วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เที่ยวปักกิ่ง ถิ่นมังกร ตอน 1

หากคุณปรารถนาไปเที่ยว เมืองจีน ชื่นชอบโบราณสถาน แหล่งอารยะธรรม เพียบพร้อมไปด้วยประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ไม่รู้ว่าควรไปเที่ยวเมืองใดของถิ่นมังกร “มัชรูมทราเวล” แนะนำให้เที่ยว “ปักกิ่ง” เมืองหลวงยิ่งใหญ่ของพญามังกร



ชาวจีนเรียก ปักกิ่ง ว่า “เป่ย์จิง” (Beijing) มีชื่อย่อว่า “จิง” ตั้งอยู่ที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของที่ราบหวาเป่ย ด้านหน้าของเมืองเป็นแม่น้ำ ด้านหลังเป็นภูเขา แสดงถึงการป้องกัน ศัตรูรุกราน มีความมั่นคง สองข้างทางของเมืองมีต้นไม้ชื่อ ต้นหยาง พบปลูกตลอดสองข้างทางในเมืองและนอกเมือง ลักษณะพิเศษของใบต้นหยาง มองดูคล้ายกับว่ามีรูปตาอยู่ทุกใบ เวลาที่ลมพัดเห็นชัดมาก เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของสายตานับพันคู่ที่คอยดูแลปกป้องบ้านเมืองให้สงบสุข



ปักกิ่ง มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นเมืองหลวงตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน สืบทอดมาจนกระทั่งปัจจุบัน สมัยก่อนประวัติศาสตร์ได้มีการขุดค้นพบกระโหลกมนุษย์ปักกิ่ง ซึ่งตามหลักฐานที่พิสูจน์ได้นี้ แสดงให้เห็นว่า ปักกิ่ง มีความเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่สมัย คริสต์ศตวรรษที่ 13 และในปี ค.ศ.1421 จักรพรรดิหย่งเล่อได้ก่อตั้ง ออกแบบวางผังเมือง และได้ย้ายฐานราชการชั่วคราวจากเมืองหนานจิงมายัง เป่ยผิง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น เมืองปักกิ่ง



ปัจจุบัน ปักกิ่ง แบ่งเป็น 16 เขต 2 อำเภอ เป็นนครที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง พื้นที่ทั่วนครเป่ยจิงมีถึง 16,800 ตารางกิโลเมตร และเป็นเขตการปกครองพิเศษแบบมหานคร 1 ใน 4 แห่งของจีน ซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากับมณฑลหลังจากปักกิ่งได้รับการจัดตั้งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับ2 ของประเทศจีนรองจากเซี่ยงไฮ้ และได้รับเลือกให้จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2551 ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา



ปักกิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ชาวปักกิ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อาคารบ้านเรือนจากเดิมที่อยู่กันอย่างแออัด ได้เปลี่ยนเป็นอาคารสูง และชีวิตความเป็นอยู่ที่ได้รับอิทธิพล วัฒนธรรมจากตะวันตกมากขึ้น จากบรรยากาศที่เคร่งขรึมในยุคของจีนคอมมิวนิสต์ กลายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในเอเชีย

มหานครปักกิ่ง แห่งนี้ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความทันสมัย อาหารอร่อย อากาศที่แตกต่างกัน ร้อน ฝน เย็น หนาว หิมะ หมอกหนาปกคลุมทั้งเมือง สร้างบรรยากาศอันน่าหลงใหล ประทับใจหลายสถานที่ท่องเที่ยว เช่น จัตุรัสเทียนอันเหมิน กำแพงเมืองจีน พระราชวังฤดูร้อน พระราชวังต้องห้าม วัดลามะ หอฟ้าเทียนถาน เป็นต้น


ปักกิ่ง มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย ทำให้ในแต่ละปีมีชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกจำนวนมากเดินทางเข้าไปท่องเที่ยว ปักกิ่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการค้า การลงทุน ทางการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรมของจีน และเขตชุมทางการคมนาคมทั่วประเทศจีน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อดังทั้งในประเทศจีนและในโลก



การเดินทางจาก กรุงเทพฯ-ปักกิ่ง ไม่ค่อยยุ่งยาก เพราะคุณสามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้หลายสายการบิน เปิดบริการทุกวัน ลองเปรียบเทียบราคาและตารางเที่ยวบิน มีทั้งที่บินตรงและแวะพักเมืองอื่นก่อน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-7 ชั่วโมง

ถ้าต้องการความสะดวกสบาย แนะนำให้ซื้อแพคเก็จทัวร์เที่ยวปักกิ่งกับบริษัททัวร์ได้เลย 5 วัน 3 คืน ราคาประมาณ 30,000 บาท/ท่าน รวมอาหาร-ที่พัก-ที่เที่ยวเรียบร้อย หรือไปเที่ยวเอง คุณก็ต้องไปขอวีซ่า ทำพาสปอร์ตให้เรียบร้อยก่อนนะจ๊ะ เรื่องการขอวีซ่านั้นก็ไม่ค่อยยุ่งยาก ของ่าย เพราะประเทศจีนเขาเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวเข้าประเทศเขาอยู่แล้ว




สำหรับ การขนส่งมวลชนภายในปักกิ่ง นั้น มีให้เลือก ดังนี้

1.รถประจำทาง
ราคาประหยัดดี แต่ค่อนข้างแออัดในชั่วโมงเร่งด่วนหน่อยนะจ๊ะ เพราะรถอาจจอดตามป้ายที่ระบุสายที่จอดเท่านั้น ระยะทาง 12 กิโลเมตร คิดที่ 1 หยวน ถ้าเกินกว่านั้นทุกๆ 5 กิโลเมตร ค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 0.5 หยวน หากคุณมีบัตร IC card ให้แปะบัตรที่แป้นด้านหน้า หากไม่มี คุณก็ต้องแจ้งสถานที่ที่จะไปกับเจ้าหน้าที่เก็บเงินบนรถ หรือหยอดเงินลงตู้เก็บเงินแล้วรับตั๋วจ้า

2.รถประจำทาง
มีหลายสายครอบคลุมทุกเส้นทาง ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 1 หยวน ขึ้นอยู่กับระยะทาง ส่วน รถบัสท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในเมืองและนอกเมือง ราคาเดียวตลอดสายประมาณ 40 - 50 หยวนจ้า



3.รถไฟฟ้า
รถไฟใต้ดิน ที่ปักกิ่ง ก่อสร้างทางรถไฟใต้ดินเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปีค.ศ.1965 และแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปีค.ศ.1969 โดยมีสถานีรถไฟทั้งหมด 17 แห่งและมีระยะทางทั้งหมด 23.6 กิโลเมตร หากคุณเลือกเดินทางโดยรถไฟใต้ดินในปักกิ่ง สะดวก รวดเร็วดี เพราะมีป้ายบอกทางต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษอย่างชัดเจนมีทั้งหมด 9 สาย เปิดตั้งแต่ตีห้าถึงเที่ยงคืน โดยรถไฟฟ้าใต้ดินของปักกิ่งวิ่งในเมืองเท่านั้น และวิ่งนอกเมืองเป็นรถไฟลอยฟ้า ระบบรถไฟฟ้าเหมือนกับกรุงเทพฯ จ้า เปิดบริการตั้งแต่ 05.15 - 22.40 น.



4.รถแท็กซี่ เป็นทางเลือกที่สะดวก รวดเร็วดี ราคาค่าโดยสารก็สูสีกันกับค่ารถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ การเรียกรถแท็กซี่ในปักกิ่งก็ไม่ยุ่งยากอะไร ยืนริมถนนหาที่เหมาะๆ ก็เรียกจอดได้เลยจ้า แต่ก่อนคุณจะขึ้นรถ ให้สังเกตด้วยว่ารถแท็กซี่คันนั้นมีบัตรประจำตัวผู้ขับอยู่หน้ารถหรือไม่ ถ้าไม่มีบัตร เป็นรถแท็กซี่เถื่อน และควรเรียกคันอื่นที่มีบัตรประจำตัวผู้ขับดีกว่า และเมื่อถึงที่หมาย หลังจ่ายเงินค่ารถแล้ว คุณจะได้รับใบเสร็จจากเครื่องออก


อย่างไรก็ตาม หากคุณเดินทางมาเที่ยวเมืองปักกิ่ง แนะนำว่าให้ ตรวจสอบอากาศและฤดูกาลท่องเที่ยวก่อนมาเที่ยวที่นี่ด้วยจ้า เพราะเมืองปักกิ่ง มีหลากหลายฤดูกาล



• กันยายน – ตุลาคม: ฤดูใบไม้ร่วง
• ปลายเมษายน – กลางมิถุนายน: ฤดูใบไม้ผลิ
• มิถุนายน – ปลายสิงหาคม: ฤดูร้อน
• กรกฎาคม – สิงหาคม: ฤดูฝน
• พฤศจิกายน – มีนาคม: ฤดูหนาว หิมะ




เดือน                อุณหภูมิสูงสุด               อุณหภูมิต่ำสุด
ม.ค.                  2.0 °C                              -9.0 °C
ก.พ.                  4.0 °C                               -7.0 °C
มี.ค.                  11.0 °C                             -1.0 °C
เม.ย.                 20.0 °C                             -7.0 °C
พ.ค.                  26.0 °C                            13.0 °C
มิ.ย.                   30.0 °C                            18.0 °C
ก.ค.                   31.0 °C                            22.0 °C
ส.ค.                   30.0 °C                            20.0 °C
ก.ย.                   26.0 °C                            14.0 °C
ต.ค.                  19.0 °C                             7.0 °C
พ.ย.                  10.0 °C                             0.0 °C
ธ.ค.                   3.0 °C                             -7.0 °C


การเดินทางมา เที่ยวปักกิ่ง ยังไม่จบนะจ๊ะ แต่มีกิจกรรมต่างๆ โปรดติดตามตอนต่อไปใน “เที่ยวปักกิ่ง ถิ่นมังกร ตอน 2”  นะจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น