แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ท่องเที่ยวจีน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ท่องเที่ยวจีน แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

7 ทิปส์เด็ด เที่ยวจีนอย่างไรให้ถึงพริกถึงขิง

สำหรับประเทศจีนที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลจนเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของทวีปเอเชีย ทั้งยังมีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก นั่นคือ 1,347.3 ล้านคนโดยประมาณ แถมประเทศจีนยังมีภาษาถิ่นที่หลากหลายซึ่งนอกจากภาษาจีนกลางหรือแมนดารินอันเป็นภาษาราชการแล้วอีกกว่าร้อยภาษา ซึ่งต่อให้ใครที่ว่าแน่ระดับเซียนเมืองจีนแค่ไหน หรือต่อให้เดินทางรอบเมืองจีนชนิดร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เอาเข้าจริงๆ ก็อาจพลาดชนิดตกไม้ตายอย่างคาดไม่ถึงได้ง่ายๆ เช่นกัน ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีแผนจะเดินทางไปชมความยิ่งใหญ่และสวยงามของเมืองจีนแล้วล่ะก็ หากตัวเลือกของท่านคือการเดินทางไปกับบริษัททัวร์แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอะไรมากมายนัก นอกจากจะกังวลเรื่องของสภาพดินฟ้าอากาศเพื่อเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมเท่านั้น แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่อาจไม่ได้ไปกับทัวร์แล้ว สิ่งที่ต้องกังวลและเตรียมตัวมันไม่ใช่แค่ในเรื่องของเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียว ดังนั้นวันนี้มัชรูมทราเวลจึงมี 7 ทิปส์เด็ด เที่ยวจีนอย่างไรให้ถึงพริกถึงขิงมาฝากทุกท่าน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับทริปเที่ยวเมืองจีนอย่างประทับใจและคุ้มค่ามากที่สุด




1. ประหยัดเงินในกระเป๋าด้วยการเลือกห้องพักที่เหมาะสม

โรงแรมในประเทศจีนนั้น หากไม่ใช่ระดับโรงแรมติดดาว ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องของจำนวนเตียงภายในห้องพักนั้นเพียงพอต่อแขกผู้เข้าพักหรือไม่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีเด็กเข้าพักด้วย ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ที่ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์ไปได้อีกมากโข สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสมาชิกมากกว่า 2 คนก็คือ แทนที่คุณจะต้องจองห้องพักถึง 2 ห้อง ก็เปลี่ยนมาเลือกห้องพักในแบบ Twin beds room แทน Double bed room เพราะเตียงในห้องพักทั้งสองแบบนี้มีขนาดเท่ากันนั่นเอง

2. โหลดแอพฯ สำหรับแปลภาษาจีนไว้ในโทรศัพท์มือถือ

แม้ว่าหนุ่มสาวชาวจีนรุ่นใหม่จะเริ่มสามารถสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีหากเทียบกับเมื่อก่อน อย่างไรก็ตาม หากเมื่อลองเทียบเป็นอัตราส่วนแล้ว อาจจะมีชาวจีนเพียง 1 หรือ 2 คน จากทั้งหมด 10 คนเท่านั้นที่สามารถสื่อสารโดยใช้ภาษาสากลได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นอีกหนึ่งหนทางที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวในยุคนี้ก็คือ การโหลดแอพลิเคชั่นแปลภาษาจีนลงในสมาร์ทโฟนหรือไอโฟนของคุณที่มีอยู่มากมายภาพใน App Store อย่างเช่น Pleco ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแอพฯ ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศจีน เป็นต้น


3. พกพาไกด์บุ๊คดีๆ สักเล่มติดตัว

นอกจากแอพฯ แปลภาษาแล้ว ไกด์บุ๊คที่รวบรวมทริปเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับประเทศจีน อย่างเช่น เบอร์โทรสำคัญๆ วิธีการขึ้นรถลงเรือ จุดหมายปลายที่น่าสนใจพร้อมทั้งการเดินทางอย่างละเอียด แผนที่ ฯลฯ ก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดเที่ยวจีนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้ อีกทั้งยังไม่มีทักษะในการใช้ภาษาจีนเลย

4. กระดาษทิชชู่คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในจีน

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเมืองจีนแล้ว ห้องน้ำที่นี่คือสิ่งที่หลายๆ คนทั้งที่ผ่านสมรภูมิจริงมาแล้ว และผู้ที่ยังไม่เคย ต่างกล่าวถึงเป็นอันดับต้น จนก่อเกิดความหวาดผวาตามมาในเรื่องของสุขภัยอนามัยและความสะอาดของห้องน้ำภายในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องน้ำสาธารณะที่ดูท่าจะสยดสยองจนเกินคาดเดา รวมทั้งในเรื่องของการขาดแคลนกระดาษทิชชู่อย่างรุนแรง ดังนั้นกระดาษทิชชู่จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเช่นกันสำหรับที่นี่ที่นักท่องเที่ยวควรพกติดตัวเอาไว้อย่าให้ขาด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจีนเริ่มมีการปรับปรุงคุณภาพห้องน้ำมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงขึ้นทุกปี

5. อย่ากังวลมากนักสำหรับความปลอดภัย

จีนถือเป็นอีกหนึ่งประเทศในโลกที่ปัญหาอาชญากรรมรุนแรงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันเนื่องมาจากบทลงโทษที่รุนแรงและเข้มงวดนั่นเอง ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่ไม่ว่าจะคนเดียว หรือหลายคนก็คงจะวางใจไปได้เปราะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดี ปัญหาอาชญากรรมเล็กๆ อย่างการล้วงกระเป๋า ลักเล็กขโมยน้อยก็พอมีบ้างประปรายดังเช่นประเทศอื่นๆ ดังนั้นนักท่องเที่ยวเองก็ไม่ควรประมาท และระมัดระวังเก็บทรัพย์สินของมีค่าให้ดีด้วย โดยพยายามหลีกเลี่ยงการพกพาเงินสดจำนวนมากๆ หรือหลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับราคาแพงในที่สาธารณะอย่างนี้ เป็นต้น



6. ไม่ต้องตกใจ หากพบเหตุการณ์โหวกเหวกโวยวาย

เมื่อคุณไปเที่ยวเมืองจีน แล้วในขณะที่กำลังเดินเที่ยวชมนกชมไม้อยู่นั้น จู่ๆ เสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนทะเลาะกันก็ดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หากคุณเจอเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้ก็ไม่ต้องตกใจไปว่าคนจีนเขากำลังรบราฆ่าฟันกันหรืออย่างไร ซึ่งความจริงแล้ว คนจีนเป็นชนชาติที่ชอบพูดคุยกันเสียงดังจนบางครั้งฟังดูเหมือนว่าพวกเข้ากำลังทะเลาะกัน ทั้งๆ ที่เนื้อหาอาจจะแค่ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันเท่านั้น เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าพูดจาเสียงดังถือเป็นมารยาทที่ควรกระทำ เพราะบ่งบอกถึงความมั่นใจไม่เหยาะแหยะนั่นเอง

7. หากต้องการความช่วยเหลือ ให้มองหาเด็กไฮสคูล

อย่างที่เกริ่นไว้ในข้างต้นว่านอกจากจีนกลางหรือแมนดารินอันเป็นภาษาราชการของจีนแล้ว ประเทศแห่งนี้ยังมีภาษาถิ่นอีกกว่าร้อยภาษา อันเนื่องมาจากความหลากหลายของชนชาติและผู้คนในจีนนั่นเอง ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามเส้นทาง หรือสอบถามในเรื่องอื่นๆ ก็ตาม หากเป็นคนที่ดูมีอายุสักหน่อย แม้คุณจะสื่อสารกับพวกเขาด้วยภาษาจีนกลาง ก็อาจไม่ได้รับคำตอบอย่างที่ต้องการก็ได้ แต่โชคดีที่หลักสูตรการเรียนการสอนของจีนในปัจจุบัน ได้เล็งถึงความสำคัญของภาษาจีนกลางและภาษาอังกฤษมากขึ้น จึงทำให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 หรือโดยเฉพาะเด็กนักเรียนไฮสคูลสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ดี แม้จะไม่คล่องแคล่วเท่าเจ้าของภาษาตัวจริงก็ตาม

ประเทศจีนถือเป็นประเทศท่องเที่ยวอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความโดดเด่นทางด้านกายภาพของภูมิประเทศ อันเนื่องมาจากขนาดอันใหญ่โตของประเทศแห่งนี้ที่ครอบคลุมพื้นที่ที่แตกต่างกันไว้ในชาติเดียว อีกทั้งจีนยังมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และยาวนานมาหลายยุคหลายสมัย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในเรื่องราวของอดีตเป็นอย่างมาก ซึ่งมัชรูมทราเวลอยากให้ท่านได้ลองไปสัมผัสและพบเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ด้วยสายตาตัวเองดูสักครั้ง 

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557

เที่ยว 5 ชุมชนริมน้ำที่สวยที่สุดในประเทศจีน

ประเทศจีนในปัจจุบันถือเป็นประเทศที่มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเมกะโปรเจ็กต์สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ยักษ์หลายโครงการที่ผุดขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับดอกเห็ด และนั่นก็ทำให้เสน่ห์ของความเป็นชนบทในหลายๆ พื้นที่ของประเทศจีนนั้นค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับความเจริญทางวัตถุและรถไฟฟ้าความเร็วสูงซึ่งเข้ามาแทนที่ ดังนั้นวันนี้ “มัชรูมทราเวล” จึงจะพาท่านไปค้นหาความเงียบสงบและสวยงามที่ให้บรรยากาศและอารมณ์ในแบบของชนบทแท้ๆ กับ 5 ชุมชนริมน้ำที่สวยที่สุดของประเทศจีน ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้นที่ชื่นชอบโปรแกรมการทัวร์แบบนี้ เพราะแม้แต่หนุ่มสาวชาวจีนเองก็พากันหลีกหนีความวุ่นวายของสังคมเมือง แล้วหันมาสนใจการท่องเที่ยวในลักษณะนี้มากยิ่งขึ้น






หมู่บ้านมรดกโลกหงชุน มณฑลอันหุย

หงชุนเป็นหมู่บ้านโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเขตมณฑลอันหุย ซึ่งที่นี่อาจจะเป็นหมู่บ้านเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่สร้างขึ้นมาให้มีลักษณะคล้ายกับวัวยักษ์ทางภาคตะวันออกของจีน โดยมีภูเขาหวงซานเป็นส่วนหัว บ้านเรือนที่กระจายกันอยู่รวมทั้งทะเลสาบคือส่วนของร่างกาย สะพานโบราณนั้นเปรียบได้ดังขา ส่วนลำคลองสายต่างๆ ภายในหมู่บ้านก็รวมกันเป็นระบบไหลเวียนของเลือดนั่นเอง นอกจากนี้โครงสร้างที่สำคัญที่สุดภายในหมู่บ้านก็คือ สถาปัตยกรรมอาคารที่สวยงามและทรงคุณค่าจำนวน 140 หลัง ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง โดยอาคารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือคฤหาสน์ของพ่อค้าเกลือที่มีชื่อว่าหวางติงกุ้ยซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1855  ซึ่งทุกวันนี้ยังได้รับการอนุรักษ์และทำนุบำรุงไว้อย่างดี รวมทั้งศาลบรรพชน และโรงเรียนประจำหมู่บ้านที่ยังเปิดสอนหนังสือเด็กๆ มาจนถึงปัจจุบัน
การเดินทาง: หมู่บ้านมรดกโลกหงชุนตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาหวงซานประมาณ 70 กิโลเมตร ในเขตพื้นที่ของมณฑลอันหุย เมืองใหญ่ที่เชื่อมต่อกับสนามบินหวงซาน โดยที่สนามบินแห่งนี้ทุกวันจะมีเที่ยวบินที่ตรงมาจากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และซีอาน

ชุมชนไท่เอ้อจวง มณฑลซานตง



เมื่อปี ค.ศ. 2009 รัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลซานตงได้ใช้เงินจำนวน 743.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปรับปรุงชุมชนที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนแห่งนี้ เพื่ออนุรักษ์ไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมคลาสสิกในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงอันมั่งคั่ง โดยในอดีตนั้นชุมชนริมน้ำไท่เอ้อจวงเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้ามาก่อน อีกทั้งยังเคยเป็นฐานที่มั่นของจีนในการต่อสู้กับญี่ปุ่นในช่วงปี ค.ศ. 1938 อีกด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าไท่เอ้อจวงจะเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญๆ ที่หลงเหลือมาจากอดีตมากมาย ทั้งวัดเก่าแก่ และพิพิธภัณฑ์การแสดงหุ่นกระบอกแบบดั้งเดิมที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมได้ในวันศุกร์และวันเสาร์ เป็นต้น
การเดินทาง: ชุมชนไท่เอ้อจวงตั้งอยู่ในเขตเจ่าจาง มณฑลซานตง ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินซูโจวประมาณ 60 กิโลเมตร โดยที่สนามแห่งนี้จะรองรับเที่ยวบินเพื่อเชื่อมต่อไปยังเมืองสำคัญๆ ถึง 11 แห่ง ซึ่งรวมทั้งเมืองใหญ่อย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจวด้วย

หมู่บ้านโบราณโจวจวง มณฑลเจียงซู


หมู่บ้านโบราณโจวจวงเป็นหมู่บ้านริมน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศจีน โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1086 หมู่บ้านแห่งนี้โดดเด่นด้วยโคมไฟสีแดงที่เรียงรายตลอดสองริมคลอง ซึ่งสร้างความโรแมนติกให้กับผู้ที่สัญจรไปมาได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นคือ แม้ว่าที่นี่จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงแค่ 138,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานของหมู่บ้านอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในจีน แต่กลับมีอิทธิพลในธุรกิจการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อันมีผลมาจากการมีทำเลที่ตั้งที่ดีเพราะอยู่ไม่ไกลจากเซี่ยงไฮ้และซูโจวมากนัก นั่นจึงทำให้การเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนั้นชาวบ้านยังมีความชำนาญในด้านงานศิลปหัตถกรรมซึ่งช่วยส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวของที่นี่ให้ยิ่งแข็งแรงมากขึ้น โดยช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนโจวจวงมากที่สุดก็คือช่วงเดือนมิถุนายนอันเป็นช่วงที่มีเทศกาลประจำปีอย่างเทศกาลเรือมังกรของชาวบ้านแห่งนี้ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
การเดินทาง: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังหมู่บ้านโบราณโจวจวงได้ด้วยรถบัสจากเซี่ยงไฮ้และซูโจว ในระยะทาง 60 และ 38 กิโลเมตร ตามลำดับ

เมืองโบราณเฟิ่งหวง มณฑลหูหนาน



เฟิ่งหวงเป็นคำภาษาจีนที่แปลได้อย่างตรงตัวคือนกฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นชื่อที่สื่อให้เห็นถึงความงดงามของเมืองโบราณแห่งนี้ ซึ่งนอกจากความงามของสถาปัตยกรรมโครงสร้างอาคารต่างๆ บวกกับซากปรักหักพังของกำแพงและป้อมปราการที่มีการวางรากฐานมาตั้งแต่อดีตแล้ว ก็ยังรวมไปถึงภูเขาและแม่น้ำที่ล้อมรอบเมืองเอาไว้ จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ลึกลับแต่เรียบง่าย ที่นักท่องเที่ยวมากมายต่างต้องการมาค้นหาความผจญภัยในดินแดนแห่งนี้
การเดินทาง: เมืองโบราณเฟิ่งหวงตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกฉางชา เมืองเอกแห่งมณฑลหูหนานประมาณ 430 กิโลเมตร ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมาที่นี่ จะต้องนั่งรถมาจากสถานีขนส่งฉางชาซึ่งมีทั้งหมด 4 เที่ยวต่อวัน โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง

เมืองโบราณฮวงเหยา เขตปกครองตนเองกว่างซี



ชื่นชมกับฮวงจุ้ยธรรมชาติที่สวยงามของเมืองโบราณฮวงเหยาซึ่งตั้งอยู่ภายในเวิ้งน้ำทางภาคใต้ของจีน ซึ่งในอดีตนั้นที่นี่เคยเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่อันเงียบสงบ โดยมีการบูรณะและพัฒนาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของที่นี่ที่มีมากว่าพันปีเอาไว้ ซึ่งปัจจุบันเมืองโบราณฮวงเหยามีผู้อาศัยอยู่เพียง 600 ครอบครัวเท่านั้น บนเนื้อที่ 360,000 ตารางเมตร ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาหินปูนสูงชันซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ของถ้ำขนาดใหญ่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมภายในได้ นอกจากนั้นก็ยังสามารถล่องแพไม้ไผ่เพื่อชมอ่างเก็บน้ำโจวได้ฟรีอีกด้วย
การเดินทาง: เมืองโบราณฮวงเหยาอยู่ห่างจากเมืองกุ้ยหลินประมาณ  118 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยรถบัสจากสถานีขนส่งกุ้ยหลินที่วิ่งวันละ 2 เที่ยว คือในช่วงเวลา 09.00 น. และ 13.00 น.

ทัวร์จีน