วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แฮปปี้เที่ยวเดลี

เดลี..มหานครยิ่งใหญ่สุดของอินเดีย  เสมือนประตูเมืองแดนภารตะ เพื่อนำพาท่านไปสู่เมืองอื่นๆ ในอินเดีย มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และได้รับฉายาว่า "มหานคร 7 ราชธานี" เพราะ เดลี เป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดียมาถึง 7 ครั้ง เคยเป็นศูนย์กลางอำนาจปกครองของอินเดียตลอดเวลานานกว่า3,000 ปี ของประวัติศาสตร์

เดลี เป็นนครหลวงเก่าแก่ของอินเดียและของโลก ที่มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมสั่งสมกันมานานจากผู้ครองนคร มีทั้งสุลต่าน มุสลิม กษัตริย์ฮินดู และจักรพรรดิโมกุล หลังจากนั้น อินเดียก็ได้ตกอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ ซึ่งอังกฤษได้สร้างเดลีใหม่ ขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการปกครอง

      


    


ปัจจุบัน เดลี ครอบคลุม 2 พื้นที่ คือ เดลีเก่าและใหม่ โดยเขตพื้นที่เดลีเก่านั้น เป็นเขตวัฒนธรรมในสมัยโบราณ ประกอบด้วยถนนที่เล็กแคบและวกวน ตลาดกลางแจ้ง โบสถ์ และสุเหร่า จุดเด่นที่น่าสนใจภายในย่านเดลีเก่าคือ หอสูงกุตุป มีนาร์ พระราชวังหลวง และมัสยิด จามาซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมในช่วงกลางของศตวรรษที่ 17 ยุคที่จักรวรรดิโมกุลเรืองอำนาจ 




ส่วน เดลีใหม่ หรือ นิวเดลี เป็นส่วนที่อังกฤษสร้างขึ้น เป็นที่ตั้งรัฐสภาสถานที่ทำการของรัฐบาลและเป็นเมืองทันสมัยที่โอ่อ่างดงาม ด้วยสถาปัตยกรรมของยุคอาณานิคม มีถนนสายใหญ่กว้างขวาง ปลูกต้นไม้ประดับอย่างสวยงาม ผังเมืองและอาคารต่างๆ ล้วนใหญ่โตสมฐานะการเป็นเมืองเอกเมืองหนึ่งของประเทศในเครือจักรภพ มี “ประตูอินเดีย” ที่สร้างขึ้นเลียนแบบประตูชัยของปารีส เพื่อเป็นที่รำลึกถึงทหารอินเดียที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมืองหลวงปัจจุบันของอินเดีย




เดลี ถือเป็นศูนย์กลางการปกครองของอินเดีย เป็นที่ตั้งของประตูอินเดีย และเป็นเมืองสมัยใหม่ที่ประกอบไปด้วย ย่านการค้าทันสมัยเป็นจำนวนมาก ย่านธุรกิจการค้า ย่านที่อยู่อาศัยของเศรษฐีอินเดีย มีอะไรที่น่าค้นหามากมาย

“มัชรูมทราเวล” ขอนำเสนอสถานที่เที่ยวเมืองมหัศจรรย์เดลี เชิญไปเที่ยวชมกันจ้า


1. อนุสรณ์สถานมหาตมะคานธี ราชฆาฎ

ราชฆาฎ คนทั่วไปเรียกว่า "คานธีสมาธิ" เป็นอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงมหาตมคานธี บุคคลผู้ซึ่งเปรียบเป็น "บิดาแห่งชาติอินเดีย" นำการเรียกร้องเอกราชแบบอหิงสา ซึ่งเสียชีวิตในวันที่ 30 มกราคม 1948 รวมอายุได้ 78 ปี 




ราชฆาฎ นั้นสร้างขึ้นบริเวณที่เผาศพมหาตมคานธี ณ จุดที่เผาศพสร้างเป็นแผ่นหินเรียบๆ สีดำยกพื้นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีดวงไฟจุดบูชาไว้ตลอดเวลา ข้างๆ แท่นหินนี้เขียนไว้ว่า “เห ราม”  อันเป็นคำที่มหาตมคานธีกล่าวก่อนสิ้นใจเมื่อถูกยิง รอบแท่นหินมีทางเดินยกระดับก่อด้วยหินสีนวลล้อมเป็นบริเวณกว้าง ที่ตั้งของราชฆาฏมีอาณาบริเวณกว้างขวางนับสิบๆไร่ มีการจัดวางภูมิสถาปัตย์ได้สง่างาม สมกับเป็นที่รำลึกถึงมหาบุรุษของชาติ ราชฆาฎ เป็นอนุสรณ์สถานที่อาคันตุกะสำคัญจากต่างประเทศ มักไปวางพวงหรีดเพื่อแสดงความคารวะแด่มหาตมคานธี


2. กุตุปมินาร์

กุตับมีนาร์ เดิมชื่อ ปฤถวีสตัมภ์ เป็นหอสูงหอคอยสุเหร่าสูงที่สุดในโลก และเป็นศิลปกรรมแบบมุสลิมผสมฮินดูที่หาดูได้ยาก มีความสูงทั้งหมด 238 ฟุต แบ่งเป็น 5 ชั้น ภายใน โปร่ง มีบันไดขึ้นไป 379 ขั้น มีคนขึ้นไปกระโดดฆ่าตัวตายบ่อยๆ ปัจจุบันห้ามขึ้น สร้างขึ้นโดยพระเจ้าปฤกวิราช กษัตริย์ฮินดู เพื่อให้พระธิดาขึ้นไปดูแม่น้ำยมุนาอันศักดิ์สิทธิ์ ชมมัสยิดสร้างด้วยหินสีแดงแกะสลักเป็นลวดลายพันธุ์พฤกษาและคำสวดจากคัมภีร์โกหร่าน เดิมหอนี้สูงเพียง 95 ฟุต ต่อมากษัตริย์กุตับอุดดินไอบัก ซึ่งเป็นกษัตริย์มุสลิม ได้ปรับปรุงหอสูงนี้ในปี พ.ศ. 1743 จากนั้นกษัตริย์องค์อื่นในราชวงศ์เดียวกันได้สร้างต่ออีกสองครั้ง ในปี พ.ศ. 1753 และ พ.ศ. 1779 กษัตริย์ฟิโรซ ชาห์ แห่งราชวงศ์ตุกลัขได้เสริมต่อ  





กุตับมีนาร์ ถือเป็นเครื่องหมายของกรุงเดลี ซึ่งเป็นถาวรวัตถุสวยงาม ได้สัดส่วน ภายนอกเป็นหินทรายสีแดง สร้างเป็นลูกฟูกขึ้นไปอย่างเกลี้ยงเกลา และมีการสร้างต่อขึ้นไปหลายๆทอด หลายยุคสมัย แต่ละลูกฟูกจารึกเป็นอักษรอาระบิกจากบทสวดในพระคัมภีร์โกหร่าน

ภายในบริเวณ กุตับมีนาร์ มีถาวรวัตถุเป็นศิลปะฮินดูเดิม ต่อมาชาวมุสลิมได้สร้างเสริมเติมแต่ง ที่นี่ จึงเป็นสถานที่ที่นิยมของคนไปเยี่ยมชม มีเสาเหล็ก ทำด้วยเหล็กอย่างดีไม่เป็นสนิม สร้างขึ้นในพ.ศ. 800 หลังสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เสามีคำจารึกเป็นภาษาสันสกฤต เป็นคำบูชาถวายพระวิษณุ การฝังเสาทำได้แน่นหนามาก เล่ากันว่ากษัตริย์มุสลิมได้พยายามเอาปืนใหญ่ยิงใกล้ ๆ ยังไม่โค่นไม่ร้าว รอยเสาที่ถูกปืนใหญ่ ยังปรากฏอยู่จนทุกวันนี้ ความสูงของเสานี้ 32 ฟุต 8 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 16 นิ้ว เชื่อกันว่า ถ้าใครเอาหลังพิงเสานี้ แล้วเอาแขนโอบทางเบื้องหลัง จนมือจับกันได้ ถือว่าเป็นคนซื่อสัตย์หรือมีบุญวาสนา หรือ ตั้งจิตอธิษฐาน ความปรารถนาใดๆ จะสัมฤทธิ์ผล


3. ประตูอินเดีย

ประตูอินเดีย หรือ ประตูเมืองอินเดีย เป็นสิ่งก่อสร้างมีลักษณะคล้ายคลึง L’ Arc de Triomphe ของฝรั่งเศส มีความมุ่งหมายให้เป็นอนุสรณ์แก่ทหารที่พลีชีวิตในสงครามครั้งสำคัญๆ ของอินเดีย โดยได้จารึกรายชื่อของทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ เช่น ทหารและข้าราชการอินเดียและอังกฤษ จำนวน 13,516 คน ที่พลีชีวิตในสงครามชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือ และสงครามอัฟกานครั้งที่ 3 และรวมทั้งทหารอินเดีย จำนวน 60,000 นาย ที่เสียชีวิตในสงครามโลก ครั้งที่ 1




ส่วนบนยอดของประตูอินเดีย สร้างเป็นอนุสรณ์แก่ทหารนิรนาม วัสดุในการก่อสร้างเป็นหินทรายแดง เป็นแท่งทึบ มีความสูงจากระดับพื้นถนน 42.3 เมตร ส่วนโค้งของซุ้มประตู กว้าง 9.1 เมตร สูง 22.8 เมตร ตรงกลางระหว่างประตูมีกระถางหินทรายแดงขนาดใหญ่ จุดไฟลุกโชนไม่เคยดับมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 และมีอักษรจารึกเป็นภาษาฮินดีว่า “อมร ชะวาน ชโยติ” (อมร – ผู้ไม่ตาย ชะวาน – ทหาร และ ชโยติ – ความรุ่งเรือง หรือ ความสว่าง)


4. ป้อมแดง

ป้อมแดง หรือ พระราชวังป้อมแดง ที่คนอินเดียทั่วไปเรียกว่า ลาล ขีลา (ลาล-แดง ขีลา-ป้อมปราการ) เป็นป้อมปราการใหญ่ในอินเดีย ที่มีอายุกว่า 350 ปี สร้างขึ้นจากหินทรายแดง เป็นพระราชวังของชาห์ เชฮันพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งของราชวงศ์โมกุล (องค์เดียวกับที่ทรงสร้างทัช มาฮาล) ใช้เวลาสร้างถึง 10 ปี เพราะพระองค์ทรงปรารถนาจะย้ายราชธานีจากอัครามาที่กรุงเดลลี แต่ยังไม่ทันจะย้าย ก็ถูกจับขังโดยพระราชโอรสองค์ที่ 3 นามว่าพระราชโอรส ออรังเซป



ป้อมแดง เคยเป็นพระราชวังของชาห์ เชฮัน กษัตริย์องค์หนึ่งของราชวงศ์โมกุล ในระหว่างการก่อสร้าง ป้อมแดงต้องประสบภัยพิบัติมากมายทั้งจากธรรมชาติและจากข้าศึกศัตรู และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2262 รวมทั้ง ถูกรุกรานโดยกองทัพเปอร์เซีย ในปี พ.ศ.2282  เข้ามาปล้นเอาทรัพย์สมบัติมีค่าไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงราชบัลลังก์นกยูง ซึ่งทำด้วยทองและเพชรนิลจินดาอันหาค่ามิได้ และถูกปล้นอีกหลายครั้ง เมื่ออำนาจของราชวงศ์โมกุลเสื่อมโทรมลง


 



ป้อมแดง  มีประตูใหญ่ คือ ประตูละฮอร์ หันหน้าไปทางเมืองละฮอร์ในประเทศปากีสถาน เป็นประตูที่อนุญาตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชม มีลักษณะที่น่าสังเกตผิดกับประตูพระราชวังทั่วไป มองจากภายนอกไม่เห็นประตู เห็นแต่เชิงเทินสูงกำบังประตูไว้ ก่อนจะเข้าถึงตัวพระราชวังมีประตูด้านใน และมีทางทอดยาว ประมาณ 80 เมตร ไปถึง หอกลอง ที่เรียกว่า เนาปัตคะบา เป็นตึกสองชั้นซึ่งเป็นที่อยู่ของเจ้าพนักงานกรมมหรสพทั้งกรม

ป้อมแดงขนาดใหญ่ในอินเดีย มีอยู่ 2 แห่ง คือที่เดลี และอัครา ซึ่งอยู่ห่างจากเดลี ประมาณ 200 กิโลเมตร สำหรับ ป้อมแดงที่เดลี นี้เป็นป้อมปราการมีขนาดใหญ่มาก วัดรอบกำแพงทุกด้านเป็นความยาวถึง 1 ไมล์ครึ่ง กำแพงด้าน และถือเป็นศิลปกรรมอีกชิ้นหนึ่งที่เชิดหน้าชูตาเดลี ปัจจุบัน ป้อมแดง ใช้เป็นที่ประกอบพิธีฉลองเอกราชของอินเดีย ในวันที่ 15 สิงหาคมของทุกๆ ปี โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ทำพิธีคลี่ธงชาติ และกล่าวสุนทรพจน์ ณ บริเวณเชิงเทินของป้อมแดง 



5. มัสยิดจามา

มัสยิดจามา เป็นมัสยิดหลักในเดลีเก่าและเป็นมัสยิดใหญ่ มีชื่อเสียงที่สุดในอินเดีย สร้างขึ้นโดยพระเจ้าชาร์จาฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโมกุลนามชาห์จะฮาน เมื่อปีค.ศ. 1650 ใช้เวลาสร้าง 6 ปี โดยใช้คนงานกว่า 5,000 คน วัสดุใช้หินทรายสีแดง หินอ่อนสีขาวและสีแดง จุคนได้ 20,000 คน ขนาดใหญ่โตเป็นที่สองของโลกและใหญ่ที่สุดในเอเชีย



6. ทำเนียบประธานาธิบดี ราษฎร์ปติภวัน

ราษฎร์ปติภวัน หรือ ทำเนียบประธานาธิบดีของอินเดีย ตั้งอยู่กรุงเดลี ถนน Rajpath ด้านตะวันตกบนเนินที่เรียกว่า Raisina Hill ตรงข้ามกับ India Gate ซึ่งอยู่ปลายถนนด้านตะวันออก มีชื่อเสียงและงดงามมาก เปิดให้คนทั่วไปชมเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมทุกปี เพราะเป็นช่วงที่ดอกไม้ออกดอกสวยงาม ทั้งตัวอาคารและสวนมีเนื้อที่ถึง 350 เอเคอร์






ราษฎร์ปติภวัน เดิมเคยใช้เป็นวังของอุปราชอังกฤษในสมัยอาณานิคม มีห้องถึง 340 ห้อง ออกแบบโดย Sir Lutyens สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1929 เป็นสถาปัตยกรรมผสมระหว่างตะวันตกกับศิลปะโมกุล ตัวห้องโถงที่เรียกว่า Durbar Hall มีโดมขนาดใหญ่แบบอินเดียทำด้วยทองแดงอยู่ด้านบน ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญๆ ของทางการ ส่วนทางทิศตะวันตกมีสวนโมกุล ร่มรื่น




7. วัดอัคชาร์ดาม

วัดอัคชาร์ดาม ได้รับการบันทึกใน Guinness World Record ว่าเป็นวัดฮินดูใหญ่ที่สุด สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวและสีชมพูดูสวยงาม โดยองค์กร BAPS  เรียกว่า วัดอัคชาร์ดาม เป็นพลังแห่งความศรัทธาของมนุษย์ก่อให้เกิดสถาปัตยกรรมสวยงามอลังการ มีพื้นที่ Complex ทั้งหมด 30 เอเคอร์ ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 5 ปี ใช้ช่างศิลปะและสถาปนิกจำนวน 7,000 คน เป็นสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง สวยงามน่าดูชมจากทุกมุมมอง

วัดอัคชาร์ดาม เปิดทุกวัน เวลา 9.00-18.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ ในส่วนของ Main Temple และบริเวณสวนรอบๆ เข้าชมฟรี สำหรับส่วนของ Theatre และ Boat Ride เก็บค่าเข้าชม วัดนี้ค่อนข้างเข้มงวดในการเข้าชมภายใน โดยต้องถอดรองเท้าฝากใส่กรงไว้ พอเข้ามาด้านหน้า จะเห็นต้นไม้พันผ้าแพรไว้ สาวๆ เอาของประดับไปถวาย ตามต้นไม้บ้านเราคงได้รับอิทธิพลการบูชาจากที่นี่ และไม่อนุญาตให้นำสิ่งของ เช่น กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กระดาษ ปากกา เข้า รวมทั้ง เป้ต้องฝากไว้ที่ทางเข้าด้วย

ภายในวัด มีรูปปั้นองค์พระนางลักษมี หรือ พระนางอุมาวัดอัคชาร์ดาม ซึ่งเป็นเทพเจ้าฮินดู ที่ชาวอินเดียให้ความเคราะศรัทธามาก และเป็น 1 ใน 3 แห่งพระตรีศักติ (ตรีศักติ หมายถึง พระแม่ทั้ง 3  ได้แก่  พระแม่อุมา..เทวีแห่งพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ และ พระแม่ลักษมี..พระแม่ลักษมี เทพีแห่งความรำรวย และพระแม่สรัสวตี..เทวีแห่งสติปัญญา) 

วัดอัคชาร์ดาม ถือเป็นสรวงสรรค์บนดิน ที่ท่านจะตื่นตา ตะลึง กับความงดงาม อลังการของสถาปัตยกรรมอินเดียโบราณที่สุดแสนวิจิตรบรรจง สร้างสรรอย่างแท้จริงทีเดียว


8. ย่านถนนจานพัท

ย่านถนนจานพัท เป็นถนนช้อปปิ้งยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ที่กรุงเดลี ประเทศอินเดีย มีสินค้าหัตถกรรมและงานฝีมือพื้นเมืองต่างๆ มากมาย ให้ได้เลือกซื้อชมกัน เช่น ผ้าไหมอินเดีย, เครื่องประดับอัญมณี, ไม้จันหอมแกะสลักของตกแต่งประดับบ้าน เป็นต้น เชิญช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
 

เดลี เป็นเมืองใหญ่ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายกว่าเมืองอื่นๆ ในอินเดีย และเป็นเสมือน สัญลักษณ์แห่งชีวิตและพลังของประเทศ ทำให้หลายคนกล่าวว่า หากท่านได้มาเที่ยวอินเดียแล้ว แต่ไม่ได้มาเยือนเมืองหลวงแห่งนี้ ก็เหมือนมาไม่ถึงแดนภารตะอินเดียเลย

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น