วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ตำนานรักดินแดนภารตะ ทัชมาฮาล

มนุษย์เราต่างต้องการความรักทุกช่วงอายุ สำหรับความหมายของคำว่า “ความรัก” นั้นคงไม่มีคำจำกัดที่ชัดเจน เพียงแต่เรารับรู้ว่าได้ว่าความรักอาจสามารถดลบันดาลให้เกิดขึ้นได้ทุกสิ่ง เฉกเช่น อนุสรณ์สถานทัชมาฮาล ของอินเดีย...ดินแดนสามเหลี่ยมแห่งอารยธรรมเก่าแก่สมัยพุทธกาล ที่มีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมงดงาม อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว







ในวันนี้ “มัชรูมทราเวล” จะขอเสนอเรื่องราวความรักที่สร้างความสะเทือนใจและประทับใจไม่รู้ลืม เพื่อรับรู้ตำนานรักอมตะที่เลื่องลือก้องโลกและสัมผัสอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ภายใต้ชื่อว่า “อนุสรณ์สถานทัชมาฮาล” ณ กรุงอัครา ซึ่งเป็นหนึ่งเมืองที่มีสุดยอดจุดหมายปลายทางมหัศจรรย์







“ทัชมาฮาล” ถือเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ และเป็นตัวอย่างของตำนานรักอมตะของกษัตริย์อินเดียองค์ที่ 5 ในราชวงศ์โมเลกุล พระนามว่า “ชาห์ญะฮาน” กับ “พระนางมุมตาซ มะฮัล” พระมเหสีที่ให้กำเนิดพระโอรสธิดาถึง 14 องค์ และเป็นมเหสีที่ทรงเป็นที่พระเจ้า ชาห์ญะฮาน รักยิ่งนัก








ไม่น่าเชื่อว่า อนุสรณ์สถานทัชมาฮาล หินอ่อนสีขาว อันเป็นสัญญลักษณ์แสดงถึงความรักที่บริสุทธิ์นิรันดร์ตลอดกาล และหินทรายสีแดง อันแสดงถึงความรักที่มั่นคงต่อพระนางเพียงผู้เดียว กลายเป็นอภิมหาอนุสรณ์ความรัก เป็นสิ่งที่สามารถมองเห็น จับต้องได้ อีกทั้งยังคงสร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่ได้พบเห็น





แต่กว่าจะมาเป็นอนุสรณ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ ท่านทราบหรือไม่ว่า สถานที่นี้ได้สร้างขึ้นจากหยาดเหงื่อแรงกายของชายฉกรรจ์อินเดียถึง 20,000 คน โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 20 ปี (ระหว่างปี ค.ศ. 1630-1648) มีทั้งการใช้ช้างขนย้ายหินอ่อนขนาดใหญ่อีกนับ 1,000 ตัว ก่อสร้างอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ด้วยการคำนวณน้ำหนักของโครงสร้างให้มีการรองรับน้ำหนักของเสาแต่ละต้นได้อย่างสมดุลย์





พร้อมทั้ง สรรหาวัสดุมาประดับตกแต่งแต่ละอย่างสุดยอดของโลก ด้วยหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอยสีฟ้า หินสีฟ้า โมรา หินทองแดงหินลาย พลอยสีเขียว อันเป็นเครื่องประดับที่ได้มาจากนานาประเทศ ซึ่งได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลกว่า สร้างขึ้นโดยถูกสัดส่วนและวิจิตรงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 39 เมตร ตรงกลาง มีโดมสูง 60 เมตร มีผู้ร่วมสร้างเป็นผู้ออกแบบ ช่างเขียนลวดลาย ช่างอิฐ ช่างปูน ช่างประดับลวดลายด้วย กระเบื้อง ช่างแกะสลัก และช่างตกแต่งภายใน ที่เอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยมาตราการป้องกันในความเสื่อมสภาพและได้มีการปรับปรุงรูปแบบโครงสร้างนับตั้งแต่ต้นเพื่อให้มีความคงทนถาวร ใช้เงินมหาศาลถึง 91,700,000 รูปี ไม่รวมค่าแรงงานในการก่อสร้าง ที่คิดเป็นเงินอีก 45,000,000 รูปี





พระเจ้าชาห์ญะฮาน ทรงมีพระประสงค์ตั้งใจสร้าง “ทัชมาฮัล” ให้เป็นอนุสรณ์สถานที่งดงามสุดในโลก เพื่อแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ชายผู้หนึ่งพึงมอบให้กับนางอันเป็นที่รัก และทรงรักสถานที่นี้มาก ถึงขนาดต้องประหารชีวิตนายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา และนายช่างทุกๆ คนที่ร่วมกันก่อสร้าง “ทัชมาฮาล” เสียชีวิตหมด เนื่องจาก พระองค์ไม่ทรงปรารถนาให้นายช่างฝีมือเหล่านี้ ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใดๆ ที่สวยกว่าที่นี่ เรียกว่า ภายใต้ความยิ่งใหญ่ งดงาม ของสิ่งก่อสร้างอลังการ หรูหรานี้ แฝงไปด้วยความโหดร้ายไว้มากๆ เลย





อนุสรณ์สถานแห่งความรัก ‘ทัชมาฮาล’ ตั้งอยู่บริเวณโค้งของแม่น้ำยมนาฝั่งขวาเมืองอัครา มีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ และเป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน ส่วนหัวของทัชมาฮาลนั้น มีลักษณะโดมที่เรียกว่า ‘โอเนียนโดม’ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างชั้นเลิศของสถาปัตยกรรมมุฆัลในอินเดีย ที่มีความสมมาตรในทุกๆ ด้าน สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนฝังด้วยอัญมณีเพชรพลอยที่แตกต่างกัน 28 แบบ





ประกอบไปด้วย 5 ส่วนที่สำคัญ คือ ประตูทางเข้า, สวนภายในบริเวณทัช มาฮาลตกแต่งสวยงามอย่างมีระเบียบ ซับซ้อน และประณีต, สุเหร่า, ห้องพัก และสุสานบรรจุพระศพของพระนางมุมทัช มาฮาล อันเป็นสถาปัตยกรรมที่รวมเอาการก่อสร้างในแบบของมองโกล เปอร์เซีย เอเชียและอิสลาม มีลักษณะพิเศษสวยงามที่หาที่เปรียบมิได้ สุสานนี้ตั้งอยู่ใจกลางของอนุสรณ์สถาน ตามบริเวณทางเดินมีการแกะสลักบทกวีที่กล่าวบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงบทกวีที่กล่าวพรรณาถึงความรักของพระเจ้าชาห์ เจฮาน ที่มีต่อพระนางมุมทัช มาฮาล





นอกจากนี้ พระเจ้าชาห์ญะฮาน ยังจะสานฝันที่สร้างที่ฝังศพตัวเองไว้ ณ ฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามจะเป็นหินอ่อนสีดำล้วนๆ แต่พระโอรส นามว่า “เจ้าชายโอรังเซ” องค์ที่ 4 ซึ่งภายหลังได้สู้รบกันเอง เพื่อแยกชิงราชบัลลังก์จากพระเจ้าชาห์ญะฮาน ผู้เป็นพระบิดา และได้ขึ้นครองราชย์แทน โดยเจ้าชายโอรังเซได้สั่งกุมขังพระเจ้าชาห์ญะฮาน ไว้ และมิอนุญาติให้มีการสร้างสุสานสีดำตามพระประสงค์ของพระบิดา เนื่องด้วยเกรงเงินในพระคลังจะหมด ประชาชนยากจน และล้มตายมากกว่านี้ ดังนั้น เจ้าชายโอรังเซได้จับพระบิดาคุมขัง ที่ Agra Fort อยู่ได้ 7 ปี ก็สิ้นพระชนม์ แล้วเอาศพไปฝังข้างศพพระมารดา ในแต่ละวัน พระเจ้าชาห์ญะฮาน ได้แต่ทอดพระเนตรมาที่ “ทัชมาฮาล” ซึ่งเป็นหลุมที่ฝังพระศพของพระมเหสีจนสิ้นพระชนม์





หากใครได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่แห่งนี้ คงได้รับรู้เรื่องราวความเป็นมาของตำนานรักก้องโลก และอาจสัมผัสถึงความรู้สึกที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก อึ้ง กับ “ทัชมาฮัล” อนุสรณ์สถานความรักอมตะอย่างแท้จริง ของ พระเจ้าชาห์มาฮาน ที่มีต่อ พระมเหสีมุมตัส อันทำให้อินเดียต้องสูญเสียเงินมหาศาลในการสร้างความเจริญให้กับประเทศถึง 250 ปี อย่างไรก็ตาม โลกก็ได้ให้รางวัลสำหรับความยิ่งใหญ่นี้ โดยจัดให้ “ทัชมาฮัล” เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตั้งตระหง่านให้นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกแต่ละปีนับเป็นล้าน ๆ คน เดินทางมาเยี่ยมชมอภิมหาสถานนี้ พร้อมที่จะจดจำเรื่องราวความรักในดินแดนภารตะ และตราตรึงใจคนทั่วโลก ประทับใจไม่รู้ลืม...

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น