แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สิงคโปร์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สิงคโปร์ แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เที่ยวรอบเกาะ เซ็นโตซ่า กับ 7 จุดท่องเที่ยวชวนฟิน!!

เซ็นโตซ่า

เที่ยวรอบเกาะ เซ็นโตซ่า กับ 7 จุดท่องเที่ยวชวนฟิน!!

ในช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า สำหรับครอบครัวที่กำลังเตรียมตัวจะเดินทางไปเที่ยวในประเทศสิงคโปร์ รวมทั้งมีโปรแกรมที่จะไปเที่ยวยังเกาะ เซ็นโตซ่า เพื่อพาลูกๆ ไปสนุกสนานกับเครื่องเล่นและโซนต่างๆ ภายใน Universal Studio เอว่าแต่ เคยสงสัยไหมคะว่า นอกจาก Universal Studio แล้ว ภายในเกาะ เซ็นโตซ่า ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไหนที่น่าสนใจและน่าจะพาลูกๆ ไปเที่ยวได้บ้าง

6765403953_1a56ec5495_z

เซ็นโตซ่า คืออีกหนึ่งจุดขายของประเทศสิงคโปร์ที่ถูกเรียกว่าเป็นเกาะแห่งความสุข เพราะที่นี่คือศูนย์รวมของความสนุกสำหรับครอบครัว ที่แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่เกาะปีละประมาณ 20 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสวนสนุกระดับโลกอย่างยูนิเวอร์แซล สตูดิโอแล้ว
ที่นี่ยังเต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งคาสิโน โรงแรม สนามกอล์ฟ อะควาเรียม สวนน้ำ แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ชายหาด และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ดังเช่น 7 แหล่งท่องเที่ยวที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากในวันนี้ค่ะ

การเดินทางไปเกาะเซ็นโตซ่า

SONY DSC

1. สำหรับการเดินทางไป เซ็นโตซ่า โดยการนั่ง MRT สายสีม่วงหรือสีส้ม ไปลงที่สถานี Harbourfront แล้วเลือกเดินทางต่อด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
  • Sentosa Express ทางออก E ที่ VivoCity ให้บริการทุกวันในเวลา 07.00-24.00 ค่าบริการ S$ 4 ต่อการเข้าออก 1 เที่ยว จนกว่าจะออกจากสถานี Sentosa สามารถใช้เดินทางไปสถานีต่างๆ ภายในเกาะได้ฟรีไม่จำกัดเที่ยว
  • Singapore Cable Car ที่ทางออก B ให้บริการทุกวันในเวลา 0 8.30-22.00 ราคาค่าบริการ ผู้ใหญ่ S$26 เด็ก S$15
  • Sentosa Boardwalk ที่ทางออก C ทางเดินข้ามทะเลที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่รีบร้อน เดินเล่นชิลล์ๆ เสียค่าเข้าออกคนละ S$1 ต่อการเข้าออก 1 ครั้ง เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
2. การเดินทางโดยรถเมล์ ซึ่งสายที่ผ่านก็มี 65, 80, 93, 188, 855, 10, 30, 97, 100, 131, 143, 145, 166 จากนั้นก็ลงที่ป้าย Telok Blangah Road ซึ่งก็คือ VivoCity นั่นเอง แล้วค่อยเลือกวิธีการเดินทางออกจาก VivoCity จาก 3 ตัวเลือกข้างบน

1. Universal Studios Singapore

singapore-universal-studio-1

นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำแห่งสิงคโปร์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นครอบครัว ซึ่ง Universal Studios เป็นสวนสนุกจากโลกภาพยนตร์ที่แบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 โซน ได้แก่ Hollywood, Madagascar, Far Far Away, The Lost World, Ancient Egypt, Sci-Fi City และ New York โดยแต่ละโซนก็จะมีเครื่องเล่นนานชนิด ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และยังมีการแสดงต่างๆ ให้ชมกันอย่างจุใจในแต่ละวันด้วย

singapore-universal-studio-4

8050290715_75358e710c_z

ระดับความน่าไป: ☆☆☆☆☆
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-19.00
ค่าเข้าชม: สำหรับบัตรรวมเครื่องเล่น 1 วัน ผู้ใหญ่ (13-59 ปี) S$74 เด็ก (4-12 ปี) S$54 ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) S$36
แผนที่:

2. Sentosa Beaches

sentosa-beaches

เกาะเซ็นโตซ่ามีชายหาดอยู่ด้วยกัน 3 แห่งคือ ชายหาดไซโลโซ ชายหาดปาลาวัน และชายหาดทานจง โดยชายหาดทั้ง 3 แห่งนี้มีความยาวกว่า 3.2 กิโลเมตร ล้วนเต็มไปด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการเล่นน้ำ การโต้คลื่น การแสดงแสงสีบนผืนน้ำ รวมทั้งการใกล้ชิดกับฝูงสัตว์ที่เป็นมิตร เป็นต้น เพราะฉะนั้นเกาะเซ็นโตซ่าจึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของนักท่องเที่ยวและชาวสิงคโปร์ ที่มากกว่าการมาเยือนสวนสนุกเพียงอย่างเดียว

ชายหาดปาลาวัน
DSCF0668

หนึ่งในชายหาดที่โดดเด่นที่สุดในสิงคโปร์ ชายหาดปาลาวันเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชายหาดที่มีธีมของโจรสลัดในสไตล์แคริบเบียน ด้วยสะพานแขวนที่เชื่อมโยงไปยังเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือแม้กระทั่งว่ายน้ำข้ามไปได้ โดยชายหาดแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางทางตอนใต้ของเกาะเซ็นโตซ่าที่ นอกจากนั้นชายหาดปาลาวันยังมีจุดเดด่นคือทรายสีขาวละเอียด ต้นปาล์ม และบาร์ริมหาดที่มีชีวิตชีวา เป็นต้น

ชายหาดทานจง
tanjong-beach

ชายหาดทานจงได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่ดีที่สุดของสิงคโปร์สำหรับการพักผ่อนหลบร้อนในเวลากลางวัน เนื่องจากชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะเซ็นโตซ่าแห่งนี้มีหาดทรายสีขาวละเอียด มีต้นปาล์มเขตร้อน มีความเงียบสงบ และมีสระว่ายน้ำ รวมถึงเก้าอี้อาบแดดให้ได้นอนผ่อนคลายแบบสบายๆ อีกด้วย

ชายหาดไซโลโซ
siloso-beach

ชายหาดไซโลโซตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเซ็นโตซ่า และเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับการเป็นจุดปิกนิกยอดนิยมสำหรับครอบครัวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เช่นเดียวกัน ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมกิจกรรมการออกแรงที่เหมาะสำหรับหนุ่มสาว ทั้งกีฬาวอลเลย์บอลชายหาด ฟุตบอลชายหาด และพายเรือแคนู
ระดับความน่าไป: ☆☆☆☆☆
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม: ฟรี
แผนที่:

3. S.E.A Aquarium

sea-aquarium-1

ดำดิ่งสู่โลกใต้ท้องทะเล ไปกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการเป็นบ้านและถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ มากถึง 100,000 ตัว มากกว่า 800 สายพันธุ์ ภายในแท็งก์ที่บรรจุน้ำเอาไว้ถึง 45 ล้านลิตร
ซึ่งภายในอะควาเรี่ยมแห่งนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่ทั้งหมด 10 โซน โดยแบ่งเป็นโลกใต้ทะเลในภูมิภาคต่างๆ ทั้งเอเชีย เอชียตะวันออกเฉียงใต้ อ่าวอาหรับ มหาสมุทร แปซิฟิก มหาสมุทรอาร์กติก ฯลฯ โดยมีดาวเด่นประจำอะควาเรี่ยมคือ กระเบนราหูตัวใหญ่มหึมา ฉลามหัวฆ้อน โลมาแสนน่ารัก เป็นต้น
sea-aquarium-2
sea-aquarium-3
ระดับความน่าไป: ☆☆☆☆☆
เวลาเปิด-ปิด: 10.00–18.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ S$34 เด็ก (4-12 ปี) S$24 และผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) S$24
แผนที่:

4. Sentosa Merlion

sentosa-merlion-1

สิงโตเมอร์ไลออนตัวยักษ์แห่งเกาะเซ็นโตซ่าตัวนี้ นอกจากการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกข้างนอกแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปข้างในได้ค่ะ เพราะในชั้น 9 คือคือบริเวณปากของสิงโต และชั้น 12 ข้างบนสุดนั้น คือจุดชมวิวที่สามารถชมวิวได้ในแบบพาโนราม่า 360 องศา นอกจากนี้ภายในตัวเมอร์ไลออนยังมีการเล่าเรื่องราวของเมอร์ไลออนและตัวละครแห่งท้องทะเลในเทพนิยาย และร้านขายของที่ระลึกให้ได้ช้อปกันอย่างจุใจด้วยล่ะค่ะ

sentosa-merlion-4

sentosa-merlion-5

ระดับความน่าไป: ☆☆☆☆☆
เวลาเปิด-ปิด: 10.00–20:00 น.
ค่าเข้าชม: สำหรับการเข้าไปชมวิวข้างในตัวเมอร์ไลออน ผู้ใหญ่ S$8 เด็ก S$5
แผนที่:

5. Sentosa Boardwalk

sentosa-boardwalk-1

หากใครเยี่ยมชมกิจกรรมทั้งหมดบนเกาะเซ็นโตซ่าแล้ว และไม่รู้จะทำอะไรหรือไปไหนต่อดี แนะนำว่าให้เดินเล่นไปตามทาง Sentosa Boardwalk ก็ดีเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะในช่วงเวลายามเย็นที่แดดร่มลมตกแล้ว เพราะตลอดเส้นทางนี้คุณจะสามารถมองเห็นวิวทะเลที่แสนสดชื่นได้ อีกทั้งในระหว่างทางยังมีบาร์เครื่องดื่มให้นั่งชิลล์ๆ และมีร้านค้ามาตั้งให้ได้ช้อปกันไปตลอดทางด้วยค่ะ
และเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง ที่นั่นก็จะเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า VivoCity ที่มีร้านอาหาร และร้านค้ามากมาย ที่สำคัญใครที่อยากหิ้ว Charles & Keith กลับบ้าน ที่นี่ก็มีช็อปด้วยนะคะ
sentosa-boardwalk-2
sentosa-boardwalk-3
ระดับความน่าไป: ☆☆☆☆
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม: S$1
แผนที่:

6. Tiger Sky Tower

tiger-sky-tower-1

หอคอย Tiger Sky Tower เป็นหอคอยชมวิวบนเกาะเซ็นโตซ่า ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของ Images of Singapore โดยหอคอยแห่งนี้มีขนาดความสูงถึง 110 เมตร จึงเหมาะสำหรับการเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวจะสามารถชมความสวยงามของบริเวณเกาะในมุมสูงและบรรยากาศของท้องทะเล ได้อย่างสวยงาม
โดยหอคอย Tiger Sky Tower สามารถจุผู้โดยสารได้ครั้งละ 72 คน ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่และเป็นกระจกใสโดยรอบ ที่จะค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปจนถึงจุดที่สูงที่สุดและหมุนไปรอบๆ จนครบ 360 องศา หลังจากนั้นจะค่อยๆ เคลื่อนตัวลงมายังพื้นดินอย่างปลอดภัย
SONY DSC
tiger-sky-tower-3
ระดับความน่าไป: ☆☆☆☆☆
เวลาเปิด-ปิด: 09.00–21.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ S$15S เด็ก (อายุ 3-12 ปี) S$10
แผนที่:

7. Images of Singapore

images-of-singapore-1

Images of Singapore คือพิพิธภัณฑ์ภาพลักษณ์ของสิงคโปร์ ที่ได้รับรางวัลมาหลายต่อหลายครั้งจากการประกวดพิพิธภัณฑ์ระดับโลก โดยภายในจัดแสดงที่มาของประเทศสิงคโปร์ รวมไปถึงหุ่นขี้ผึ้งที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน รวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา

images-of-singapore-2

images-of-singapore-3

ระดับความน่าไป: ☆☆☆☆
เวลาเปิด-ปิด: 09.00-19.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ S$10 เด็ก S$7
แผนที่:

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับกิจกรรมทั้ง 7 อย่าง กับ 7 แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะเซ็นโตซ่าที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากทุกท่านในวันนี้ หวังว่าคงจะถูกอกถูกใจไม่น้อยนะคะ และนอกจากสถานที่ต่างๆ ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้แล้ว ที่เซ็นโตซ่าก็ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะมากกกกกกกก ทั้งการแสดงโชว์ Crane Dance และ Lake of Dreams, สวนผีเสื้อและอาณาจักรแมลง, MegaZip Adventure Park, Skyline Luge, Sentosa Nature Discovery, Underwater World และ Dolphin Lagoon ฯลฯ รับรองว่าใครมาที่นี่ต้องเที่ยวจนคุ้มจนอย่างแน่นอน

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์สิงคโปร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559

สิงคโปร์ งบ 2,000 บาท จะซื้ออะไรฝากได้บ้าง…?!


Feature-Image

สิงคโปร์ งบ 2,000 บาท จะซื้ออะไรฝากได้บ้าง…?!

ฤดูกาลท่องเที่ยวใกล้เข้ามาแล้ว คุณมีแพลนการเดินทางกันรึยัง? ถ้ายัง! วันนี้มัชรูมทราเวลจะมาแนะนำประเทศที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา ประเทศสิงคโปร์นั่นเอง 
สิงคโปร์ เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีขนาดพอๆกับเกาะภูเก็ตของบ้านเราเท่านั้น แต่ถึงจะเล็ก ก็เล็กพริกขี้หนู เพราะสิงคโปร์จัดเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีก็แสนจะก้าวล้ำนำสมัย เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ สร้างความสนุกสนานได้ไม่รู้จบ เหมาะแก่การไปท่องเที่ยว ศึกษาดูงาน หรือจะไปเรียนต่อก็เป็นทางเลือกที่ดี อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง จึงเหมาะแก่นักท่องเที่ยวมือใหม่ที่ไม่ว่า จะเที่ยว ช้อป กิน ก็ฟินสุดๆ เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในสิงคโปร์ หลายคนคงทราบกันดีว่าส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น แลนด์มาร์คอย่างเมอร์ไลอ้อน เกาะเซ็นโตซ่า ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เป็นต้น ซึ่งแต่ละสถานที่ก็ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสุดๆ
pic_1
Cr : sinarharapan.co
และแม้จะเป็นเมืองที่มีพื้นที่น้อย ทรัพยากรธรรมชาติมีไม่เยอะ แต่ก็ไม่ได้ขาด “พื้นที่สีเขียว” หรือพื้นที่ธรรมชาตินะคะ เพราะประเทศสิงคโปร์นี่แหละคือที่ตั้งของสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก! นั่นก็คือ สวนสวยขึ้นชื่อ “การ์เด้น บาย เดอะเบย์ (Gardens by the Bay)” แหล่งรวบรวมพรรณไม้หลากชนิดจากทั่วทุกมุมโลก! ตั้งอยู่ที่อ่าวมารีนา (Marina Bay) มีจุดเด่นที่ทุกคนเห็นแล้ว ต้องร้องอ๋อกันอย่างแน่นอน นั่นก็คือ ซุปเปอร์ทรีโกล์ป (Supertree Grove) หรือต้นไม้ยักษ์ จำนวน 18 ต้น (ร้องอ๋อกันแล้วใช่มั้ยคะ) ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเก๋ไก๋ให้เป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่ (Vertical Garden) ที่ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยเขตร้อน พืชอิงอาศัย และเฟิร์นเมืองร้อน ที่ประดับประดาพันเกี่ยวอยู่ตามลำต้น เจ๋งป่ะหล่ะ? และยังมีทางเดินลอยฟ้ายาว 128 ม. ที่เชื่อมต่อระหว่างต้นไม้ ให้ขึ้นไปชมวิวสิงคโปร์ในมุมสูงได้อย่างสวยงามสุดลูกหูลูกตา ในเวลากลางวันก็รู้สึกสดชื่น ในเวลากลางคืนก็งดงามด้วยแสงไฟหลากสีสัน และยังมีการแสดง แสง สี เสียง “Rhythm with Nature” ประกอบดนตรีให้ได้ดูกันด้วย เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำๆที่เข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัวสุดๆ
Cr : gardensbythebay.com.sg
Cr : gardensbythebay.com.sg
การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ยังมีอีก 3 สวนที่น่าไปชมกัน ได้แก่ สวนเบย์ เซาท์ (Bay South) สวนเบย์ อีสต์ (Bay East) และสวนเบย์ เซ็นทรัล (Bay Central) โดยเฉพาะที่สวนเบย์ เซาธ์นั้นมีไฮไลท์อย่าง “ฟลาวเวอร์ โดม (Flower Dome)” ที่เป็นโดมเรือนกระจกติดแอร์ขนาดใหญ่ ภายในมีการจัดแสดงพันธุ์ไม้จากเขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียนหลายหลายชนิด และ “คลาวด์ ฟอร์เรสต์ (Cloud Forest)” ส่วนจัดแสดงพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้น ที่เมื่อก้าวเท้าเข้าไปด้านในแล้ว ก็พบกับความน่าตะลึงของน้ำตกขนาดใหญ่สูง 35 ม. อยู่ภายในโดม เมื่อเดินผ่านน้ำตกอ้อมมาทางด้านหลัง ก็จะได้พบกับส่วนจัดแสดงพรรณพืชและพรรณไม้ในเขตป่าดิบชื้นอันหลากหลาย มีพรรณไม้แปลกๆ สวยๆ ให้ได้ชมกันแบบจุใจ เอาล่ะ เมื่อเที่ยวเสร็จ ก็ถึงเวลาตระเวนซื้อของฝากกันแล้ว โดยมีโจทย์ให้ก็คือ “สิงคโปร์ งบ 2,000 บาท จะซื้ออะไรฝากได้บ้าง…?!”
ก่อนอื่นเรามาดูสินค้าที่ไม่ต้องเสียอากรกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ตามนี้เลยค่ะ แอนด์แอนแอ่นนน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ , เครื่องสำอาง , กล้องถ่ายรูป, นาฬิกา ,เครื่องเพชรพลอย ,โลหะมีค่าและรัตนชาติต่างๆ ,รองเท้า, ศิลปะ, งานฝีมือ , และของเล่นเด็ก เมื่อรู้อย่างงี้แล้ว มาเริ่มช้อปกันเลยดีกว่า
pic_3
Cr : 3.bp.blogspot.com
เริ่มจากสิ่งที่เกิดมาคู่กับผู้หญิงอย่างน้ำหอม เครื่องสำอาง กระเป๋า และรองเท้า กันก่อน น้ำหอมแบรนด์เนมที่สิงคโปร์ราคาจะถูกกว่าที่ไทยมากค่ะ เฉลี่ยราคาจะอยู่ที่ 1000-1500 บาทค่ะ ส่วนเครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น MAC , CHANEL ฯลฯ ก็ถูกกว่าบ้านเราเช่นกัน ซึ่งก็มีหลายราคาค่ะ อย่างพวกลิปสติก บรัชออน ก็มีตั้งแต่สี่ร้อยบาทไปจนถึงพันนิดๆ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและโปรโมชั่นของทางร้านตอนนั้น
ถัดมาคือแบรนด์กระเป๋าอันเลื่องชื่อของสิงคโปร์ อย่าง ชาร์ลส แอนด์ เคท(Charles & Keith) ที่สาวๆห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะราคาถูกกว่าที่ไทยเยอะ แถมยังมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50-60 เหรียญ (ประมาณ 1300-1500 บาทไทย) ส่วนรองเท้าถ้าลดราคาก็จะมีตั้งแต่ 23-40 เหรียญ หรือประมาณ 600-1000 บาทไทยค่ะ
จบพาร์ทแรกสำหรับหมวดข้าวของเครื่องใช้ โดยมีงบ 2000 บาท ก็อาจจะต้องเลือกมาซักอย่างใดอย่างหนึ่งในหมวดนี้ เพื่อที่จะไปช้อปหมวดต่อไปกัน ตามมาดูกันเลยคร้า….

ขอต้อนรับเข้าสู่โหมด “ของกิน” สุดฟินที่ควรค่าแก่การหิ้วกลับไปเป็นของฝากกันเถอะ

pic_4
Cr : s3-media4.fl.yelpcdn.com
อย่างแรกเลยขอเสนอหมูแผ่น “บี แชง เฮียง (Bee Cheng Hiang)” หมูแผ่นเลิศรสที่ไม่ซื้อ! ไม่หา! ไม่ชิม! ไม่ได้! เพราะไม่งั้นจะถือว่าพลาดอย่าแรง เราจึงขอแนะนำเลยคร้า มีให้เลือกด้วยกันหลายรส เช่น รสหวาน รสเผ็ด รสบาร์บีคิว แต่ราคาค่อนข้างจะสูงเลยทีเดียวโดยจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 40-50 เหรียญ ก็ประมาณ 1000 กว่าบาทไทย จึงแนะนำให้ซื้อแบบที่เค้าแยกไว้เป็นกล่อง กล่องละประมาณ 250 กรัมก็ดีกว่าค่ะ จะได้เก็บตังค์ไว้ไปช้อปของฝากอย่างอื่นต่อ อ่อ! ร้าน Bee Cheng Hiang มีสาขาอยู่ทั่วสิงค์โปร์ รวมทั้งที่ Changi Airport ด้วย หาไม่ยากแน่นอนค่ะ
ต่อด้วยช็อกโกแลตและขนมหวาน ที่มีขายอยู่มากมายตามแหล่งช้อปปิ้งทั่วไป เลือกซื้อเลือกหากันได้ตามอัธยาศัย ขนมอะไรที่ถูกกว่าหรือไม่มีขายในบ้านเราก็หิ้วกลับมาเลย
ต่อกันด้วยการ์เร็ต ป๊อปคอร์น (Garrett Popcorn) ขนมข้าวโพดคั่วอันเลื่องชื่อของสิงคโปร์ ก็น่านำกลับไปเป็นของฝากเช่นกัน สนนราคาอยู่ที่ 5-38 เหรียญ ขึ้นอยู่กับขนาดและรสชาติที่ต่างกันไป
pic_5
Cr : otakuhouse.com
มาถึงของฝากชิ้นสุดท้ายที่ขอแนะนำสำหรับคนมีเพื่อนเยอะ ก็คือ พวงกุญแจรูปสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ ดีไซน์เก๋ไก๋ สวยงาม ราคาถูก และที่สำคัญสามารถแจกทุกคนได้ทั่วถึงอย่างแน่นอน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6 ชิ้น 50 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับทักษะการต่อราคาของแต่ละคนด้วยค่ะ
และนี่ก็คือของฝากน่าซื้อที่สิงคโปร์ ที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ จะซื้ออะไรฝากใครก็สามารถเลือกสรรกันได้เลยตามใจชอบ อย่างพวกเครื่องสำอางก็อาจจะนำไปฝากพี่สาวน้องสาวคนสนิท หมูแผ่นก็เหมาะมากที่จะนำไปฝากญาติผู้ใหญ่ ช็อคโกแลตขนมหวานก็เหมาะกับเด็กตัวเล็กๆที่บ้าน พวงกุญแจ คละลายก็เอาไปแจกเพื่อนร่วมงานทั้งออฟฟิศได้เลย หากคุณลองจัดสรรปันส่วนดีๆ งบ 2000 บาทนี้ก็สามารถซื้อของฝากกลับมาให้ทุกคนได้อย่างทั่วถึงแน่นอน ฟังดูแล้วน่าท้าทายดีเนาะ งั้นต้องไปลองกันซักตั้งแล้วหล่ะ งั้นเตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวสิงคโปร์กันเลยดีกว่า รับประกันว่าต้องเป็นทริปที่ประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน

——————-
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์สิงคโปร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id: @mushroomtravel