วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Garden by the Bay...New Destination at Singapore


ใครเลยจะคิดว่าเกาะเล็กๆ ที่พื้นที่ส่วนใหญ่เกิดจากการถมทะเลอย่างประเทศสิงคโปร์ จะสามารถกลายเป็นประเทศที่มีสถานะทางการเงินอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ไปเยือนเกาะเล็กๆ แห่งนี้หลายล้านคนต่อปี ทั้งที่สิงคโปร์นั้นหากเทียบกับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงต่างๆ แล้ว ถือว่าค่อนข้างโชคร้ายที่มีทรัพยากรท่องเที่ยวจากธรรมชาติค่อนข้างน้อย แต่ประเทศสิงคโปร์กลับกลายหนึ่งในประเทศที่มีอิทธิพลในฐานะของเมืองท่องเที่ยวจากสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมาทดแทน ดังเช่นเมกะโครงการล่าสุดจากรัฐบาลสิงคโปร์ ที่มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนสิงคโปร์ให้กลายเป็นเมืองแห่งสวนสาธารณะ โดยนอกจากจะเป็นสถานที่ที่เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศแล้ว ยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล


พื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ของสิงคโปร์นี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Garden by the Bay” ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 250 เอเคอร์ ตั้งอยู่ใจกลางของสิงคโปร์ริมอ่าวมารีน่าเบย์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินจากอ่าวมาที่สวนแห่งนี้เพียง 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งสวนแห่งนี้แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ส่วนคือ สวนริมอ่าวทางใต้ สวนริมอ่าวทางตะวันออก และอ่าวกลางสวนซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมสวนทั้งสองเอาไว้ นอกจากนี้จุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่าง Marina Bay Financial District อันเป็นสะพานลอยฟ้า ที่นอกจากจะเป็นชุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นยามเย็นของคู่รักหรือครอบครัวอีกด้วย

นอกจากนี้ภายในทั้ง 3 ส่วนของ Golden by the Bay นี้ยังได้แบ่งออกเป็นส่วนย่อยต่างๆ อีก 7 โซนด้วยกัน ซึ่งแต่ละโซนนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้ว ยังมีส่วนที่เป็นความรู้คือส่วนของการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการของสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต อันได้แก่ Flower Dome, Cloud Forest, Supertree Grove, Heritage Gardens, Dragonfly & Kingfisher Lakes, Bay East Garden และ World of Plants

Flower Dome



Flower Dome เป็นโดมดอกไม้ที่มีความสูงถึง 38 เมตร และมีขนาดพื้นที่กว่า 3 เอเคอร์ ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวทางด้านทิศใต้ของ Garden by the Bay เมื่อนักท่องเที่ยวก้าวเท้าเข้าสู่ Flower Dome คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังก้าวเข้าสู่โลกของฤดูใบไม้ผลิ เพราะที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยพืชดอกหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก ที่ต่างแข่งกันชูช่อเบ่งบานอวดสีสันสดใสรอต้อนรับผู้มาเยือนตลอดทั้งปี เพราะโดมดอกไม้แห่งนี้ได้จำลองสวนของทวีปต่างๆ พร้อมกับควบคุมภูมิอากาศให้เหมาะสมกับความต้องการของพืชนั้นๆ ไว้ถึง 9 โซนด้วยกัน ได้แก่ California Garden, Olive Grove, Mediterranean Garden, South American Garden, South African Garden, Australia Garden, Succulent Garden, The Baobabs และ Flower Field  นอกจากนั้นภายในโดมยังได้มีการควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 23-25 องศาเซลเซียส เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความสุขกับการเดินชมสวนได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป







สำหรับโซนการจัดแสดงพันธุ์พืชต่างๆ ที่แบ่งแยกย่อยออกไปนั้น ในส่วนของโซน Succulent Garden และ The Baobabs เป็นสวนของพืชที่อยู่ในโซนอันมีอากาศที่อบอุ่น รวมทั้งพืชจากโซนที่แห้งแล้งที่สุด อย่างเช่นต้น Baobab นอกจากนี้พืชที่จัดแสดงส่วนใหญ่นั้นมาจากสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก แอฟริกา และมาดากัสการ์ เป็นต้น, Australia Garden สวนออสเตรเลียนั้นเป็นพืชที่เติบโตในเขตที่มีความแห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง รวมทั้งพืชที่มักจะเติบโตในสภาพอากาศอันอบอุ่นพอสมควรในประเทศออสเตรเลีย อย่างเช่นต้นยูคาลิปตัสที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี, South African Garden สวนแอฟริกาใต้เป็นพืชที่มีแหล่งกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกาใต้อันกว้างใหญ่ ทั้งยังรวมถึงต้น Protea ซึ่งเป็นฯดอกไม้ประจำชาติของประเทศแอฟริกาใต้อีกด้วย, South American Garden สวนอเมริกาใต้นั้นเป็นพืชจากเขตกึ่งแห้งแล้งพอสมควรของทวีปอเมริกาใต้ อย่างเช่นต้น Monkey puzzle และ Chilean Wine Palm จากประเทศชิลี

นอกจากนั้นไฮไลท์สำคัญของ Flower Dome ก็คือในโซน Flower Field  ที่นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับดอกไม้นานาพรรณที่บางชนิดอาจไม่เคยเห็นมาก่อนแล้ว สิ่งที่พิเศษอีกอย่างก็คือ หากนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่ในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ก็จะมีโอกาสได้เห็นการจัดดิสเพลย์ดอกไม้อันสวยงามตระการตา อย่างเช่น การจัดสวนในบรรยากาศของเทศกาลอีสเตอร์ หรือเทศกาลคริสมาสต์ เป็นต้น

Cloud Forest



Cloud Forest ถูกจำลองบรรยากาศของดินแดนลึกลับที่มีทั้งภูเขาสูงชันและเมฆหมอกในพื้นที่ 2 เอเคอร์ ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์พืชหายากบนภูเขาที่สูงชัน ไมว่าจะเป็นพืชที่มักขึ้นอยู่บริเวณภูเขาในเขตร้อนซึ่งมีความสูงกว่า 1,000 เมตร ถึง 3,000 เมตร ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ โดยได้มีการจำลองภูเขาขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีความคล้ายคลึงกับบรรยากาศของจริงมากที่สุด ในบรรยากาศของเมฆหมอกและป่าไม้อันเขียวชอุ่ม รวมทั้งน้ำตกจำลองที่สวยงามไม่แพ้ของจริง  ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลิฟท์เพื่อไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขาจำลองแห่งนี้ได้




ไม่เพียงเท่านั้น ในโซน Cloud Forest  แห่งนี้ยังมีส่วนจัดแสดงพืชที่เกือบหายสาบสูญไปจากโลกอย่างเช่นกล้วยไม้บางชนิด และเฟิร์นหายากในบริเวณด้านบนของภูเขา ซึ่งจะมีทางเดินเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินสำรวจพันธุ์พืชต่างๆ ซึ่งมีความยาวรอบภูเขาจำลองถึง 35 เมตร และหากคุณสังเกตให้ดีที่นี่ก็จะมีสวนลับอยู่แห่งหนึ่ง อันเต็มไปด้วยต้นไม้ที่มาจากหุบเหวในประเทศนิวซีแลนด์นั่นเอง

Supertree Grove 




Supertrees Grove ตั้งอยู่ริมอ่าวทางด้านทิศใต้ ทั้งยังเป็นโซนที่ใหญ่ที่สุด ถูกออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยสวนแนวตั้งอันมีความสูงตั้งแต่ 20- 50 เมตร ทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของเฟิร์นและกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์กว่า 200 ชนิด เพราะ Supertrees นี้อาจเรียกได้ว่าเป็นต้นไม้หุ่นยนต์ เนื่องจากถูกออกแบบขึ้นมาให้มีโครงสร้างและฟังก์ชั่นภายในเลียนแบบการทำงานของระบบนิเวศน์เหมือนกับต้นไม้จริงๆ นอกจากนั้นมันยังต้องอาศัยพลังงานของแสงอาทิตย์เทียมเพื่อนำมาใช้สำหรับการทำงานบางส่วนเช่นเดียวกับวิธีการที่ต้นไม้สังเคราะห์แสง และมันยังสามารถสะสมน้ำเพื่อนำมาใช้งานภายในสวน รวมทั้งมันยังทำหน้าที่ทำความเย็นและระบายอากาศภายในบริเวณสวนแห่งนี้ทั้งหมด




นอกจากนั้นในโซนแห่งนี้ยังประกอบด้วยทางเดินยกระดับ OCBC สกายเวย์ ที่มีระยะทาง 128 เมตร เป็นทางเดินยาวที่มีความสูงถึง 22 เมตร ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่าง Supertrees ภายใน Supertree Grove ที่นอกจากจะเป็นเส้นทางชมวิวแบบชิลล์ๆ แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและเครื่องดื่มไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ส่วนในช่วงเย็นก็ยังมีการแสดงแสงสีประกอบกับเสียงดนตรีอันน่าตื่นตาตื่นใจที่เรียกว่า Rhapsody Garden อีกด้วย

Heritage Gardens 



Heritage Gardens นำเสนอรากฐานของประวัติศาสตร์อันเกิดจากความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ของชาวสิงคโปร์ อีกทั้งยังก่อเกิดวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ซึ่งสวนแห่งนี้ได้นำเสนอเรื่องราวผ่านพืชพรรณต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ โดยแบ่งแยกย่อยออกเป็นทั้งหมด 4 ธีมหลักด้วยกัน นั่นคือ Indian Garden, Chinese Garden, Malay Garden และ Colonial Garden




ในขณะที่นักท่องเที่ยวเดินผ่านแต่ละสวนในโซนนี้ สิ่งที่คุณจะพบนั้นคือเรื่องราวของการมีส่วนร่วมจากกลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างกันต่อการก่อตัวของประเทศสิงคโปร์ อย่างเช่น Malay Garden ที่เน้นเสนอเกี่ยวกับเรื่องของผลไม้ที่กินได้ และพืชสมุนไพรของชาวมลายูท้องถิ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศมาเลเซีย รวมทั้งบ้านกำปงที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติทั้งหมด, Colonial Garden นอกจากจะนำเสนอพืชเศรษฐกิจส่งออกที่สำคัญของสิงคโปร์แล้ว ในส่วนนี้ยังมีบ้านสไตล์โคโลเนียลสีดำและสีขาวที่สร้างขึ้นจากปูนและเปลือกหอยบด ที่สำคัญไม้ที่ใช้ยังป้องกันปลวกและแมลงได้ดี ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่สะท้อนถึงความเป็นอดีตประเทศอาณานิคมของสิงคโปร์นั่นเอง, Indian Garden สวนสไตล์อินเดียในรอบรั้วสีฟ้า รวมทั้งต้นกำเนิดของธรรมชาติและสัตว์หลากหลายชนิด และ Chinese Garden สวนจีนที่มีเอกลักษณ์ของศิลปะแบบจีน นอกจากนั้นยังมีไฮไลท์คือรูปปั้นของพระพุทธเจ้าใต้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งก็คือต้นศรีมหาโพธิ์ และพืชสมุนไพรอีกหลายชนิด

Dragonfly & Kingfisher Lakes



ทะเลสาบ Dragonfly & Kingfisher Lakes ตั้งอยู่ตรงกลาง Garden by the Bay ที่ไม่เพียงจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามของสวนที่รายล้อมเท่านั้น แต่ทะเลสาบแห่งนี้ยังอุดมไปด้วยสัตว์น้ำ และพืชน้ำหลากหลายชนิดที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยดูดซับไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในน้ำ นอกจากนี้ยังมีระบบกรองน้ำสะอาดที่เชื่อมต่อกับอ่าวมารีน่าเบย์ ทะเลสาบของที่นี่จึงมีน้ำที่ใสสะอาดอยู่เสมอ และจุดเด่นอีกอย่างของทะเลสาบแห่งนี้ก็คือฝูงแมลงปอที่มีอยู่มากมาย นักท่องเที่ยวจึงเพลิดเพลินกับการเดินเล่นริมทะเลสาบพร้อมฝูงแมลงปอหลากสีสันที่บินวนเวียนอยู่รอบตัว




Bay East Garden



Bay East Garden คือโลกของความสงบริมน้ำทางด้านทิศตะวันออกที่มองเห็นวิวอันสวยงามของเส้นขอบฟ้า Marina Bay Financial District อ่าวมารีน่าเบย์ Supertrees ต้นปาล์ม และสนามหญ้าเขียวขจีอันกว้างใหญ่ นอกจากนี้ภายในสวนยังมีเส้นทางเดินเล่นริมน้ำซึ่งมีความยาวถึง 2 กิโลเมตร ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมของครอบครัวที่มักจะพากันมาเดินเล่นหรือปิกนิกเสมอ อีกทั้งการเดินทางมาที่นี่ก็ยังง่ายดาย ด้วยรถบริการสาธารณะสาย 158 หรือเดินข้ามมารีน่าเบย์มาเพียง 5 นาทีเท่านั้น





World of Plants



World of Plants คือโลกพฤกษศาสตร์ที่มีความสวยงามและน่าสนใจด้วยดินแดนของต้นไม้เขียวขจี และพืชเขตร้อนที่งดงาม ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ถึงพันธุ์พืชดั้งเดิมของโลก ไม่ว่าจะเป็นพืชในเขตป่าฝนอย่างเช่นชุมชนเห็ด รวมทั้งดอกไม้สายพันธุ์ต่างๆ ที่มักจะเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น ไม่เพียงเท่านั้น ในโซนแห่งนี้ยังมีสัตว์ป่าอีกหลายชนิด อย่างเช่นนกเงือก หรือบรรดาลิงชนิดต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวอาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน





และทั้งหมดนี้ก็คือ Garden by the Bay แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุด ทั้งยังเป็นเมกะโปรเจ็กต์ของประเทศสิงคโปร์ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หากคุณมีโอกาสได้ไปเยือนเกาะเล็กๆ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้

ทัวร์สิงคโปร์

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เตรียมอะไรก่อนไป JAPAN


Tips การเตรียมตัวก่อนเก็บกระเป๋าไปเยือนญี่ปุ่น


การท่องเที่ยวต่างประเทศนั้นถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ และไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครๆ หลายๆ คน จึงอาจก่อให้เกิดเรื่องครุ่นคิด จนถึงขั้นกลุ้มอกกลุ้มใจตามมา เพราะไม่ใช่ว่าแค่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินก็สามารถไปไหนมาไหนได้เลย แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนที่จะเดินทาง ก็คือการเตรียมตัวล่วงหน้า ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับที่ประเทศที่คุณต้องการไปเที่ยวเสียก่อนว่าจะต้องมีการขอวีซ่าหรือไม่ หรือต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง สภาพอากาศเป็นแบบไหนเพื่อจะได้เตรียมเสื้อผ้าได้ถูกต้อง รวมทั้งเรื่องอื่นๆ อีกจิปาถะ ซึ่งบางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่เราคาดไม่ถึงเลยก็ได้

สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศญี่ปุ่นนั้น นับว่าเป็นความโชคดีของนักท่องเที่ยวชาวไทยเมื่อสถานทูตประเทศญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ออกประกาศยกเลิกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการอาศัยในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน แต่กระนั้นผู้ที่ต้องเดินทางไปญี่ปุ่นก็ต้องเตรียมตั๋วเครื่องบินไปกลับ เงินสด บัตรเครดิต ใบจองที่พัก แผนการเดินทาง พาสปอร์ต รวมทั้งเสื้อผ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่จำเป็นอยู่ดี ดังนั้น “มัชรูมทราเวล” จึงได้รวบรวมสิ่งที่คุณจะต้องเตรียมเอาไว้ให้พร้อมเมื่อคุณต้องเดินทางไปญี่ปุ่นมาเพื่อสำหรับทุกท่าน ดังนี้ 






เอกสารสำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยที่มีวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นในระยะสั้นคือไม่เกิน 15 นั้นไม่จำเป็นจะต้องถือวีซ่า อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าญี่ปุ่นไม่ว่าจะมีจุดประสงค์ใดก็ตามจะต้องยื่นเอกสารต่างๆ ในขั้นตอนของการตรวจคนเข้าเมืองเพื่อยืนยันว่ามีคุณสมบัติในการเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วย

เสื้อผ้า
เสื้อผ้าคือถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความสำคัญสำหรับมนุษย์ทุกคน และสำหรับผู้ที่จะต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์ใดๆ ก็ตาม สิ่งหนึ่งที่คุณควรทราบก็คือเรื่องของสภาพภูมิอากาศและอุณหภูมิแต่ละช่วงของญี่ปุ่นเสียก่อน เพราะจะทำให้คุณสามารถจัดเสื้อผ้าที่ต้องใช้เมื่อคุณพักอาศัยอยู่ที่นั่นได้ถูกต้อง โดยประเทศญี่ปุ่นนั้นมี 4 ฤดู นั่นคือฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แน่นอนว่าในสภาพอากาศที่แตกต่างกันอย่างนี้ การแต่งกายก็จำต้องแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู โดยเฉพาะหากเป็นช่วงหน้าหนาวนั้นอุณหภูมิจะหนาวเย็นมาก ดังนั้นคุณควรเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม เพื่อจะได้เที่ยวหรือทำกิจธุระได้อย่างมีความสุข

เงินสด เช็ค และบัตรเครดิต
เงินสดเป็นสิ่งจำเป็นในประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ เพราะสะดวกในการใช้และปลอดปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นค่ายานพาหนะต่างๆ ค่าอาหารที่ราคาไม่แพงมากนัก หรือการใช้ซื้อของจิปาถะ เป็นต้น ดังนั้นก่อนการเดินทางคุณต้องทำการแลกเงินเสียก่อน โดยค่าเงินของญี่ปุ่นนั้นใช้หน่วยเป็นเยน โดยอาจจะแลกในสนามบินก็ได้ หรือตามธนาคาร ชั้นนำหลายๆ แห่ง หรือศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินตราของเอกชน เป็นต้น แต่หากใครที่ไม่สะดวกที่จะพกเงินสดจำนวนมาก การเตรียมเช็คเดินทางและบัตรเครดิตไว้ให้พร้อม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกสบายในการเก็บรักษา เนื่องจากตามเมืองใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นก็มีการใช้บัตรเครดิตกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นตามร้านค้า ภัตตาคาร บัตรโทรศัพท์และอื่นๆ

ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
การใช้ไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นนั้นใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 100 โวลต์ แต่จะมีความถี่ 2 ขนาด คือภาคตะวันออกใช้ 50 เฮิรตซ์ ส่วนในภาคตะวันตกใช้ 60 เฮิรตซ์ และเต้าเสียบรองรับปลั๊กไฟแบบขาแบน 2 ขา ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะบ้านเรานั้นใช้ไฟฟ้า 240 โวลต์ ดังนั้นหากคุณต้องการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตัวไปด้วยก็ต้องตรวจสอบเสียก่อนว่าสามารถรองรับไฟฟ้าระหว่าง 100-240 โวลต์ได้รึไม่

เมื่อเตรียมของทุกอย่างพร้อมแล้ว คราวนี้ก็แค่หาโปรแกรมทัวร์เจ๋งๆ หรือตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ เพียงแค่นี้ก็ไปเยือนดินแดนอาทิตย์อุทัยได้สบายๆ แล้ว!!