ตะลุยเสียดฟ้ากับตึก ไทเป101 อิ่มอร่อยทั้งอาหารตาและอาหารท้อง
มาไต้หวันทั้งที ห้ามพลาดตึกยอดฮิต ฮวงจุ้ยดี อย่าง ไทเป 101
และแน่นอนว่าบนตึกยังขนอาหารเลิศรสมาเรียงรายอีกเพียบ!!
หากพูดถึงประเทศไต้หวันแล้ว ถ้าไม่มาชมทัศนียภาพบนตึกที่เคยครองแชมป์อันดับ 1 ของโลก 7 ปีซ้อน (ค.ศ. 2003 – 2010)อย่าง ตึกไทเป 101 แล้วล่ะก็… ระวังจะโดนชาวบ้านเยาะเย้ยว่ามาไม่ถึงเอาได้นะจ้ะนอกจากนี้ ก่อนที่จะเหินฟ้าขึ้นไปยังจุดชมวิวสูงเสียดฟ้าที่เขาว่าดีนักดีหนาบนชั้น 88 – 91 ระหว่างทางยังมีร้านอาหารที่แสนอร่อยและขึ้นชื่ออีกมากมาย
ขอเริ่มด้วยร้าน Din Tai Fung เสี่ยวหลงเปาขึ้นชื่อที่ Central World บ้านเรานั่นแหละ แต่ต้นตำรับเจ้าแรกต้องที่ไต้หวัน หากใครได้มาต้องลองลิ้มรสชาติของแท้ซักครั้ง จุดเด่นของ Din Tai Fung ทุกสาขา นั่นคือ เชฟทุกคนจะต้องแสดงฝีมือการทำหารหุงอุ่นตุ๋นต้มนึ่งอยู่ภายในห้องกระจก เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นการทำงานได้ทุกขั้นตอน และแน่นอนว่า อาหารขึ้นชื่อคงหนีไม่พ้น เสี่ยวหลงเปา ที่มาสารพัดไส้ ไม่ว่าจะเป็น ไส้หมูรสต้นตำรับ ไส้สับหมูสับไข่ปูสีส้มสด ไส้ไก่ ฯ นอกจากนี้ยังมีขนมจีบ ซาลาเปา เกี๊ยว บะหมี่ โอ๊ย! เยอะแยะไปหมด มาทานเหอะ แล้วจะรู้ว่ารสชาติต้นตำรับมีดียังไง ราคาก็แสนถูก ลงมาหาได้ที่ชั้นใต้ดินนะจ้ะ
ร้านต่อมาขอโดดมาที่ร้านอาหารระดับโลกที่การันตีด้วย 3 Michelin-Stars (Michelin Guide เป็นหนังสือไกด์บุ๊คโดยจัดเรทติ้งทั้งโรงแรม ภัตตาคาร รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวที่ต่างๆ ทั่วโลก และระดับ 3 ดาว หมายถึง อาหารต้องได้รับการพิถีพิถันทั้งการตกแต่งและวัตถุดิบชั้นเลิศ คือต้องเป็นจานที่สมบูรณ์แบบสุดๆ) อย่าง ร้าน S.T.A.Y โดยเชฟชาวฝรั่งเศส ซึ่งตัวร้านตั้งอยู่ชั้น 4 ของตึก ร้านอาหารสุดหรูขนาดนี้ต้องมีอ๊อฟชั่นเซ็ทเมนูมาเสนออยู่แล้ว เพื่อความกลมกล่อมในทุกสัมผัส นอกจากนี้ยังมี Pastry Library เป็นบาร์ขนมหวานของทางร้าน ซึ่งลูกค้าสามารถเดินไปเลือกเองได้เลย และยังมีขนมปังของแชมป์รางวัล M.O.F (Meilleur Ouvrier de France Boulangerie) อีกด้วย และร้านสุดท้ายขอปิดด้วยร้านอาหารสุดฮิตของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น (แต่เป็นร้านอาหารสไตล์ไต้หวัน) อย่างร้าน ซินเย่ ชั้น 85 โดยเมนูเด็ดของทางร้านมีเยอะแยะให้เลือกสรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมทอด เต้าหู้ผัดกุ้ง หมูกับลูกพรุน ขอบอกว่าเมนูนี้เนื้อหมูนุ่มลิ้นละลายในปากสุดๆ และที่พลาดไม่ได้ พระกระโดดกำแพงสูตรซินเย่ ส่วนผสมคือ แตงกวาทะเล หมู ไก่ และซุปหูฉลาม กระซิบนิดนึงนะว่า ถ้าใครอยากทานเมนูนี้ต้องโทรเข้าไปจองล่วงหน้าก่อน
ร้านต่อมาขอโดดมาที่ร้านอาหารระดับโลกที่การันตีด้วย 3 Michelin-Stars (Michelin Guide เป็นหนังสือไกด์บุ๊คโดยจัดเรทติ้งทั้งโรงแรม ภัตตาคาร รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวที่ต่างๆ ทั่วโลก และระดับ 3 ดาว หมายถึง อาหารต้องได้รับการพิถีพิถันทั้งการตกแต่งและวัตถุดิบชั้นเลิศ คือต้องเป็นจานที่สมบูรณ์แบบสุดๆ) อย่าง ร้าน S.T.A.Y โดยเชฟชาวฝรั่งเศส ซึ่งตัวร้านตั้งอยู่ชั้น 4 ของตึก ร้านอาหารสุดหรูขนาดนี้ต้องมีอ๊อฟชั่นเซ็ทเมนูมาเสนออยู่แล้ว เพื่อความกลมกล่อมในทุกสัมผัส นอกจากนี้ยังมี Pastry Library เป็นบาร์ขนมหวานของทางร้าน ซึ่งลูกค้าสามารถเดินไปเลือกเองได้เลย และยังมีขนมปังของแชมป์รางวัล M.O.F (Meilleur Ouvrier de France Boulangerie) อีกด้วย และร้านสุดท้ายขอปิดด้วยร้านอาหารสุดฮิตของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น (แต่เป็นร้านอาหารสไตล์ไต้หวัน) อย่างร้าน ซินเย่ ชั้น 85 โดยเมนูเด็ดของทางร้านมีเยอะแยะให้เลือกสรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมทอด เต้าหู้ผัดกุ้ง หมูกับลูกพรุน ขอบอกว่าเมนูนี้เนื้อหมูนุ่มลิ้นละลายในปากสุดๆ และที่พลาดไม่ได้ พระกระโดดกำแพงสูตรซินเย่ ส่วนผสมคือ แตงกวาทะเล หมู ไก่ และซุปหูฉลาม กระซิบนิดนึงนะว่า ถ้าใครอยากทานเมนูนี้ต้องโทรเข้าไปจองล่วงหน้าก่อน
เรียกได้ว่าไทเปมีอาหารการกินที่หลากหลายมากๆ หรือถ้าใครชอบแนว Street Food ขอแนะนำตลาดกลางคืนซือหลิน และที่ขาดไม่ได้สุดๆ คงหนีไม่พ้น ชานมไข่มุก ถ้าจะให้เจ๋งต้องไปร้านต้นกำเนิด ชุนสุ่ยถัง (Chun Shui Tang)
เมื่ออิ่มท้องขนาดนี้ ก็ถึงเวลาอิ่มตาอิ่มใจกับตึกไทเป 101กันแล้ว ตึกนี้เป็นตึกที่เป็นสุดยอดแห่งฮวงจุ้ย เพราะทุกจุดของตึกมีความหมายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ 101 ที่มีความหมายว่า วันที่ 1 เดือน 1 นอกจากเป็นวันขึ้นปีใหม่แล้ว ยังเป็นวันมงคลที่ตึกไทเป 101 เปิดให้บริการอีกด้วย หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือ เลข 0 เลข 1 เป็นเลขที่สื่อถึงความเป็น ดิจิตอล เทคโนโลยีอีกต่างหาก! ตัวอาคารมีความสูงถึง 509.2 เมตร และยังถูกดีไซน์ให้ลักษณะเป็นรูปทรงเจดีย์จีนและเป็นปล้องคล้ายไม้ไผ่จำนวน 8 ปล้อง ซึ่งเลข 8 เป็นเลขมงคลของคนจีน ที่แทนความร่ำรวย รุ่งเรือง และโชคลาภ หากจะมองอีกมุมหนึ่งลักษณะเหมือนรูปเงินจีนโบราณมาวางซ้อนกัน นอกจากนี้ยังเป็นลิฟต์ที่มีความเร็วเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยความเร็ว 60.6 กม./ชม. ซึ่งพ้องกับความเร็ว 1010 เมตร/นาที การแฝงความหมายดีๆ ตามหลักฮวงจุ้ยแบบนี้นี่เองถึงได้เป็นตึกที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นอันดับ 1 ของไต้หวัน
เมื่ออิ่มท้องขนาดนี้ ก็ถึงเวลาอิ่มตาอิ่มใจกับตึกไทเป 101กันแล้ว ตึกนี้เป็นตึกที่เป็นสุดยอดแห่งฮวงจุ้ย เพราะทุกจุดของตึกมีความหมายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ 101 ที่มีความหมายว่า วันที่ 1 เดือน 1 นอกจากเป็นวันขึ้นปีใหม่แล้ว ยังเป็นวันมงคลที่ตึกไทเป 101 เปิดให้บริการอีกด้วย หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือ เลข 0 เลข 1 เป็นเลขที่สื่อถึงความเป็น ดิจิตอล เทคโนโลยีอีกต่างหาก! ตัวอาคารมีความสูงถึง 509.2 เมตร และยังถูกดีไซน์ให้ลักษณะเป็นรูปทรงเจดีย์จีนและเป็นปล้องคล้ายไม้ไผ่จำนวน 8 ปล้อง ซึ่งเลข 8 เป็นเลขมงคลของคนจีน ที่แทนความร่ำรวย รุ่งเรือง และโชคลาภ หากจะมองอีกมุมหนึ่งลักษณะเหมือนรูปเงินจีนโบราณมาวางซ้อนกัน นอกจากนี้ยังเป็นลิฟต์ที่มีความเร็วเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยความเร็ว 60.6 กม./ชม. ซึ่งพ้องกับความเร็ว 1010 เมตร/นาที การแฝงความหมายดีๆ ตามหลักฮวงจุ้ยแบบนี้นี่เองถึงได้เป็นตึกที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นอันดับ 1 ของไต้หวัน
และชั้นชมวิวที่ไม่ควรพลาดคือชั้น 89 และ 91 เริ่มจากซื้อบัตรที่ชั้น F5 (ชั้นนี้มีภาพกำแพงวิวของตึกไทเปให้ไปแอ็คท่าเก๋ๆ ด้วย) เมื่อซื้อบัตรเสร็จก็ตรงดิ่งไปกดลิฟต์ไปยังชั้น 88 โดยใช้เวลาเพียง 37 วินาทีเท่านั้น! แล้วก็ขึ้นไปบันไดต่อไปที่ชั้น 89 ซึ่งชั้นนี้มีบานกระจกโดยรอบทำให้มองเห็นวิว 360 องศาได้อย่างชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งยังมีจุดที่บอกประวัติความเป็นมา Concept และภาพแสดงจุดต่างๆ ที่มองเห็นจากบนตึกอย่างละเอียดยิบ ส่วนที่ฮิตที่สุดคงต้องยกให้ร้านขายของที่ระลึก และจุดส่งโปสการ์ดที่สามารถประทับตรามาสคอต อย่างน้อง Damper (แดมเปอร์เป็นสัญลักษณ์ของลูกตุ้มยักษ์ที่ได้มีการออกแบบโครงสร้างเพื่อรับมือกับพายุและแผ่นดินไหวได้กว่า 7.0 ริกเตอร์) ส่วนชั้น 91 คือจุดชมวิวที่สามารถออกมารับลมข้างนอกได้ และวิธีการมาก็ง่ายมาก คือ นั่ง MRT ลงที่สถานี Taipei City Hall ทางออก 4 เดินมาเพียง 10 – 15 นาที ก็ถึงตึกไทเป 101 แล้ว เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 – 22:00 น. ส่วนรอบซื้อบัตรเวลาสุดท้าย 21:15 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น