เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีพื้นที่กว่า 50% ติดชายฝั่งทะเล
ทั้งส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี และทะเลญี่ปุ่น นั่นจึงทำให้ประเทศแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งประเทศในโลกที่มีเกาะน้อยใหญ่รายล้อมอยู่มากมายถึง
3,358
เกาะที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการนอกชายฝั่งเกาหลีใต้
ซึ่งเกาะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือเกาะเจจูที่อยู่ทางใต้ของจังหวัดจอลลาใต้นั่นเอง
เนื่องจากมีบรรยากาศที่โรแมนติกแบบประเทศในเขตร้อน และมีบรรยากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นสบายเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ
ของประเทศ รวมถึงยังมีสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่งดงามจับตาชวนให้น่าค้นหาอีกด้วย
อย่างไรก็ดี นอกจากเกาะเจจูแล้ว เกาหลีใต้ยังมีเกาะอื่นๆ ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย
ดังเช่น 6 เกาะที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากในวันนี้
เกาะฮงโด (Hongdo)
เกาะฮงโดมีพื้นที่ 6.47 ตางรางกิโลเมตร อยู่ห่างจากท่าเรือมกโพไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 115 กิโลเมตร โดยที่มาของชื่อฮงโดที่แปลว่าสีแดงเข้มนั้นตั้งตามลักษณะของเกาะ ซึ่งทุกวันขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า แสงสุดท้ายของวันจะเปลี่ยนเกาะแห่งนี้ให้เป็นสีแดงเข้มนั่นเอง นอกจากนั้นเกาะฮงโดยังมีจุดเด่นด้วยหน้าผาสูงที่มีหินรูปทรงต่างๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งเกาะ มีจุดชมวิวถึง 33 แห่ง รวมไปถึงเสน่ห์ของทะเลสีคราม และป่าไม้สีเขียวชอุ่มซึ่งประกอบด้วยพืชพรรณกว่า 270 ประเภท และเป็นบ้านของสัตว์ป่าถึง 170 สายพันธุ์ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เกาะแห่งนี้เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติในปี ค.ศ.1965 และเปลี่ยนเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลดาโดแฮในปี ค.ศ.1981
เกาะอุลลึงโด (Ullengdo)
เกาะอุลลึงโดคือสถานที่พักผ่อนอีกหนึ่งแห่งซึ่งเป็นที่นิยมของชาวเกาหลี และเป็นพื้นที่ประมงสำคัญของชายฝั่งทะเลตะวันออก โดยเฉพาะการจับปลาหมึก ทำให้สินค้าแปรรูปของที่นี่อย่างปลาหมึกแห้งกลายเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เกาะอุลลึงโดมีความยาว 268 กิโลเมตร และมีความกว้างถึง 73.15 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองโพฮังอันเป็นตำแหน่งสุดปลายฝั่งตะวันออกของเกาหลีใต้ ซึ่งจุดเด่นของอุลลึงโดก็คือเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟ ถ้ำ น้ำตก หน้าผาสูงชันที่มีหินมีรูปร่างประหลาดอยู่มากมาย ต้นไม้โบราณนานาพรรณ ชวนให้นักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนที่นี่ต่างหลงใหลในมนต์เสน่ห์ และอยากกลับมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
เกาะคอเจ (Geojedo)
คอเจเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลีรองจากเกาะเจจู ทั้งยังเป็นอีกเกาะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวค่อนข้างได้รับความนิยม ด้วยเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลฮัลลยอซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลีที่รวมเกาะเล็กเกาะน้อยแห่งทะเลใต้อีกกว่า 400 เกาะ นอกจากนั้นคอเจยังถูกกล่าวขานด้วยความงามโดดเด่นของเนินเขาเขียวชอุ่มริมทะเลอย่าง Hill of the Wind และไข่มุกดำแห่งชายหาดฮักดง มงดล ซึ่งเป็นหาดที่ประกอบไปด้วยก้อนกรวดสีดำโดยรอบ และก่อให้เกิดเสียงเหมือนโลหะกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊งเมื่อคลื่นสาดเข้าหาชายหาด
เกาะอุโด้ (Udo)
อุโด้เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะเจจู ซึ่งคำว่าอุโด้นี้ในภาษาเกาหลีจะหมายถึงเกาะวัว ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งมาจากลักษณะทางกายภาพของเกาะแห่งนี้ที่ดูคล้ายกับวัวกำลังนอนหมอบอยู่นั่นเอง โดยเกาะอุโด้ถือเป็นเกาะอีกแห่งของเกาหลีใต้ที่มีความสวยงามของธรรมชาติอันโดดเด่น และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเล หอยเป๋าฮื้อ ฯลฯ ทั้งนี้สถานที่ท่องเที่ยวของเกาะซึ่งมีชื่อเสียงก็ได้แก่หาดปะการังซอบินแบคซา ชายหาดปะการังสีขาวละมุนตัดกับน้ำทะเลสีมรกตหนึ่งเดียวของเกาหลี จุดชมวิวยอดเขาอุโด้บง และพิพิธภัณฑ์ประภาคาร เป็นต้น
เกาะจินโด (Jindo)
เกาะจินโดเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงในเกาหลีใต้ อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งอย่าง Moses Miracle ซึ่งคล้ายๆ กับทะเลแหวกของบ้านเรา แต่ที่เกาหลีปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือเดือนมีนาคม ในช่วงเวลาที่ระดับน้ำทะเลลดลงจนปรากฏเป็นทางเดินกลางทะเลที่มีความกว้าง 35 เมตร และมีความยาวถึง 2.8 กิโลเมตร เป็นทางเชื่อมระหว่างเกาะจินโดและเกาะโมโดที่อยู่ใกล้เคียงเป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมงเต็ม และทุกๆ ครั้งที่เกิดปรากฏการณ์ Moses Miracle ภายในเกาะแห่งนี้จะมีการจัดงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ด้วย
เกาะมาราโด (Marado)
เกาะมาราโดมีรูปร่างคล้ายกับมันเทศ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นจุดใต้สุดของประเทศ โดยอยู่ห่างจากเกาะเจจูลงไปทางใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมาเกาะมาราโดมักจะถูกหมางเมินจากนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ อันเนื่องมาจากชายหาดของที่นี่ไม่ได้สวยงามดังเช่นเกาะอื่นๆ แต่อย่างไรก็ดี ปัจจุบันที่นี่กลับกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งของเกาหลีไปแล้ว ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาของเกาะ อย่างหาดหินที่เต็มไปด้วยหินรูปร่างแปลกตามากมาย อันเนื่องมาจากถูกลมและน้ำทะเลกัดกร่อนมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้เกาะมาราโดยังเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของเกาหลีใต้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น