วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ช้อปปิ้งมือสอง บอกพิกัดถูกและดีมีที่โตเกียว




ญี่ปุ่น..ไม่เล่าไม่ได้…Shopping สุดมันส์
อะไรจะถูกปานนั้นที่โตเกียวและชานเมือง

     ออกตัวก่อนเลยนะคะว่า เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่เคยตั้งเป้าหมายเลยว่าจะต้องเน้นไปที่ช้อปปิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศที่ขึ้นชื่อว่าค่าครองชีพสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ยกตัวอย่างก็เช่น อังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และล่าสุดประเทศที่ใครๆก็ไปกัน ญี่ปุ่นนั่นเอง สาเหตุที่ฉันไม่ค่อยจะตั้งหน้าตั้งตาไปช้อปปิ้งเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่มีอะไรมาก มีเพียง 2 ข้อสั้นๆ นั่นก็คือไม่ได้รวยขนาดนั้นและไม่มีปัญญาขนกลับบ้าน สำหรับเหตุผลแรกนั้น ถึงแม้ว่าจะพอมีเงินไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ก็อยู่ในงบประมาณที่ไม่มากพอที่จะซื้อของแพง หรือซื้ออะไรเยอะแยะ อีกอย่างก็คือ ชอบที่ก็เน้นเที่ยวชมประวัติศาสตร์, โบราณสถาน, ชมความงาม ความแปลกของเทคโนโลยี ความน่าทึ่ง ความอัศจรรย์ของสิ่งรอบตัวมากกว่าที่จะไปซื้อของ เหตุผลที่สองก็คือ บางครั้งที่ไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว ก็จะใช้แต่กระเป๋าลากใบเล็กๆ หนึ่งใบ พร้อมเป้ที่เอาไว้แค่ใส่กระเป๋าสตางค์, กระเป๋าบัตรเครดิต, ขวดน้ำ, Passport, กล้องถ่ายรูป, สมุดโน๊ต, แป้งฝุ่น, ยาดม, ยาอม, ยาหม่อง, ไม้แคะหู, กระดาษทิชชู่, ไม้จิ้มฟัน, ผ้าพันคอ, พลาสเตอร์ปิดแผล ฯลฯ พูดง่ายๆ มันเหมือนกระเป๋าโดเรมอนที่อยากจะได้อะไร ก็หาเจอหมด เพราะฉันถือคติที่ว่า มี..ดีกว่าไม่มี 555 (บ้าหอบฟางตัวแม่) จึงไม่เคยคิดหรือวางแผนจะไปซื้อของเยอะแยะกลับบ้านเลยสักครั้ง

จนกระทั่ง…เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฉันได้ไปเที่ยวอังกฤษ กับสก๊อตแลนด์ แล้วได้มีโอกาสไปเข้าร้านขายของมือสองเพื่อหาซื้อเสื้อกันฝน จึงพบว่า ร้านมือสอง มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิด!! แล้วฉันก็ติดใจมาก เพราะมีบางสิ่ง ที่เราอาจได้มาด้วยราคาที่ถูกมาก ที่สำคัญ หลายๆ อย่าง มันไม่ได้ดูเก่า และมันไม่ได้ดูเหมือนของใช้แล้วเอาซะเลย บางอย่างก็ดูมีคุณค่า มีความหมายทางจิตใจ มีความเป็นหนึ่งเดียว และสำหรับฉัน บางครั้ง มันก็สร้าง Story ได้ดีมากๆ ตัวอย่างเช่น..
ฉันได้ตุ๊กตาตัวนี้มาจากเมือง Moreton-in-Marsh เมืองเล็กๆ น่ารักๆ ในอังกฤษ เลยตั้งชื่อว่า น้อง M-i-M ซึ่งฉันมั่นใจเลยว่าคุณทายกันไม่ถูกหรอกว่าฉันซื้อมาตัวละเท่าไหร่ ลองดูหน้าตาของเค้า ก่อนเดาราคานะคะ

ฉันเจอในตะกร้ารวมมิตรตุ๊กตามือสองที่วางอยู่กับพื้นในร้านขายของมือสองประเภท Charity เหมือนได้ทำบุญไปในตัวค่ะ เวลาเข้าร้านพวกนี้
เห็นป้ายราคาแล้วใช่มั้ยคะ น้อง MiM ราคา 1.99 ปอนด์ เริดมั้ยหล่ะ ฟิน...ซะไม่มีอ่ะ 
ฉันเลือกมาเพราะ 3 เหตุผลค่ะ คือ น่ารัก, 
ถูก และ Unique เพราะฉันมักจะของ

จากเหตุผลอย่างต่ำ 3 ข้อขึ้นไป (แบบเข้าข้างตัวเอง เวลาอยากได้ก็เยอะอ่ะนะ          แหม..อารมณ์ผู้หญิง ก็แบบนี้หล่ะ) เวลาต้องเดินทางคนเดียว ก็จะไม่บ้าลากกระเป๋าใบใหญ่ค่ะ เพราะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่ใจใหญ่เท่านั้น 55 กระเป๋าที่ใส่น้อง MiM ใบนี้คือซื้อเพิ่มทีหลังด้วย เพราะว่า ราคาถูก ประกอบกับ มือไม่ว่างที่จะอุ้มเค้าตลอดเวลาและฉันก็พบว่า น้อง MiM เป็นเพื่อนเดินทางที่ทำให้ฉันยิ้มได้ทุกครั้งที่มองหน้าเค้า เค้าน่ารักนะคะ รอฉันได้ทุกที่ เป็นเพื่อนกันได้ทุกสถานการณ์ แม้แต่ในห้องน้ำ น้อง MiM ก็ยังคงน่ารักเสมอ 555 เที่ยวคนเดียวเวลามีเพื่อนแบบนี้ ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากขึ้นค่ะ

ความคิดเกี่ยวกับร้านมือสองของฉันก่อนหน้านี้นั้น จะเข้าใจว่า เก่าๆ เหม็นอับ สภาพไม่น่าใช้แน่ๆ แต่เมื่อไปเจอร้านมือสองที่อังกฤษ ความคิดเปลี่ยนเลยค่ะ เพราะเค้ามีการจัดการแบบมืออาชีพมากในเรื่องของการทำความสะอาดให้ดูเหมือนใหม่ น่าใช้ และที่สำคัญ คือ ถูกมากๆ ก็เลยคิดว่า ต่อไป เวลาไปเที่ยวที่ไหน ก็จะหาร้านมือสองให้เจอ เพื่อจะได้ไปดูว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ
จนมาถึงครั้งล่าสุดนี้ ที่พึ่งไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้วหาร้านมือสองเจอหลายร้าน ฉันถึงขึ้นต้องขอถอนคำพูดที่ว่า “ไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่เน้นช้อปปิ้ง” เพราะว่ามันกลายเป็นข้อยกเว้นสำหรับที่นี่เสียแล้ว ฉันถึงขั้นต้องเปลี่ยนกระเป๋าและเสียเงินโหลดกระเป๋าเพิ่มกันเลยทีเดียว มาดูกันค่ะว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะอดใจไหวมั้ย ถ้าเจอของถูกขนาดนี้ มันไม่ซื้อไม่ได้เลย ฉันหาเหตุผลเกิน 3 ข้อได้ทุกอย่างเลย 555  ณ เพลานี้ ฉันขำตัวเองมากที่สุดเลย

นี่คือ ตุ๊กตาของ Disney เจ้าตุ่นปากเป็ดนี่ ราคาแค่ 300 เยน ซื้อมาวางบนโต๊ะ ใส่มือถือ, ปากกา, สมุดโน๊ต, ของใช้จิปาถะ เพื่อหยิบใช้สะดวกๆ น่ารักๆ เพิ่มสีสันให้กับชีวิต

     กระเป๋าใบนี้ ฉันซื้อฝากคุณสามีค่ะ 
เป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ และสามารถแปลงร่างได้ด้วย เปิดออกมากลายเป็นเป้ได้เลยอ่ะ 
คิดดูสิ มันน่าซื้อมั้ยหละ ราคา 300 เยน










กระเป๋าใส่บัตรต่างๆ และ Passport ก็ 300 เยนเหมือนกัน





กระเป๋าถือใบใหญ่ เหมาะกับฉันมากจริงๆ เพราะบ้ากระเป๋าและบ้าหอบฟางค่ะ ใส่ของได้เยอะ มีซิบทั้งด้านข้าง, ด้านหน้า สามารถใส่ของข้างในได้หลายช่อง ใบนี้เหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนเลย       การตัดเย็บดีมาก ดูแข็งแรง และสะอาดมาก ราคา 1,600 เยน ถูกใจมากค่ะ


กล่องปิกนิกใบนี้ 300 เยนเช่นกัน น่าซื้อมาก แต่ไม่สามารถนำกลับได้ เพราะขนาดที่ใหญ่และน้ำหนักมากเกินกว่าจะยัดใส่ในกระเป๋าเดินทางได้


ชุดผ้าเช็ดตัว ผืนใหญ่ ผืนกลาง พร้อมห่วงตุ๊กตา Mickey Mouse เอาไว้แขวนผ้าเช็ดมือ 1,280 เยน

ขอเล่าเพิ่มนิดนึงนะคะ ชุดผ้าเช็ดตัวเซตนี้ ฉันหยิบมาและจ่ายเงินเสร็จแล้วเค้าก็จะหยิบของใส่ถุงให้ ฉันเลยบอกเค้าว่า ขอเอาแต่ของข้างใน ไม่เอากล่องได้มั้ย เค้าก็เลยแกะให้ ปรากฎว่าว่าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่นั้น มันมีรอยวาวๆ เปื้อนอยู่ ลังเลว่าจะซื้อดีไม่ดี เพราะจริงๆ ไม่ซีเรียส แค่อยากได้ตุ๊กตาห่วงคล้องผ้าเช็ดมือ จะเอาไว้ใช้ในห้องน้ำ แต่เค้าก็พยายามอธิบายว่า ถ้าของไม่ดี ไม่สะอาด หรือมีตำหนิ ไม่ต้องเอาไปก็ได้ และด้วยความที่ฉันก็ไม่ได้อยากจะคืนเงิน เพราะเห็นว่าเค้าก็รู้สึกอาย และขอโทษฉันไม่รู้กี่ครั้ง ก้มหัวโค้งคำนับหลายรอบมาก จนฉันรู้สึกเกรงใจสุดๆ ก็เลยไปเลือกเอาเซ็ตผ้าเช็ดตัวนี้มาแทนในราคาที่เท่ากัน คือที่เล่าไปนั้นก็เพื่อจะบอกว่า เหมือนเค้าจะยินดีให้เปลี่ยนหากพบว่า ของที่ซื้อไป มีตำหนิ หรือถ้าเป็นของใช้ เช่น พวกเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์นั่นนี่ พูดง่ายๆ ว่า ใจเขาใจเราหากคนซื้อไปแล้ว ใช้ไม่ได้ก็ไม่ได้อยากให้ลูกค้าผิดหวัง อะไรประมาณนั้นอ่ะค่ะ เพราะของพวกนี้บางทีก็หลุด QC ตอนรับซื้อจากเจ้าของเดิมมา ก็ต้องให้อภัยกันไป หลงลืม รอดสายตา มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว

เปลี่ยนบรรยากาศ มาเล่นสนุกกันหน่อยดีกว่า อะไรเอ่ย ให้ทายค่ะ…?!


เฉลย…มันคือกล่องใส่แว่นตา ฉันซื้อมาเพราะหวังว่าจะเอามาใส่แว่นตากันแดดเพื่อจะวางไว้หน้ารถ 
ดูน่ารักดี ที่ไหนได้หละ แว่นตากันแดดมันใหญ่เกินไป ใส่ไม่ได้

มาดูภาพรวมของร้านกันบ้างค่ะ กระเป๋า Brand Name วางขายหลายยี่ห้อเลยทั้ง LV, Channel, Coach และอีกมากมายหลายแบรนด์




นาฬิกาก็มีให้เลือกเยอะไปหมด ของเด็กๆ ก็มีตั้งแต่ของเล่น ของใช้ Car Seat รถเข็น, เครื่องแก้ว ก็มี…ไม้กอล์ฟ ถุงนอน อุปกรณ์ปีนเขา กระดานโต้คลื่นและอื่นๆก็มา…






เครื่องครัว-เครื่องใช้ไฟฟ้า, มือถือ i-pad i-phone, เครื่องดนตรี, กระเป๋า เสื้อผ้า เสื้อกันหนาว
ก็หาได้สบายจากที่นี่




ลองชุดในห้องลองชุดก็ได้


และแล้วก็ถึงเวลาแนะนำร้านนี้อย่างเป็นทางการ ร้านนี้ชื่อว่า…


ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้า Stellar Town ที่ Omiya นั่งรถไฟ JR Utsunomiya Line ไปลงที่สถานี Toro (ฉันนั่งจาก Ueno จ่ายไป 500 yen) แล้วก็ออกทางออก West Exit ไปยืนรอรถบัสด้านหน้าได้เลยค่ะ มี Free Shuttle Bus ไปส่งถึงที่เลย อย่าลืมดูตารางเวลาขากลับด้วยนะคะ เผื่อซื้อของเพลินจะได้ไม่ลืมว่ารถออกเที่ยวสุดท้ายกี่โมง


รถไฟที่นั่งไป หน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ เพราะถ้าขึ้นผิดจะได้รู่ว่า ไม่ใช่สายนี้ เพราะฉันก็เผลอไปขึ้นผิดขบวนมาแล้ว เพราะบางที Platform เดียวกัน ก็มีรถไฟต่างขบวนกัน ทางที่ดี ถามเจ้าหน้าแถวนั้นก็จะดีที่สุด แค่พูดชื่อปลายทางที่เราจะไปก็พอค่ะ



ยืนรอรถบัส ฟรีค่ะ ตรงนี้เลย ขากลับก็มาส่งลงหน้าสถานีรถไฟตรงนี้เหมือนกัน


หน้าตารถ อาจมีสีชมพูแบบนี้นะคะ แต่ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ เพราะบางทีมีป้ายโฆษณามาติด 
แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ถามเค้าได้ว่าใช่คันที่จะไปมั้ย


รถจะไปจอดใกล้ๆ ตึกแบบนี้นะคะ ที่จอดรถจะอยู่ในซอยข้างตึกนี่แหละค่ะ



เดินไปนิดเดียวค่ะ พยายามหาทางเข้าห้าง แล้วก็ไปที่ชั้น 2 หรือถ้าหาไม่เจอ ก็ถามคนแถวนั้นได้ค่ะ 
ทุกคนพร้อมช่วยเหลือแน่นอน


ตรงนี้แหละค่ะ บริเวณที่จอดรถบัส ขามา ก็มาส่งลงตรงนี้ ส่วนขากลับก็มารอแถวๆ นี้เหมือนกัน



ตารางเวลาขากลับค่ะ


แม้จะเห็นรถจอดอยู่ในซอย ก็ไม่ต้องเดินไปขึ้นนะคะ เค้าไม่ให้ขึ้นค่ะ ต้องรอจนถึงเวลา 
คนขับจะขับมารับเราตรงนี้เอง


สถานี Toro หน้าตาแบบนี้ค่ะ ฉันอยู่ถึงเกือบมืดเลย ฮ่าๆ เพลินมาก


ด้วยความที่ขี้เกียจหิ้วของ ก็เลยเอาไปฝากไว้ที่ตู้แบบนี้ในสถานี Ueno เลือกตู้เล็กสุด 300 เยน 
ถ้ามี Suica Card ก็ใช้ได้ค่ะ


มาต่อกันที่ Shibuya ค่ะ ที่นี่ก็มีร้าน Book Off (ร้านมือสอง) ที่เราแนะนำไปแล้วข้างต้นเหมือนกัน แต่ของจะไม่เยอะเหมือน Super Bazaar นะคะ เรามาดูกันดีกว่า ว่าข้างในมีอะไรบ้าง


ทางเข้าคือ ซอยข้างๆ ตึกที่มี Starbuck นั่นแหละค่ะ


เดินเข้าซอยที่ว่านั่น สักห้านาที ก็จะเห็นร้านอยู่ทางฝั่งขวามือ ผ่านร้านราเมนเหล่านี้ค่ะ เวลาเดินเข้าไป เห็นร้านราเมนนี่ ก็คือ เหลืออีกนิดเดียวก็จะถึงละ (ราเมนร้านนี้ ไม่อร่อยเท่าไหร่)

ร้านนี้มี 2 ชั้นมั้ง จำไม่ได้แล้ว แต่เสื้อผ้าจะเยอะหน่อย เดินเข้าไป เจอตู้นี้ค่ะ กระเป๋า brand name, นาฬิกา, กระเป๋า, รองเท้า และเสื้อกันหนาว



ร้านนี้คุณผู้ชายคงชอบ เพราะมีเสื้อผ้าผู้ชายเยอะเหมือนกัน




แต่ของผู้หญิง ก็ใช่จะน้อยหน้า 555



เดินออกมา สำรวจด้านหลังกันบ้าง

จบแล้วสำหรับ Book Off สาขา Shibuya เรามาต่อกันที่ Mode Off ซึ่งอยู่ที่ Koenji
 กันบ้างดีกว่า

จากภาพ ถ้านั่งรถไฟ JR สาย Chou Line (Rapid Service) ก็ไป Koenji ได้เร็วเลย เพราะถ้าเค้าเขียนว่า Rapid ก็จะหมายถึง ไม่ได้จอดทุกสถานี คือไม่ได้วิ่งแบบหวานเย็น สถานี Koenjiคือจะอยู่ออกจากกลางเมืองโตเกียวไปหน่อย แต่ก็ไม่ไกล เมื่อถึงสถานี Koenji แล้วก็ออก Exit ได้ เดินข้ามถนนไปก็ถึงแล้ว แหล่งร้านค้า ไม่เกิน 5 นาที ถึงร้าน Mode Off ค่ะ 

นี่คือทางเข้าไปยังที่ตั้งของร้าน เป็นซอยเล็กๆ














เมื่อข้ามถนนมาแล้ว มองกลับไปที่สถานี จะเห็นสถานีดูใหญ่มากค่ะ แต่ที่จริง ข้างบนเป็นโรงแรมค่ะ มีร้านอาหาร Denny’s จากสหรัฐอยู่ด้วยค่ะ

เดินเข้าไปในซอย นิดเดียว ก็จะเจอร้าน Mode Off อยู่ฝั่งขวามือค่ะ

ร้านนี้มี 2 ชั้น ขายถูกมากๆ ที่เห็นนี่กองละ 100 เยนนั่น มันมีอะไรที่ไม่น่าเชื่อว่าจะขายราคานี้อยู่ด้วยหละค่ะ คือเค้าเอามาลดราคาอีกรอบ หลังจากที่ยังไม่มีใครมาซื้อ เหมือนจะรอคอยเจ้าของใหม่ยังไงยังงั้น 555

Brand Name ก็มีนะคะ


ชั้นสองค่ะ มีเสื้อผ้าทั้งหญิงและชาย ดูดีๆ ราคาถูกมากค่ะ





ช้อปปิ้งมือสอง เสร็จแล้วก็สามารถเดินเล่นเพลินๆ เดินดูตลาดท้องถิ่นได้อีกมาเที่ยวตลาดด้วยกันต่อนะคะ


ขายผัก ผลไม้ เป็นกองๆ นึกว่าจะมีแต่บ้านเราซะอีก ตลาดแบบนี้ ก็ไม่เชิงจะเหมือนตลาดสดบ้านเรา 
เป็นร้านแบบตึกแถว มีขายหลายอย่าง เช่น ช็อกโกแลต ราคาไม่แพงเลย




มาต่อเรื่อง shopping ของมือแรกกันบ้าง ที่ Solarmachi ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ติดกับ Tokyo Sky Tree นั้นก็ใช่ว่าจะมีแต่ของแพงๆเท่านั้น ทีแรกฉันก็มองว่าห้างพวกนี้ คงจะซื้ออะไรไม่ได้แน่ๆ เพราะคงจะแพงมาก แต่วันหนึ่งที่ฉันตัดสินใจเดินเล่นอยู่แถวๆ ที่พัก ก็อย่างที่บอก สาเหตุที่ฉันไม่ชอบช้อปปิ้งในต่างประเทศสักเท่าไหร่ก็เพราะเหตุผลหลักนั่นคือ ราคาแพง แต่รอบนี้…ฉันลงทุนที่จะเดินดูของไปเรื่อยเปื่อย เพื่อที่จะได้รู้ว่า ไอ้ความคิดที่ฉันมองว่า ญี่ปุ่นนี่ของแพงเวอร์มากๆ นั้น มันใช่ 100% มั้ย และแล้วฉันก็ขอมาถอนคำพูดอีกเรื่องค่ะ ว่าของแพงก็มีเยอะ แต่ของไม่แพง ราคาใกล้เคียงกับบ้านเรา ก็มีเยอะเช่นกัน ตามมาดูกันค่ะ

ร้านนี้ ฉันสอยอะไรมาหลายอย่าง เพราะ มีโปรโมชั่น ซื้อ 2 ชิ้นได้ลดอีก 20% ที่ตัดสินใจซื้อ ก็ไม่ได้แปลว่าถูกเวอร์หรอกค่ะ แต่คุณภาพของเค้าใช้ได้เลย การตัดเย็บ ความแข็งแรง (เป้ที่เห็นในภาพ เอามาใช้แล้ว เวิร์คมากค่ะ เพราะฉันใส่ของเยอะแยะ หนักพอสมควร ทนดีจริงๆ) เห็นเป็นร้านอย่างนี้ก็จริง แต่ก็รับบัตรเครดิตด้วยค่ะ


 
ราวนี้ ก็ถือว่า ราคาไม่แพงเลย ได้ผ้าห่อตัว เอ้ย เหมือนผ้าห่มตัวอ่ะค่ะ เนื้อผ้าดี ซื้อไปฝากญาติ 
พี่น้อง ค่ะ




ภายในห้าง มีร้านที่น่าเข้าหาซื้อเสื้อผ้าอยู่หลายร้าน โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงนะคะ เช่น







ใช่ว่าจะมุ่งตรงไปดูแต่เสื้อผ้าราคาไม่แพงเท่านั้นนะคะ อาหารที่นี่ โดยเฉพาะ ในโซน Food Marche ก็มีอาหารให้เลือกซื้อกิน แถมมีที่นั่งให้ด้วย อยู่บริเวณใกล้ๆกัน ถ้าเทียบกับอาหารในร้านอาหารทั่วๆ ไป ที่นี่ถือว่าถูกเลยค่ะ อย่างในภาพข้างล่างนี้ ปลาหมึกย่าง อย่างเยอะ













ชั้น 2-3 ของ Solamachi ไม่อิ่มให้มันรู้ไปค่ะ 555 เดินเล่น ชมสินค้า ขึ้นๆ ลงๆ อยู่แถวนั้น หิวก็มานั่งกินแถวนี้ ประหยัดได้เยอะเลย คือฉันได้ซื้อผลไม้กินที่นี่ ถือว่าสุขใจมาก สะอาด อร่อย ไม่แพง ถ้าเทียบกับข้างนอก











โอ้ว..เจอร้านสปาค่ะ ในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าของธุรกิจสปา เจอร้านอะไรที่เกี่ยวข้องกับงานของฉัน ก็อยากจะไปหาประสบการณ์บ้าง เช่นร้านนี้ เป็นร้านทำเล็บ ดูเหมือนจะเป็นสาขาของร้านทำเล็บจากอเมริกา ฉันก็อยากลองบ้าง เลยเข้าไปใช้บริการร้านนี้ดูค่ะ ราคาไม่ถูกหรอกค่ะ แต่อยากลอง






ปิดทริปด้วยการได้ยลโฉม Tokyo Sky tree
เดินเล่นข้างแม่น้ำ บรรยากาศดี๊ดี
แนะนำเลยค่ะ
หนึ่งวันกับแถวๆนี้ ฉันว่าไม่เลวเลยล่ะค่ะ


























สนใจอยากช้อป อยากทัวร์ญี่ปุ่น คลิก MushroomTravel/Japan พวกเรายินดีให้บริการค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น