับถือ พรรคคอมมิวนิสต์ได้เปลี่ยนชื่อเมืองสำคัญคือนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มาเป็นเมืองเลนินกราดเมื่อ ค.ศ.1924 เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา แต่ได้กลับมาใช้ชื่อเดิมอีกหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต


7. ถนนอารบัต




ถนนอารบัต เป็นถนนคนเดินยาวประมาณ 1 กม.เป็นทั้งย่านการค้า แหล่งรวมวัยรุ่น ร้านค้าของที่ระลึก ร้านนั่งเล่น อาทิ แมคโดนัล สตาร์บัค ฮาร์ดร็อคคาเฟต์ ฯลฯ และยังมีศิลปินมานั่งวาดรูปเหมือน รูปล้อเลียน และศิลปินเล่นดนตรีเปิดหมวกอีกด้วย


8. ละครสัตว์รัสเซียนเซอร์คัส



ท่วงท่าอันอ่อนช้อยพริ้วไหวของนักแสดงกายกรรมที่ล่องลอยยอยู่ในอากาศ ทุกจังหวะเวลาสอดประสานเสียงดนตรีนุ่มนวล สะกดคนดูให้อยู่นิ่งกับที่ เหล่าสัตว์เลี้ยงน้อยใหญ่แสดงท่าทางผิดกับสัตว์ทั่วไป ช่างน่ารักแสนรู้ น่าเอ็ดดู ยามเมื่อแสดงกับนักแสดงกายกรรมก็พริ้วไหวประสานสอดคล้องกันไม่ผิดพลาดเลย ละครสัตว์รัสเซียโด่งดังไปทั่วโลกเพราะฝึกสัตว์ทั้งเล็กใหญ่ให้เเสดงท่วงท่าต่างๆได้อย่างลงตัว อีกทั้งนักแสดงกายกรรมก็ล้วนประณีตในการว่างท่าได้อย่างลงตัวทั้งท่าทางแข็งแรงและนุ่มนวล


9. พระราชวังเครมลิน
พระราชวังเครมลิน ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีต เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย แต่ได้ถูกปฏิวัติเป็นคอมมิวนิสต์ และได้ใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลเครมลิน เป็นชื่อของนักการเมือง พอระบบสังคมนิยม ล่มสลายเป็นประชาธิปไตย ได้เปิดให้เป็ แหล่งท่องเที่ยว จนถึงปัจจุบัน สถาปัตยกรรมของกรุงมอสโกนั้น



"เครมลิน" มีความหมายว่า ป้อมปราการ มีความยาวล้อมรอบ 2,235 เมตร มีหอคอย 18 แห่ง (เพื่อป้องกันการรุกรานจากประเทศเพื่อนบ้าน) โดยมีการปรับปรุงต่อเติมมาเรื่อยๆ เริ่มจากใช้อิฐสีขาวเป็นรอบรั้วกั้นกำแพงแต่ในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาเป็นอิฐสีแดง ซึ่งความสูงของหอคอยแตกต่างกันระหว่าง 28-71 เมตร





ภายในพระราชวังแห่งนี้ประกอบด้วย ปราสาท โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ คลังแสง อาวุธยุทธภัณฑ์ หอคอย ป้อมปราการ หอสูง ยอดแหลม และโดมมากมาย มีกำแพงสูง 65 ฟุตรอบพระราชวัง มีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร พระราชวังจักรพรรดิอยู่ตรงกลาง หอคอยอิวานเวลิกี้สูง 270 ฟุต เป็นที่แขวนระฆัง ของพระเจ้าโบริสดูนอฟ ผู้อยู่บนหอคอย จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพ กรุงมอสโก ที่สวยงามได้อย่างชัดเจน






บรรดาหอคอย หอสูง โดม ป้อมปราการเหล่านี้ เมื่อแสงพระอาทิตย์สาดมาต้อง จะเห็นเป็นสีทอง เปล่งปลั่ง สุกอร่าม งามตื่นตาตื่นใจยิ่งนักประตูสำคัญ คือประตูโปรดชำระบาป ซึ่งพระเจ้าซาร์อะเล็กซิส โปรดให้สร้างเมื่อปีค.ศ. 1491 โปรดให้ติดโคมใหญ่ไว้บนยอดดวงหนึ่งประตูนี้เคยมีพระบรมราชโองการรับสั่งให้ผู้ผ่านเข้าออกต้องถอดหมวก แสดงความเคารพ ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกจับประหารชีวิต ถัดไปไม่ไกล มีมหาวิหารอัครเทวทูต ซึ่งมีที่ตกแต่งไว้อย่างงดงาม เพื่อใช้เป็นสุสานฝังพระศพของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ นอกจากนี้ ยังมีโบสถ์อัสสัมชัญซึ่งสร้างไว้อย่างประณีตบรรจงเป็นพิเศษ



พระราชวังเครมลิน ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งอดีตอันยิ่งใหญ่ศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของรัสเซีย ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 170 ไร่ รอบล้อมด้วยกำแพงสีแดงและหอคอย ภายในมีปราสาท โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ คลังแสง อาวุธยุทธภัณฑ์ หอคอย ป้อมปราการ วิหาร โบสถ์อัสสัมชัญ หอสูง ยอดแหลม ประตูสำคัญ และโดมมากมาย มีกำแพงสูง 65 ฟุต รอบพระราชวัง มีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร บรรดาหอคอย หอสูง โดม ป้อมปราการเหล่านี้ เมื่อแสงพระอาทิตย์สาดมาต้อง จะเห็นเป็นสีทอง เปล่งปลั่ง สวยงามมาก


10. พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์




พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่ ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ เป็นสถานที่ที่ใช้เก็บรวบรวมศาสตราวุธขุมทรัพย์ เครื่องประดับที่ได้จากการริบมาจากสงครามทั้งมงกุฎ, เพชรนิลจินดา และสิ่งของมีค่ามากมายมหาศาล รวมถึงเครื่องราช อิสริยาภรณ์ของพระเจ้าซาร์ เครื่องเงิน เครื่องทอง นำท่านเข้าชมห้องมหาสมบัติของราชวงศ์รัสเซียน ที่เต็มไปด้วยเพชรและอัญมณีมีค่ามากมาย ที่ห้อง The State Diamond Fund สถานที่เก็บทรัพย์สินของแผ่นดิน ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมหาอำนาจและความร่ำรวย สิ่งของที่จัดแสดงล้วนทำมาจากทองคำ, มรกต, เพชร และอัมพัน ที่จะทำให้ลืมความร่ำรวยและความยิ่งใหญ่จากพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในโลกที่เคยได้ชมมา


11. โบสถ์อัสสัมชัญ



โบสถ์อัสสัมชัญ ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโก สร้างในสมัยพระเจ้าอีวานเมื่อปี ค.ศ.1559-1585 เลียนแบบมหาวิหารอัสสัมชัญที่จตุรัสวิหารแห่งเคลมลิน ภายในตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกและภาพไอคอน 5 ชั้น,วังพระเจ้าซาร์,หอระฆัง ต้องการสร้างให้เหมือนหอระฆังที่จัตุรัสวิหารแห่งพระ ราชวังเคลมลิน แต่ที่นี่สูงกว่าคือสูงถึง 98 เมตร,เสาหินโอบิลลิสก์ และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์


12. ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์



ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ สร้างขึ้นในปีคศ.1586 โดยพระเจ้าฟีโอดอร์ ผู้ซึ่งทรงพระประสงค์สร้างปืนใหญ่ที่สุดในโลก จึงได้ให้ Andrey Shchokov ช่างหล่อที่เก่งสุดยุคนั้น ออกแบบเพื่อสร้างปืนใหญ่ขึ้น เนื้อโลหะหล่อทำด้วยบรอนซ์ น้ำหนัก 40 ตัน มีลูกกระสุนหนักลูกละ 1 ตัน จำนวน 4 ลูก ตัวปืนใหญ่ยาว 5.34 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกกระบอกปืน 120 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางรอบใน 89 ซม. ลำกล้องมีความหนา 31 ซม. อย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่นี้ยังไม่เคยมีการใช้ยิงเลย


13. ระฆังพระเจ้าซาร์



ระฆังพระเจ้าซาร์ มีน้ำหนักมากกว่า 200 ตัน สร้างในสมัยพระนางแอนนาที่ทรงประสงค์จะสร้างระฆังใบใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อนำไปติดบนหอระฆัง แต่เมื่อปี 1701 ไฟไหม้หอคอย ระฆังจึงตกแตกเป็นเสี่ยงๆ ดังนั้นกษัตรีซารีนา อานนา ทรงรับสั่งให้นำเศษซากระฆังที่แตกให้มาหล่อใหม่เป็นครั้งที่สองในปี 1737 แต่เกิดความผิดพลาดระหว่างการหล่อทำให้ระฆังแต


14. มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์



มหาวิหารเซ็นต์ซาเวียร์ หรือ มหาวิหารโดมทอง ตั้งอยู่ที่เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย เป็นมหาวิหารที่ใหญ่สุดในรัสเซียและสำคัญของนิกายรัสเซียนออโธดอกซ์ ใช้ประกอบพิธีกรรมใหญ่ ๆ ระดับชาติ สร้างเพื่อรำลึกถึงพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ผู้ซึ่งสามารถขับไล่กองทัพนโปเลียนไปได้ ภายในตกแต่สวยงามจากสถาปนิกเลื่องชื่อมากมาย ในสมัยของสตาลิน เคยสั่งให้ทุบทำลายสถานที่แห่งนี้ จนกระทั่งในสมัยประธานาธิบดีบอริส เยลซิน จึงได้มีการบูรณะขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1990 ประชาชนชาวรัสเซียช่วยกันบริจาคเพื่อบูรณะขึ้นมาใหม่เนื่องในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 850 ปี แห่งการสถาปนากรุงมอสโคว์ มหาวิหารโดมทองแห่งนี้ จึงกลายเป็นสถานที่หลักในการประกอบพิธีกรรมทางคริสตศาสนาของประเทศรัสเซีย


15. ตลาดอิสไมลอฟสกี้





ตลาดของฝากและของที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดของกรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและสินค้าน่าซื้อหา มีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมและมีชีวิตชีวายิ่งนัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ ใครมาที่มอสโคว์ ก็ไม่พลาดที่จะมาเลือกช้อปปิ้งที่นี่ เชิญเลือกซิ้อสินค้าที่ระลึกต่างๆ ในราคาย่อมเยาว์ อาทิ ตุ๊กตาแม่ลูกดก เครื่องประดับจากอำพัน งานหัตถกรรมพื้นบ้าน เป็นต้น

  

เมื่อได้มาสัมผัสกับสถาปัตยกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ถือเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจ กับการได้ใช้วันเวลาอย่างเต็มอิ่ม เมืองหลวงแดนม่านเหล็กมีอะไรมากกว่าที่คิด ลองไปเที่ยวดูนะ

เที่ยวมอสโก แดนหมีขาว ตอน 1

“รัสเซีย” ได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนหลังม่านเหล็ก ประเทศมหาอำนาจของค่ายสังคมนิยม หรือ คอมมิวนิสต์ ที่มีประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่หลากหลาย และเป็นดินแดนที่มีการผลัดเปลี่ยนการยึดครองหลายชาติ เผ่าพันธุ์ อีกทั้ง มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ชนชาติอยู่รวมกันมากกว่า 100 เชื้อชาติ หลายศาสนา



ปัจจุบัน รัสเซีย ได้มีการปฎิวัติเศรษฐกิจ การเมือง และการปกครอง เพื่อก้าวไปทันกระแสโลกาภิวัฒน์-ของโลก รวมทั้งยังเปิดประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกับประเทศไทย ที่เพิ่งจะมีการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างไทย-รัสเซีย ครบ 110 ปี นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 5 เสด็จไปเยือนรัสเซียเมื่อพ.ศ. 2440

 


“มัชรูมทราเวล” เจาะลึกเรื่องราวและสถานที่ท่องเที่ยว ณ กรุงมอสโก เมืองหลวงของดินแดนหมีขาว หลายคนอาจไม่เคยไปเยือนที่นี่ ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับมหานครแห่งนี้






มอสโก ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมัสกวา ตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 1 ใน 10 ของประเทศ และหนาแน่นที่สุดในยุโรป เมื่อสมัยที่รัสเซียยังไม่ล่มสลาย ในปี พ.ศ. 2550 มอสโกได้รับการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ตามมาด้วย ลอนดอน และ กรุงโซล ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์ของมอสโกเก่าแก่ที่สุดที่หาได้นั้นเริ่มจากการเป็นเมืองเล็กๆ




ในปี ค.ศ. 1147 ณ ที่หมู่บ้านภูเขา 7 ยอด เจ้าชายยูริ โดลการูคิน ซึ่งเป็นต้นตระกูลของราชวงศ์รัสเซีย ได้สร้างเมืองขึ้นบนเนินเขาริมแม่น้ำมอสโก สร้างป้อมปราการต่างๆ มากมาย เพื่อไว้ต้านข้าศึกผู้รุกราน ป้อมปราการเหล่านี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของพระราชวังเครมลิน ที่มีชื่อเสียงและกลายเป็นสัญลักษณ์ของรัสเซีย อาณาจักรรัสเซียได้ขยายออกกว้างใหญ่ขึ้น จนกระทั่งถูกกองทัพมองโกเลียของเจงกีสข่านบุกเข้าโจมตี และยึดเอาอาณาจักรรัสเซียได้ทั้งหมด ทำให้รัสเซียต้องส่งเครื่องบรรณาการให้แก่มองโกเลียเป็นประจำ



จนกระทั่งถึงสมัยพระเจ้าอีวานที่ 3 แห่งรัสเซียได้ประกาศอิสรภาพไม่ขึ้นกับมองโกเลีย รัสเซียได้เป็นอิสระอีกครั้งและได้สถาปนากรุงมอสโกเป็นเมืองหลวง หลังจากนั้นอาณาจักรรัสเซียได้ถูกปกครองภายใต้ระบบซาร์แห่งราชวงศ์โรมานอฟ จนกระทั่งสมัยซาร์ปีเตอร์มหาราชได้สร้างนครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อปี 1703 และย้ายศูนย์กลางการปกครองไปอยู่ที่ นครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก



หลังจากนั้นได้มีการปฏิวัติครั้งใหญ่ขึ้นในปี ค.ศ. 1917 โดยมีวลาดิมีร์ อีลิช เลนิน เป็นผู้นำการปฏิวัติสังคมนิยม และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของระบอบการปกครองแบบสังคมนิยม หรือ ระบบคอมมิวนิสต์ โดยมีศูนย์การปกครองที่กรุงมอสโก และเป็นผู้นำในกลุ่มประเทศสังคมนิยมและตัวแปรที่สำคัญของเวทีการเมืองโลก ปัจจุบัน รัสเซีย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย มีประธานาธิบดีเป็นประมุข และ กรุงมอสโกเป็นเมืองหลวงประเทศ



เวลาใน กรุงมอสโก จะช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมงในฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน–มีนาคม) และ 3 ชั่วโมงในฤดูร้อน (เดือนเมษายน-ตุลาคม) ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ เงินสกุลใช้รูเบิล (อัตราแลกเปลี่ยนเงินรูเบิลต่อเงินไทยประมาณ 1.1050) มีระบบไฟฟ้า 220 โวลต์เหมือนในบ้านเรา แต่เป็นปลั๊กกลมสองขา สำหรับการคมนาคมในมอสโกนั้น นิยมขึ้นรถไฟใต้ดิน รถราง และรถบัสประจำทาง แต่ไม่นิยมนั่งรถแท๊กซี่เนื่องจากราคาแพง



ปัจจุบัน คนไทยได้รับการยกเว้นเรื่องวีซ่าเพื่อเดินทางเข้ารัสเซีย ทำให้การเดินทางยังประเทศนี้ง่าย สะดวก อย่างไรก็ตาม สนามบินของรัสเซียค่อนข้างเข้มงวดเรื่องน้ำหนักกระเป๋า จึงควรระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ การเดินทางไป มอสโก นั้น เป็นเรื่องง่ายและสะดวก ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปกรุงมอสโกประมาณ 9 ชั่วโมงครึ่ง อย่างไรก็ตาม ท่านควรพกพาสปอร์ตหรือสำเนาติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา เพราะเจ้าหน้าที่รัสเซียค่อนข้างเข้มงวดเรื่องเอกสารประจำตัว




มอสโก มีสนามบินนานาชาติถึง 5 แห่งเปิดให้บริการ พร้อมด้วยสถานีรถไฟเก้าแห่งไว้รองรับรถไฟที่มาจากยุโรปและเอเชีย ส่วนการคมนาคมภายในประเทศนั้น มี มอสโก เมโทร ซึ่งเป็นรถไฟใต้ดินที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ประกอบไปด้วย รถไฟ 12 สายและสถานีรถไฟ 176 แห่ง อีกทั้ง ยังมีรถโมโนเรล รถราง รถบัส และเครือข่ายรถไฟฟ้าไว้คอยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไป-กลับจากโรงแรม



สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโก ได้รับการกล่าวขวัญว่า เป็นสถานีรถไฟใต้ดินแห่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยศิลปะงดงามน่าชื่นชม โดยเพดานของสถานีนั้นเป็นสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก มีแชนเดอเลียแขวนประดับเพิ่มความงามหรู แถมแต่ละสถานียังงดงามอย่างไม่ซ้ำกัน นอกจากนี้ กรุงมอสโก ยังมีสถานที่พักให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โรงแรมราคาประหยัดไปจนถึงโรงแรมระดับห้าดาว




มอสโก ไม่ใช่เป็นเพียงเมืองหลวงของประเทศรัสเซียเท่านั้น ยังเป็นอีกหนึ่งมหานครที่ใหญ่สุดของโลก และเป็นศูนย์รวมแห่งความเจริญ ทั้งทางด้านศึกษา ด้านการเมือง การเงิน เศรษฐกิจ และการคมนาคม ซึ่งเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์มากมาย




อีกทั้ง มอสโก ยังเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะของรัสเซีย มี โรงละครบอลชอย ที่ยังคงจัดแสดงบัลเลต์ โอเปร่า และคอนเสิร์ตให้ได้รับชมกัน และมีถนน Tverskaya ศูนย์กลางของสถานบันเทิงและแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี บาร์ และภัตตาคารหรูหรามากมาย มอสโก เป็นเมืองที่มีแหล่งช็อปปิ้งพลุกพล่านที่สุด มีแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังให้เลือกหลากหลาย หากท่านไปเดินช้อปปิ้งตามย่านที่นักท่องเที่ยวนิยมไป ร้านค้ามักจะรับทั้งเงินดอลลาร์และยูโรด้วย แต่ควรคำนวณให้ดีว่าใช้เงินสกุลไหนคุ้มค่ากว่ากัน


   

มอสโก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจเมืองหนึ่งของประเทศรัสเซีย ที่ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมทั้งเก่าและใหม่ ผสมผสานกันอย่างลงตัว มีโบสถ์สวยงามมกากว่า 200 แห่ง และหนึ่งในจุดเด่นของ กรุงมอสโก คือ วิหารเซนต์บาซิล พระราชวังเครมลิน และ จัตุรัสแดง ขณะที่ ถนนโอลด์ อาร์บัท เหมาะเป็นสถานที่สำหรับไปเลือกซื้อของฝากน่ารักๆ และ ถนนนิว อาร์บัท เป็นแหล่งไนท์คลับและภัตตาคารไฮโซ



มอสโก มีสถานที่สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์อันงดงามอยู่มากมาย นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางมาที่นี่ เพื่อสัมผัสกับความงดงามคลาสสิก มอสโก เป็นเมืองน่าเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามน่าสนใจ โปรดติดตามอ่าน เที่ยวมอสโก แดนหมีขาว ตอน 2 ต่อนะจ๊ะ