การชมใบไม้เปลี่ยนสีสัน หรือ “โคโย” ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมไม่ต่างจากการชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิสำหรับชาวอาทิตย์อุทัยมานานนับศตวรรษ โดยจะเริ่มในช่วงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนไปถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม ฤดูกาลจะค่อยๆ เริ่มจากภาคเหนือของประเทศจนถึงภาคใต้ คนจำนวนมากต่างทยอยเดินทางไปชมใบไม้เปลี่ยนสีในจุดที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นทั้งภูเขาและในเมือง ส่วนในกรุงโตเกียวนั้น ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคมของทุกปี โดยมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงอยู่มากมาย ดังเช่น 6 สถานที่ดังต่อไปนี้ที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากทุกท่าน
สวนริคุงิเอน
ในวันที่ 20 พฤศจิกายน – 7 ธันวาคม 2014 สวนริคุงิเอนเปิดให้บริการในเวลา 09.00- 21.00 น. โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 300 เยน ซึ่งสวนริคุงิเอนนี้เป็นสวนขนาดใหญ่ในสมัยเอโดะที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดในโตเกียว โดยภายในสวนประกอบไปด้วยเส้นทางเดินที่สองข้างทางประกอบไปด้วยต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นมากมาย มีสระน้ำขนาดใหญ่ตรงกลางสวนซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่มนุษย์สร้างขึ้น นอกจากนั้นริคุงิเอนยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง อันเนื่องมาจากต้นเมเปิ้ลที่มีอยู่มากมายเต็มพื้นที่ของสวนแห่งนี้จะพากันเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยแปลกตา
How to get there: เดินเท้าจากสถานีโคมาโกเมะไปทางทิศใต้ประมาณ 5-10 นาที ก็จะเจอกับประตูหลักทางเข้าสวนริคุงิเอนแล้ว
สวนโคอิชิคาวะ โคระคุเอง
สวนโคอิชิคาวะ โคระคุเองเป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะที่โดดเด่นในเรื่องของการชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่สำคัญยังตั้งอยู่ติดกับโตเกียวโดมอีกด้วย โดยโคอิชิคาวะ โคระคุเองเป็นสวนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ประกอบไปด้วยบ่อหินจำนวน 3 บ่อที่รายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลและต้นแปะก๊วย รวมถึงภูเขาหินที่มนุษย์สร้างขึ้นตามแบบฉบับของสวนในสมัยเอโดะ ทั้งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ผู้คนจะหลั่งไหลมาที่นี่เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีทั้งสีแดงของต้นเมเปิ้ลและสีเหลืองทองของต้นแปะก๊วย ซึ่งเปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 300 เยนเท่านั้น
How to get there: จากสถานีรถไฟอิดาบาชิทางออกประตู C3 ใช้เวลาเดินเท้าเพียง 5-10 นาทีเท่านั้นก็จะถึงสวนแล้ว
ถนนอิโชนามิกิ
ถนนอิโชนามากิตั้งอยู่ในย่านเมจิจิงกุที่ทั้งสองฝั่งของถนนปลูกต้นแปะก๊วยอยู่เรียงราย จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่าถนนสายแปะก๊วย ซึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนธันวาคม ต้นแปะก๊วยทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองน่าดู ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชมความงามของต้นแปะก๊วยยังถนนแห่งนี้ บ้างก็มาเพื่อวาดภาพ บ้างมาเดินเล่น บ้างก็มาจิบกาแฟในร้านกาแฟริมถนน เป็นต้น
How to get there: นั่งรถไฟใต้ดินสายกินซ่าสีส้มมายังสถานีไกเอนมาเอะ จากทางออกหมายเลข 4 ให้เดินเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็จะเจอกับทางเข้าถนนสายอิโชนามากิอันสวยงาม
สวนสาธารณะชินจูกุ
สวนสาธารณะชินจูกุเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมอีกแห่งของโตเกียวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีชินจูกุ ซึ่งสวนแห่งนี้เป็นสวนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมในสมัยเอโดะที่เต็มไปด้วยบ่อน้ำขนาดใหญ่ หมู่เกาะและสะพานไม้ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยพุ่มไม้และต้นไม้ใหญ่ที่สวยงาม รวมถึงที่นี่ยังมีศาลาที่เคยใช้ในการจัดงานอภิเษกสมรสของจักรพรรดิโชวะอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังถูกจัดแต่งให้เป็นสวนในแบบต่างๆ ทั้งสวนฝรั่งเศส สวนอังกฤษ และสวนในเขตร้อน เป็นต้น ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์โดยเฉพาะต้นเมเปิ้ลเที่มีอยู่มากมายภายในสวนสาธารณะชินจูกุแห่งนี้
How to get there: จากสถานีชินจูกุ ใช้เวลาเดินเท้าเพียง 10 นาทีไปทางทิศตะวันออกก็จะเจอเข้ากับสวนสาธารณะชินจูกุแล้ว
ภูเขาทาคาโอะ
ภูเขาทาคาโอะตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงโตเกียว ที่นี่ถือเป็นสถานที่เดินป่าที่ค่อนข้างวุ่นวายโดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ซึ่งในระยะทาง 599 เมตรจากตีนเขาจนถึงยอด นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้มีโอกาสเห็นฝูงลิงป่าญี่ปุ่นนับร้อยๆ ตัวในอุทยานลิง ต้นไม้ใหญ่และดอกไม้ป่ากว่า 500 ชนิด และเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา ก็จะมองเห็นต้นไม้หลากสีสันกระจายไปทั่วภูเขาทั้งลูก ทั้งสีส้ม สีแดง สีเหลือง ฯลฯ หรือหากใครเดินป่าไม่ไหว ที่นี่ก็มีเคเบิลคาร์ให้บริการด้วยเช่นกัน
How to get there: นั่งรถไฟด่วนจากสถานีรถไฟใต้ดินเคโอชินจูกุซึ่งรถไฟจะออกในทุกๆ 20 นาที โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาที ก็จะมาถึงสถานีทาคาโอะซังกูจิที่ตั้งอยู่ตีนเขาแล้ว โดยมีค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวอยู่ที่ 390 เยน หรือนั่งรถบัสจากสถานี JR Kyoto โดยรถบัสจะออกในทุกๆ 20-30 นาที และมีค่าใช้จ่ายต่อเที่ยว 520 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
สวนสาธารณะโชวะ คิเนน
เมื่อพูดถึงสถานที่สำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว สวนสาธารณโชวะ คิเนนก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ด้วยจุดเด่นคือเส้นทางเดินต้นแปะก๊วยที่ถูกปลูกเรียงกันเป็นแนวสวยตั้งแต่ทางเข้าหลักจะพากันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองยาวเหยียดจนกระทั่งถึงลานน้ำพุกลางสวน นับเป็นภาพประทับใจที่ใครๆ มาเห็นก็ต่างลืมไม่ลงกันเลยทีเดียว ซึ่งโชวะ คิเนนนี้เป็นสวนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟทาจิคาวะในภาคตะวันตกของโตเกียว
How to get there: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสวนสาธารณะโชวะ คิเนนโดยรถไฟสาย JR Chou จากสถานีชินจูกุไปยังสถานีทาจิคาวะโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น