เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ถือเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่มีธรรมเนียมปฏิบัติเหมือนกันทั่วโลก นั่นก็คือการเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สวยงาม และเพลิดเพลิน ซึ่งแต่ละประเทศก็จะระดมเงินทุน และสมองเพื่อให้การจัดงานเฉลิมฉลองการส่งท้ายปีเก่าหรือที่เรียกว่างานเคาท์ดาวน์นั้นออกมาน่าสนใจ อลังการ และมีจุดขายอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ มากที่สุด โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเที่ยวในประเทศของตัวเองมากขึ้น เพราะนั่นหมายถึงเม็ดเงินมหาศาลที่จะหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศในช่วงเทศกาลอันสำคัญนี้ และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเทศกาลแห่งความสุขอันยิ่งใหญ่นี้ก็จะหมุนเวียนมาสู่มนุษยชาติอีกครั้ง ดังนั้น Mushroom Travel ไม่รอช้า รีบเสาะหา 10 เมืองใหญ่ที่ดีที่สุดสำหรับการเคาท์ดาวน์มาฝากทุกท่าน เผื่อว่าท่านใดที่ยังไม่ได้วางแผนการสำหรับเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ก็จะได้นำข้อมูลของเราไปประกอบการตัดสินใจว่าธีมการเค้าท์ดาวน์ของเมืองไหนที่น่าสนใจสำหรับท่าน
Time to Dream at Sydney Harbour - Sydney, Australia
นับว่าเป็นความโชคดีของชาวออสซี่ที่มีโอกาสได้สัมผัสกับพระอาทิตย์แรกของปีใหม่ก่อนใครเพื่อน ดังนั้นจึงเป็นธรรมเนียมของดินแดนแห่งนี้ที่งานเฉลิมฉลองการส่งท้ายปีเก่าต้องอลังการงานสร้างเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองซิดนีย์ที่ถือได้ว่าเป็นเมืองสำคัญของประเทศ และเป็นจุดหมายปลายทางในอันดับต้นๆ ของโลกที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยากมาร่วมฉลองเทศกาลเคาท์ดาวน์มากที่สุด โดยจุดที่เหมาะสมในการรองรับผู้คนจากทั่วทุกสารทิศก็คือในบริเวณซิดนีย์ฮาร์เบอร์ ซึ่งจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นเวทีสำหรับการแสดงขนาดใหญ่ โดยงานฉลองจะเริ่มตั้งแต่ช่วง 18.00 น. ไปจนถึงเวลาเที่ยงคืน กับโชว์ที่หลากหลาย ทั้งการแสดงดอกไม้ไฟ ขบวนพาเหรดอันตระกาลตา และการแสดงแสงเลเซอร์ คอนเสิร์ต เป็นต้น
City Of Lights in Paris, France
สำหรับการเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในมหานครปารีส ธีมของการจัดงานของพวกเขาสื่อถึงชีวิตของชาวปารีสที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งแสงไฟ หรือ “City Of Lights” โดยตามถนนหนทางในเมืองทั่วทุกสาย รวมทั้งสถานที่สำคัญๆ ร้านอาหาร คลับ บาร์ ฯลฯ ก็จะตกแต่งด้วยแสงไฟสีต่างๆ ดูละลานตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรอบๆ หอไอเฟล และในย่านถนนชองป์ส เอลิเซ่ ที่ผู้คนจำนวนมากจะมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้เพื่อรอชมดอกไม้ไฟที่จะถูกจุดขึ้นเหนือประตูชัยฝรั่งเศส และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนตรง ผู้คนก็จะทักทายสวัสดีปีใหม่กันด้วยการจูบแก้มอันเป็นธรรมเนียมของผู้คนที่นี่ นอกจากนั้นหากใครต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ ปารีสก็ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย อย่างเช่นการล่องเรือดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติกกลางแม่น้ำแซน เป็นต้น
New Year's Eve in Las Vegas, USA
เมื่อพูดถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในอเมริกา คนส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่ย่านไทม์ สแควร์ มหานครนิวยอร์ค อันเป็นต้นแบบในการจัดงานเคาท์ดาวน์ที่แพร่ขยายไปทั่วโลกในขณะนี้ แต่จริงๆ แล้ว ในอีกฟากฝั่งของผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ลาสเวกัสคืออีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยสีสันไม่แพ้ฝั่งนิวยอร์คเลย เพราะอย่างที่เราๆ ท่านๆ ทราบกันดีอยู่แล้วว่าลาสเวกัสนั้นได้ชื่อว่าเป็นนครแห่งแสงสีที่ไม่เคยหลับใหล ซึ่งในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ที่นี่จะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วทุกมุมถนน โดยเฉพาะในย่านดาวน์ทาวน์ ที่จะมีการจัดงานต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลก และการแสดงดอกไม้ไฟพร้อมแสงสีเสียงสุดอลังการ
New Year's Eve in London, United Kingdom
สหราชอาณาจักรนั้นเป็นประเทศในลำดับท้ายๆ ของทวีปยุโรปที่จะได้เฉลิมฉลองเทศกาลต้อนรับปีใหม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในทวีปเดียวกัน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่มหานครลอนดอน จึงทำให้ในแต่ละปีการจัดงานของที่นี่จึงเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ทั้งการแสดงพลุไฟประกอบเสียงสีเสียง และขบวนพาเหรด เป็นต้น ผู้คนจำนวนหลักล้านจะมารวมตัวกัน ณ บริเวณริมแม่น้ำเทมส์ และลอนดอยอายส์หรือที่รู้จักกันดีในนามของชิงช้าสวรรค์ยักษ์อันเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของกรุงลอนดอน รวมทั้งในบริเวณรอบๆ หอนาฬิกาบิ๊กเบน เพื่อรอนับเวลาถอยหลังพร้อมกัน และเมื่อถึงเวลา 10 วินาทีสุดท้ายก่อนจะก้าวเข้าสู่วันใหม่ พลุจำนวนหลายแสนนัดจะถูกจุดขึ้นพร้อมกันเบนท้องฟ้าเหนือลอนดอนอายส์ หอนาฬิกาบิ๊กเบน และอาคารรัฐสภาเวสมินสเตอร์ ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก
Hong Kong New Year Countdown Celebrations, Hong Kong
หันกลับมาดูทวีปเอเชียบ้านเราบ้าง ฮ่องกงถือว่าเป็นประเทศที่ใช้งบลงทุนกับการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ในจำนวนมหาศาลเป็นประจำทุกปี จึงทำให้ที่นี่เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของโลกที่นักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆ มักจะต้องมารวมกันที่นี่เพื่อรอการเฉลิมฉลองเทศกาลต้อนรับปีใหม่ที่สนุกสนานและสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการแสดงดอกไม้ไฟจำนวนมหาศาล หรือ Light Show อันเป็นไฮไลท์ของการแสดงที่ในแต่ละปีมักจะเซอร์ไพรส์นักท่องเที่ยวได้เสมอ และเมื่อถึงเวลาแห่งการนับถอยหลังเข้าสู่วันแรกของปีใหม่ ในบริเวณริมอ่าววิคตอเรียจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ ที่จะมารวมตัวกันเพื่อนับเวลาถอยหลังพร้อมกันและชมพลุที่จะถูกจุดขึ้นเป็นล้านๆ นัดเหนืออ่าววิคตอเรียแห่งนี้
Street Party - Amsterdam, Netherlands
อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของประเทศเนเธอแลนด์ ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญในทวีปยุโรปที่เป็นจุดหมายทางของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จากทั่วโลกในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากในช่วงวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ถนนสายสำคัญในอัมสเตอร์ดัมจะกลายสภาพเป็นลานปาร์ตี้ ผู้คนจะออกมาชุมนุมตามท้องถนนพร้อมกับเต้นรำและสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเย็น ส่วนร้านอาหารและอาคารต่างๆ ตามสองข้างทางก็จะตกแต่งด้วยแสงไฟอย่างงดงามเพื่อเรียกแขกขาจร จากนั้นในช่วงเวลาสำคัญผู้คนก็จะกระจายกันจับจองที่ทาง ไม่ว่าจะเป็นตามท้องถนน บนสะพาน หรือบนม้านั่งในสวนสาธารณะเพื่อรอชมพลุไฟที่จะถูกจุดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันในช่วงเวลาเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่
New Year's Eve Berlin, Germany
กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีคืออีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจหากใครต้องการไปเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กันที่นี่ เพราะเป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกแห่งหนึ่ง คริสต์ศาสนิกชนกว่าล้านคนจะมาชุมนุมกันในโบสถ์ต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเบอร์ลิน เพื่อร่วมสวดมนต์ข้ามปี ส่วนอีกด้านหนึ่งของเมือง ผู้คนจำนวนมากจะไปรวมตัวกัน ณ บริเวณประตูบรานเดนบวร์กจนถึงเสาแห่งชัยชนะ ซึ่งมีระยะความยาวถึง 2 กิโลเมตร เพื่อร่วมฉลองงานเยอรมันซิลเวสเตอร์ หรืองานปาร์ตี้ฉลองปีใหม่กลางแจ้งของกรุงเบอร์ลิน ที่ภายในงานจะประกอบด้วยคอนเสิร์ตจากวงดนตรีชั้นนำจากทั่วโลก การแสดงพลุไฟ และ Light show อันเป็นธรรมเนียมที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่กำแพงเบอร์ลินล่มสลายไป และเยอรมนีตะวันออกกับตะวันตกรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
The New Year's Concert of the Vienna Philharmonic, Austria
การเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียนั้นค่อนข้างแตกต่างจากเมืองใหญ่อื่นๆ เพราะบรรยากาศการฉลองปีใหม่ของที่นี่ค่อนข้างคลาสสิกและโรแมนติก จึงทำให้งานเคาท์ดาวน์ที่เวียนนาเหมาะสำหรับคู่รัก หรือคู่แต่งงานเป็นอย่างยิ่ง โดยวันสุดท้ายของปี กรุงเวียนนาจะถูกเนรมิตให้คล้ายกับเป็นวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่พิเศษคือมันไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เป็นคอนเสิร์ตในแบบซิมโฟนีออเคสตร้าอันเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาเป็นร้อยๆ ปี ซึ่งคอนเสิร์ตจะถูกจัดขึ้นทั้งในส่วนของพระราชวังอิมพีเรียล หรือแม้กระทั่งบนท้องถนน โดยงานจะเริ่มจะตั้งแต่เวลา 02.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม ท้องถนนจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาเต้นรำกันอย่างสนุกสนานและสวยงามในจังหวะดนตรีแจ๊ส วอลซ์ ฯลฯ อย่างเพลงของบรรดาคีตกรเอกอย่างบีโธเฟน บาก วิวัลดี โมสาร์ท เป็นต้น ภายใต้ความสว่างไสวของพลุจำนวนมากที่ถูกจุดขึ้นไปบนท้องฟ้า
Race the Clock - Barcelona, Spain
สำหรับประเทศสเปน การเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของพวกเขาออกจะค่อนข้างมีพิธิการมากกว่าประเทศอื่นๆ อยู่สักหน่อย นั่นคือในวันสุดท้ายของปี ชาวสเปนจะพร้อมใจกันเฉลิมฉลองเทศกาลภายในครอบครัวโดยไม่ออกจากบ้านไปไหนเลย จนกระทั่งเมื่อเวลาเที่ยงคืนมาถึง เสียงระฆังจากโบสถ์ต่างๆ จะดังขึ้นเป็นเครื่องบอกเวลาถึงวันใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามา ซึ่งชาวสเปนทั้งหลายก็จะต้องรับประทานองุ่นจำนวน 12 ลูกเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย เพราะพวกเขามีความเชื่อว่าการกินองุ่นในเวลาแรกของปีใหม่จะทำให้มีโชคดีตลอดทั้งปีที่กำลังมาถึง จากนั้นจึงจะออกไปเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่บนท้องถนน ด้วยการเต้นรำอันเป็นประเพณีที่สำคัญของชาวสเปนในชุดสีสันสดใส พร้อมกับชมดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดจำนวนมากมาย ที่ส่องแสงสว่างไสวไปทั่วเมือง อันเป็นสิ่งที่แสดงถึงการต้อนรับเช้าวันใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามา
Extended New Year Celebrations - Tokyo, Japan
สำหรับเมืองสุดท้ายนี้ เราขอปิดท้ายการเคาท์ดาวน์ ณ ประเทศญี่ปุ่น ที่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นถือเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญต่อชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าคุณอยากเปลี่ยนบรรยากาศของการเฉลิมฉลองปีใหม่มาสู่ความเงียบสงบ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นคือตัวเลือกที่คุณคู่ควร โดยในวันสุดท้ายของปี ครอบครัวชาวญี่ปุ่นจะเฉลิมฉลองเทศกาลกับครอบครัวภายในบ้านด้วยการรับประทานโซบะร่วมกันตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ จากนั้นพวกเขาจึงจะแต่งตัวด้วยชุดประจำชาติอย่างกิโมโนหรือไม่ก็ชุดยูกาตะแล้วออกไปไหว้พระขอพรตามศาลเจ้าต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วกรุงโตเกียว นับว่าเป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก ประหนึ่งเหมือนกับย้อนเวลาไปในยุคโบราณ ส่วนตามท้องถนนต่างๆ ก็จะมีการประดับตกแต่งด้วยแสงไฟหลากสีดูสวยงาม จึงนับว่าโตเกียวเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีบรรยากาศของการเฉลิมฉลองปีใหม่ที่โรแมนติกที่สุดในโลก
เห็นแล้วอยากไปเที่ยวจังค่ะ ^^
ตอบลบ