มีคนฝากถามมาว่า ช่วงนี้เครียดน้ำท่วมจัง อยากไปเที่ยวต่างประเทศ ในแถบๆ เอเซีย แต่ไม่รู้ว่าจะเดินทางเที่ยวประเทศไหนดี เอาแบบไม่แพงและคุ้มค่า “มัชรูมทราเวล” แนะนำ เที่ยวพม่ากันดีกว่า ใกล้ๆ บ้านเรา ราคาก็ไม่แพงด้วย
ก่อนที่จะไปเที่ยวพม่า “มัชรูมทราเวล” ขอนำเรื่องราวของประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีผืนแผ่นดินติดกับไทยนั้น เรียกแบบโบราณคือ ‘Burma’ เรียกแบบใหม่คือ ‘Myanmar’ หรือเรียกเป็นไทยว่า ‘ประเทศพม่า’
ว่ากันว่า พม่ากับไทยก็เป็นเหมือนเพื่อน พี่น้องกัน เพราะเราต่างมีทางความเป็นชนชาตไท และมีความผูกพันธ์กันทางสายเลือดมาแต่นาน อีกทั้ง ยังมีพระพุทธศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน ตามประวัติศาสตร์พม่า เล่ากันว่าคนพม่าอพยพจากดินแดนหิมาลัยตะวันออกลงใต้นานแล้ว มาปักหลักปักฐานบริเวณลุ่มน้ำอิรวดีซีกเหนือ แล้วพากันมาสร้างอาณาจักรพุกามในยุคพระเจ้าอโนรถา พ.ศ.1587-1620 ก่อนหน้าพม่า ก็มีชนชาติปยูเข้ามาตั้งอาณาจักรศรีเกษตรอยู่บริเวณภาคกลาง อยู่แถวๆเมืองแปร มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่8 ถัดลงไปทางใต้ใกล้ทะเลเป็นอาณาจักรสะเทิม พม่ากลืนชนชาติปยูได้สำเร็จและรุกคืบลงใต้เอาชนะมอญได้อีก แพร่อาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลมากขึ้นๆ จากนั้นก็เนรมิตให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนา เต็มไปด้วยศาสนสถานสวยงามมากมาย
พม่ามีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีกษัตริย์สลับสับเปลี่ยน ขยายอาณานิคมสู้รบกับคนไทยมาช้านาน ทำให้มีประวัติศาสตร์น่าสนใจเกี่ยวข้องกับประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงยุคสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง หรือ ผู้ชนะสิบทิศ ที่โด่งดัง รบรา กับประเทศไทย ตามประวัติศาสตร์ไทย เขียนว่าพม่ามาตีกรุงศรีอยุธยาเราไปถึง 2 ครั้ง 2 คราว แล้วปล้นทอง เผาทองของไทย เอากลับไปพม่าหมดเลย นำมาสร้างวัด เจดีย์ พระพุทธรูปมากมายในเมืองเขา แต่ข้างฝ่ายพม่าเขาก็ว่าเขามีทองอยู่แล้ว เรียกว่าไม่รู้ว้าใครถูกใครผิด เพราะประวัติศาสตร์ก็คือประวัติศาสตร์นั่นเอง ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนเขียนเท่านั้นเอง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2429- 2490 พม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ภายหลังจากพม่าได้รับเอกราชแล้ว การเมืองภายในประเทศมีการสับสนอยู่ตลอดเวลา พม่ามีนายกรัฐมนตรีพม่า เป็นตำแหน่งหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศพม่า รวม 11 คน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2491- ปัจจุบัน เนื่องจากพม่าถูกปกครองโดยระบอบเผด็จการทหารมาเป็นเวลายาวนาน ทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะมาจากกองทัพของพม่าทั้งสิ้น และตำแหน่งดังกล่าวได้ถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป ปัจจุบัน พม่ากลายเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา และยังปิดประเทศอยู่ อาจเป็นเพราะเขายังมีปัญหาการเมืองที่ยุ่งเหยิงมากมาย แต่คาดว่าคงจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้ข่าวว่าเขาได้เข้าเป็นสมาชิกสมาคมอาเซียนแล้ว คงต้องจัดบริการเรื่องการเมืองให้ดีกว่านี้หน่อย
เรื่องของการท่องเที่ยวพม่ายังไม่ค่อยขว้างขวางเท่าไหร่ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นยุโรปอเมริกาไปเที่ยวพม่าค่อนข้างยาก คงมีแต่นักท่องเที่ยวชาวไทยนี่แหละที่ไปเที่ยวกัน ขอบอกไว้ก่อนนะจ๊ะ ว่าหากท่านมาเที่ยวพม่า จะมาชมความศิวิไลซ์ทางวัตถุ ที่นี่ไม่มีให้ดูจ้า ท่านจะพบแต่ วัดวา เจดีย์ พระธาตุ พระพุทธรูป ศิลปะประเพณีวัฒนธรรม วิถีชีวิตผู้คน และธรรมชาติเท่านั้น
ว่ากันว่า คนพม่านิยมทาแป้งกันทั้งนั้น ไม่ว่าหญิง ชาย แก่ หนุ่ม ส่วนลวดลายก็แล้วแต่ใครจะดีไซน์ ซึ่งแป้งที่ทานั้นทำมาจากรากไม้ที่ชื่อว่า "มานาคา" โดยเอารากท่อนใหญ่ๆ ขนาดข้อมือ นำไปฝนกับหิน มีน้ำขาวๆ เป็นแป้งออกมาทาหน้า มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น กันแดด กันยุง ทากันฝ้า ได้สารพัดนึก เรียกว่าเราจะเห็นคนพม่าเขาทาหน้าแบบนี้ทุกคน ทุกชนชั้นจ้า
ที่ พม่า ท่านอาจเห็นเณรตัวเล็กๆ ไม่ซุกซนเหมือนเณรไทยนะจ๊ะ เขาจะนิ่งมาก ไม่ยิ้ม ไม่เล่นหัว ไม่คุ้นกับคนแปลกหน้าที่หน้าตาอย่างนักท่องเที่ยวคนไทยเท่าไหร่หรอก นอกจากนี้ ท่านอาจพบคนพม่าขายมาลัยตามวัด ซึ่งคนพม่าเขาไม่นิยมร้อยมาลัยแบบไทยๆ แต่เขาจะจับเชือกยาวๆ ร้อยกับดอกไม้เลย นอกจากนี้ อาจเห็นพวกเด็กๆ จรจัดพม่า ประมาณว่าจิ๊กโก๋ประจำวัด เด็กเหล่ามีเยอะมากตามสถานท่องเที่ยวต่างๆ แต่พวกเด็กนี้ไม่กร้าวร้าว ข่มขู่อะไรเรา จะมาขอสตางค์กับนักท่องเที่ยวเท่านั้นเองจ้า
เรื่องการแลกเงินนั้น พม่าใช้เป็นเงินจ๊าตส่วนใหญ่ แต่พกเงินดอลล่าร์ไปด้วยจ้า อัตราแลกเปลี่ยนเงิน 1 ดอลล่าร์แลกได้ประมาณ 800 จ๊าต ไม่ควรไปแลกเงินที่ตลาดมืดไม่ปลอดภัย แลกกับที่เคาน์เตอร์ของที่พักดีกว่า และไม่แนะนำให้แลกกับเคาน์เตอร์ของสนามบินหรือของรัฐบาลเพราะถูกกดราคา เช่น 1 ดอลล่าร์แลกได้ 300 จ๊าตที่สนามบิน กับ 1 ดอลล่าร์แลกได้ 700 จ๊าตที่โรงแรม ส่วนใหญ่พม่าใช้เป็นเงินจ๊าต ยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่ เช่น เมืองพุกาม ชเวดากอง จ่ายเป็นดอลล่าร์ดีกว่า (ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว โดยประมาณแล้วจะอยู่ตั้งแต่ 2 - 10 ดอลล่าร์) แม้แต่ตามแผงขายของตามตลาดทั่วไป เค้าก็รับเงินดอลล่าร์นะ เอาเป็นว่าเงินจ๊าตใช้ได้ทุกที่ ซื้อของ กินข้าว จ่ายค่ารถเมล์ รถบัส แต่ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจ่ายเป็นดอลล่าร์บางทีถูกกว่า เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าโรงแรม ค่าเกสต์เฮาส์ ค่าเข้าสถานที่ รถไฟ รถแท๊กซี่ เป็นต้น
สำหรับเรื่องอาหารการกิน ส่วนมากร้านอาหารคิดราคาเริ่มตั้งแต่ 700 จ๊าตขึ้นไปต่อ 1 จาน แต่โดยมากแล้วอยู่ราว ๆ 1500 จ๊าตขึ้นไปต่ออาหาร 1 จาน บางร้านอาจมีเมนูภาษาอังกฤษแต่ไม่เขียนราคา ส่วนน้ำดื่มบรรจุขวดมีขายทุกที่ ขวดใหญ่แบบพลาสติกขุ่น ขวดละ 150 จ๊าต น้ำอัดลม 100 -200 จ๊าต ถ้ากินข้างทาง พวกอาหารไม่แพงเท่าไหร่ แต่เพื่อความปลอดภัยให้ถามราคาก่อนทุกครั้งก่อนที่จะสั่งอาหารทุกร้าน ไม่ว่าจะเล็กใหญ่ เดี๋ยวถูกหลอก ระวังไว้ก่อนดีกว่าจ้า
มาเที่ยวพม่าทั้งที ก็คงต้องแวะไปดูแหล่งช้อปปิ้งกันหน่อยที่ตลาดใหญ่ๆ สินค้ายอดฮิตของพม่า ได้แก่ งานไม้แกะสลัก, เครื่องหนัง, ภาพเขียนจากจิตรกรชาวพม่า, อัญมณี และสามารถซื้อหาของที่ระลึกพื้นเมืองได้ในราคาถูก เช่น แป้งทานาคา ผ้าปักพื้นเมือง เครื่องเงิน เสื้อผ้า เป็นต้น
คนไทยส่วนใหญ่ไปเที่ยวพม่า เน้นเที่ยววัด เจดีย์ พระธาตุ พระพุทธรูป ชมศิลปะประเพณีวัฒนธรรม วิถีชีวิตผู้คน และธรรมชาติมากกว่า แนะนำให้ไปเที่ยวเมืองพะโค (หงสาวดี) ย่างกุ้ง พุกาม ส่วนเรื่องความปลอดภัยคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะคนพม่าเขามีศีลธรรม ด้วยการปกครองอันเข้มงวดของทหารก็เป็นได้ อาชญากรรมต่างๆ จึงไม่ค่อยปัญหาอะไร ส่วนโรงแรมพม่ามีให้เลือกหลายราคาเลย ตั้งแต่หลักร้อย-หลักพัน มีทั้งสี่ดาวและห้าดาว สะอาดปลอดภัย อาหารก็อร่อยๆ เหมือนบ้านเรานี่แหละจ้า อย่าลืมทำวีซ่านะ ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ ถ้าคิดไม่ออกว่าไปที่ไหนก่อน แนะนำให้เริ่มต้นที่ย่างกุ้ง แล้วค่อยไปต่อเมืองอื่นๆ เพราะเมืองนี้มีที่เที่ยวเยอะดีจ้า
เที่ยวพม่าไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ ถ้าไม่นับค่าเข้าชมสถานที่เรียกเก็บเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ เงินส่วนนี้จะถูกส่งไปสนับสนุนกิจการของรัฐบาล หากท่านซื้อทัวร์พม่ากับบริษัททัวร์ 4 วัน 3 คืน พร้อมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่พัก อาหาร รวมสถานที่ท่องเที่ยว 3-4 เมือง เที่ยวหลายที่เลย ราคาไม่เกิน 20,000 บาท/ท่าน หากไปเที่ยวเอง ก้ออาจถูกกว่านี้นิดหน่อยจ้า แต่รับประกันได้ว่าคุ้มค่า คุ้มราคา วัดวาเขาสวยงาม แถมยังอิ่มบุญด้วยจ้า
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว “มัชรูมทราเวล” แนะนำให้อ่านเที่ยวพม่าตอน 2 นะจ๊ะ โปรดติดตามตอนต่อไปจ้า พม่า มีอะไรเที่ยว น่าสนใจ มากกว่าที่คิด
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น