วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

10 สุดยอดเมืองสวยจับใจในหน้าหนาว


ในช่วงที่อากาศหนาวๆ แบบนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดก็ตามที่อยากสัมผัสอากาศหนาวแบบสุดขั้วจนหายใจออกมาเป็นไอหมอก รวมทั้งปุยหิมะนุ่มๆ สีขาวนวลแล้วล่ะก็ วันนี้มัชรูมทราเวลมี 10 เมืองสวยที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวมากที่สุดมาฝากทุกท่าน ซึ่งเป็น 10 สถานที่ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกว่าสวยงามมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวๆ แบบนี้ ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ

เมืองปราก ประเทศเชค


ยอดแหลมของปราสาททรงคลาสสิกหลังงามที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน รวมทั้งถนนที่เต็มไปด้วยหิมะที่คดเคี้ยวไปมา ทำให้ปรากกลายเป็นเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงฤดูหนาว โดยเสน่ห์ของปรากนั้นสะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมอันงดงามที่ดูเหมือนจะยิ่งสวยมากขึ้นภายใต้กองหิมะ โดยหนึ่งในพื้นที่ที่สวยที่สุดของปรากคือบริเวณเมืองเก่าที่มีป้อมปราการและห้องใต้ดินของโรมันนั่นเอง นอกจากนั้นโคมไฟบนถนนก๊าซที่ถูกติดตั้งขึ้นมาใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ทั่วใจกลางเมืองก็ยิ่งเพิ่มสีสันความโรแมนติกยามเย็นให้กับปรากมากยิ่งขึ้นไปอีก

เมืองซาร์ลบวร์ก ประเทศออสเตรีย


ซาร์ลบวร์กกลายเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในช่วงหน้าหนาว ด้วยฉากหลังของป่าต้นสนและตลาดเก่าแบบดั้งเดิม ซึ่งแต่งแต้มให้ซาร์ลบวร์กกลายเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบสำหรับฤดูหนาว นอกจากนี้ซาร์ลบวร์กยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงามเนื่องจากอยู่ติดกับเทือกเขาแอลป์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่กำเนิดของคีตกวีนามก้องโลกอย่างโมสาร์ท ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของเพลง “Silent Night” เพลงประจำเทศกาลคริสต์มาสอีกหนึ่งเพลงที่โด่งดังไปทั่วโลกไม่แพ้เพลงอื่นๆ ไม่เพียงเท่านั้น ซาร์ลบวร์กยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1997 อีกด้วย 

เมืองทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์


หลากหลายเหตุผลที่ทำให้เมืองทรอมโซเป็นที่รู้จักโดยทั่วกันว่าเป็นเมืองหลวงของมหาสมุทรอาร์กติก นอกจากนั้นเมืองแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดของนอร์เวย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาทรอมโซโดยมีเป้าหมายคือแสงเหนืออันสวยงามและน่าพิศวง ไม่เพียงเท่านั้น ทรอมโซยังเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่งด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือพิพิธภัณฑ์ขั้วโลก ที่ผู้มาเยือนจะได้เข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอาร์กติกและการเดินทางบนดินแดนแห่งนี้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันก็คือพิพิธภัณฑ์ทรอมโซนั่นเอง

กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอแลนด์


หากใครที่เคยไปเยือนกรุงอัมสเตอร์ดัมมาแล้วคงรู้ดีว่า อัมสเตอร์ดัมนั้นเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคลองไม่ต่างจากเวนิสของอิตาลี หรือกรุงเทพฯ ของไทย ซึ่งความสวยงามและจุดเด่นของคลองแห่งอัมสเตอร์ดัมนั้นไม่ใช่เพราะเรือกอนโดล่า เรือหางยาว หรือเรือใดๆ ที่แล่นอยู่ในลำคลอง แต่กลับเป็นภาพของตึกแคบๆ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีสดใสที่เรียงตัวขนานไปกับลำคลอง และกองทัพรถจักรยานที่จอดเป็นแถวเป็นแนวต่างหาก ที่ดึงดูดให้ใครๆ ก็อยากบันทึกภาพความงดงามน่ารักของสถานที่แห่งนี้เอาไว้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่น้ำในลำคลองจะกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งบางๆ ส่วนหลังคาตึกและต้นไม้ก็กลับกลายเป็นสีเงินด้วยกองหิมะที่เกาะอยู่ทั่วไป นอกจากนั้นพิพิธภัณฑ์ในเมืองแห่งนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหนๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์แวน โก๊ะห์ จิตกรชื่อดังก้องโลก หรือบ้านแอนน์ แฟรงค์ บ้านที่หนูน้อยชาวยิวเคยใช้เป็นที่หลบซ่อนจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันเป็นโศกนาฏกรรมที่แสนเศร้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

เมืองนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น


ในฐานะที่นากาโนะมีตำแหน่งเป็นถึงอดีตเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวมาก่อน แน่นอนว่าเมืองแห่งนี้ย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่นอกจากความสวยงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นแล้ว นากาโนะยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นและของโลกสำหรับการเล่นสกี นอกจากนั้นที่นี่ยังเต็มไปด้วยน้ำพุร้อนธรรมชาติอันสมบูรณ์ที่กระจายตัวอยู่ตามเขตชานเมืองและบนเนินเขา แน่นอนว่าหากนักท่องเที่ยวท่านใดได้มีโอกาสมาเยือนเมืองแห่งนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัดในพุทธศาสนา ที่นอกจากจะได้อิ่มบุญแล้ว ยังเต็มอิ่มไปกับความงามที่หาชมได้ยากยิ่งอีกด้วย

เมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์


เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดที่หนาวที่สุดของทวีปยุโรปก็ว่าได้ แต่กระนั้นเมืองเรคยาวิกกลับเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ของน้ำพุร้อนธรรมชาติที่กระจายอยู่ทั่วเมือง ซึ่งนั่นก็ทำให้พื้นที่บริเวณใกล้ๆ บ่อน้ำพุร้อนคลายความหนาวได้บ้าง นอกจากนั้นเรคยาวิกยังมีเทศกาลประจำปี อย่างเช่นเทศกาลไฟซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อันเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่งดงามของฤดูหนาว รวมทั้งกิจกรรมเพลินๆ อย่างการแช่บ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติท่ามกลางกองหิมะที่หนาวเย็น เป็นต้น

กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี


เบอร์ลินเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของประเทศเยอรมนีซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้เมืองอื่นใดในทวีปยุโรป โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวนั้น เบอร์ลินขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวเยอรมันเองและชาวต่างชาติว่า มีสถานที่ยอดนิยมที่ใครๆ ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งก็คือตลาดคริสมาสต์ที่มีมากกว่า 60 แห่งภายในเมือง โดยจุดเด่นของตลาดคริสมาสต์ของเมืองเบอร์ลินก็เนื่องมาจากเยอรมนีเป็นต้นกำเนิดของตลาดคริสมาสต์ที่มีมานานกว่าร้อยปี ดังนั้นการมาที่นี่นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพอันสวยงามและคึกคักพร้อมกับขบวนสินค้าซึ่งเกี่ยวข้องกับเทศกาลที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ก็ยังจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของบรรยากาศเก่าๆ ในแบบตลาดคริสมาสต์ในยุคดั้งเดิมอีกด้วย นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ก่อนถึงช่วงเทศกาลคริสมาสต์ผู้คนนับล้านจะหลั่งไหลเข้าสู่นครเบอร์ลิน

เมืองออตตาวา ประเทศแคนาดา


เมืองหลวงของแคนาดาแห่งนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่าเป็นเมืองที่มีความสวยงาม และยังเป็นจุดศูนย์รวมของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ต่างๆ และสวนสาธารณะให้เที่ยวชมมากมาย  ส่วนในช่วงฤดูหนาวนั้นที่นี่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเทศกาลประจำฤดูหนาวที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือเทศกาล Winterlude ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงวันที่ 31 มกราคม – 17 กุมภาพันธ์ โดยบริเวณใจกลางเมืองจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นเมืองแห่งประติมากรรมน้ำแข็งขนาดใหญ่ พร้อมกับมีการแสดงโชว์คอนเสิร์ตกลางแจ้งจากวงดนตรีชื่อดังจากทั่วโลก ส่วนในช่วงตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม – 7 มกราคม ใครที่ชอบการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ เมืองแห่งนี้ก็มีการประดับประดาดวงไฟต่างๆ ตามอนุสรณ์สถานที่มีอยู่ทั่วเมือง เป็นภาพที่งดงามเหมือนกับหลุดออกมาจากโลกนิทานเลยทีเดียว

กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา


ย้อนกลับมาที่เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกากันบ้าง ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่าหากนักท่องเที่ยวท่านใดได้เดินทางมายังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในช่วงเทศกาลคริสมาสต์แล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดที่จะไปชมต้นคริสมาสต์ขนาดยักษ์ด้วยความสูงถึง 30 ฟุต ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ณ สถานีรถไฟยูเนียนที่ได้รับการอนุเคราะห์โดยสถานทูตนอร์เวย์ นอกจากนั้น เสน่ห์ของวอชิงตัง ดี.ซี. อีกอย่างก็คือ ภาพของอนุสรณ์สถานและตึกอันทรงค่าทางประวัติศาสตร์มากมายที่ตั้งโดดเด่นท่ามกลางสายหิมะที่โปรยปราย และกองหิมะสีเงินที่ร่วงหล่นทับถมกันอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งเป็นภาพที่งดงามยิ่งกว่าช่วงฤดูไหนๆ

เมืองเอดินบะระ ประเทศสก๊อตแลนด์


สำหรับสถานที่สุดท้ายที่มัชรูมทราเวลอยากแนะนำก็คือเอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก ด้วยประวัติศาสตร์ของความเป็นเมืองเก่าอันรุ่งเรืองในช่วงยุคกลาง อย่างปราสาทเอดินบะระ หรือตรอกซอกซอยที่ปูลาดด้วยหิน ซึ่งทำให้ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนเอดินบะระก็งดงามอยู่เสมอ แต่หากนักท่องเที่ยวได้มาเยือนที่นี่ในช่วงหน้าหนาวแล้วล่ะก็ สิ่งที่แตกต่างก็คือถนนหนทางที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน และตัวเมืองจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่สมบูรณ์แบบ ด้วยลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้ง ต้นคริสมาสต์ขนาดใหญ่ และชิงช้าสวรรค์ เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้จะรวมกันอยู่ภายใต้เงาของปราสาทในยุคกลางนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น