Menu Blog

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวชมธรรมชาติแห่งฤดูร้อน ณ ภูมิภาคฮอกไกโดอันเลื่องชื่อ

ย่างเข้าสู่เดือนสิงหาคม ประเทศญี่ปุ่นก็ยังถือว่า เป็นประเทศต้นๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่สร่างซา แม้ว่าหลายๆ คนจะมองว่าช่วงซัมเมอร์ของญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนมิถุนายน – สิงหาคมนั้นไม่น่าสนใจเท่ากับฤดูใบไม้ผลิซึ่งมีจุดเด่นคือดอกซากุระ ฤดูใบไม้ร่วงกับใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวที่มาพร้อมไฮไลท์อย่างหิมะสีขาวโพลนก็ตาม ซึ่งจริงๆ แล้วเสน่ห์ของฤดูร้อนในญี่ปุ่นก็ไม่ได้น้อยหน้าฤดูไหนๆ เลย อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นฤดูแห่งเสียงแมลง ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสด ชุดยูกาตะ และเทศกาลแห่งดอกไม้ไฟอีกด้วย โดยเฉพาะเกาะฮอกไกโดที่มีสถานท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจอยู่หลายแห่ง ดังเช่นมัชรูมทราเวลได้นำมาเป็นแนวทางให้ท่านในวันนี้


เมืองมัทซึมาเอะ 



เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเกียวโตน้อยๆ แห่งภาคเหนือ อันเนื่องมาจากความเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของชาวซามูไรในภูมิภาคนี้นั่นเอง ส่วนไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเมืองนี้ก็คือปราสาทมัทซึมาเอะที่ภายในได้ปลูกต้นซากุระไว้มากถึง 10,000 ต้น และความพิเศษของต้นซากุระเหล่านี้ก็คือ พวกมันจะพากันเบ่งบานในช่วงหน้าร้อนนี่เอง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเทศกาลที่น่าตื่นตาใจซึ่งเกี่ยวข้องกับนักรบซามูไรอย่างเทศกาลโจคะ ที่มีขบวนพาเหรดซามูไรให้ได้ชมกันอีกด้วย 

เมืองโอโฮทสึคุ 



เมืองโอโอทสึคุก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเช่นกันในช่วงซัมเมอร์ โดยมีไฮไลท์คือทุ่งชิบะซากุระหรือพิงค์มอสให้ได้ชมความงามอย่างจุใจ รวมถึงดอกทิวลิปหลากสีกว่า 120 สายพันธุ์ ภายในสวนคามิยุเบทสึ ทิวลิป พาร์คอันเลื่องชื่อ ไม่เพียงเท่านั้น สถานที่อื่นๆ ภายในเมืองโอโฮทสึคุที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดก็คือพิพิธภัณ์เรือนจำอะบาชิริและพิพิธภัณฑ์ธารน้ำแข็งโอโฮทสึคุ ริวเฮียว

เมืองฟุราโนะ



ฟุราโนะถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดเมืองหนึ่งของเกาะฮอกไกโดในเรื่องของดอกไม้ใบหญ้า เนื่องจากเป็นที่ตั้งของฟาร์มโทมิตะอันเลื่องลือ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังฟาร์มแห่งนี้ในช่วงหน้าร้อนก็จะได้พบกันทุ่งลาเวนเดอร์ ดอกป๊อปปี้ ดอกแมรี่โกลด์ รวมไปถึงสวนดอกไม้สีรุ้งที่รวมดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์เอาไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก และชิมไอศกรีมรสลาเวนเดอร์อันขึ้นชื่อได้อีกด้วย

เมืองบิเอะ



เมืองบิเอะเป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาและได้ชื่อว่าเป็น Small Town Of The Most Beautiful Hills ซึ่งถึงแม้บิเอะจะเป็นเมืองเล็ก แต่ก็แฝงไว้ด้วยความน่ารักและความโรมแมนติกอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยภาพวิวทิวทัศน์ในแบบพาโนราม่าระหว่างสองข้างทางที่ขนาบไปด้วยทุ่งข้าวบาร์เล่ย์สีเหลืองทอง สลับไปกับไร่ข้าวโพดและไร่มันฝรั่งสีเขียวสด รวมถึงฟ้าใสสีครามและเมฆสีขาวที่ลอยระเรี่ยเป็นดังฉากหลังอันงดงาม ยังไม่รวมถึงพืชผักและดอกไม้นานาพรรณที่กระจายเบ่งบานสะพรั่งไปทั่วทั้งภูเขา ยิ่งส่งให้บิเอะกลายเป็นเช่นเมืองในฝันที่ใครๆ ก็อยากสัมผัสความงามด้วยสายตาตัวเอง 

เมืองฮาโกดาเตะ

 

ฮาโกดาเตะเป็นเมืองท่าของเกาะฮอกไกโดซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวที่ไม่แพ้เมืองอื่นๆ ทั้งในเรื่องของความสวยงามทางธรรมชาติจากภูเขา ดอกไม้ และความเป็นเมืองท่าชายฝั่งทะเล รวมไปถึงความสวยงามของวัฒนธรรม และสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ ซึ่งแฝงไว้ด้วยความคลาสสิกอย่างยิ่งยวด ทั้งโบสถ์และบ้านเรือนในสไตล์ตะวันตก ถนนสายโรแมนติก รวมไปถึงร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าที่ถูกดัดแปลงมาจากโกดังอิฐแดงอันโดดเด่น 

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวงานเทศกาลญี่ปุ่นในช่วงฤดูแห่งดอกไม้ไฟ

เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนกันยายนของทุกปีที่อากาศจะร้อนจัดและชื้น จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยหลายๆ คนไม่นิยมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นเหมือนกับช่วงฤดูอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก เพราะฤดูร้อนของญี่ปุ่นนั้นถือเป็นช่วงเวลาแห่งความอุดมสมบูรณ์ของแมกไม้สายพันธุ์ต่างๆ และดอกอะจิไซหรือดอกไฮเดรนเยียหลากสีที่พากันออกดอกบานสะพรั่ง รวมถึงยังถูกเรียกว่าเป็นฤดูกาลแห่งดอกไม้ไฟที่เต็มไปด้วยงานเทศกาล และการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่และสนุกสนาน ซึ่งจะมีเทศกาลอะไรบ้างนะ วันนี้มัชรูมทราเวลขอชวนทุกท่านไปเยือนญี่ปุ่นในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ดูสักครั้ง

เทศกาลซันโนะ 



งานเทศกาลซันโนะหรือซันโนะซังเป็นงานเฉลิมฉลองของศาลเจ้าฮิเอะที่จัดขึ้นทุกวันที่ 1-2 มิถุนายนของทุกปี ณ บริเวณรอบๆ ปราสาทโทยามะมาตั้งแต่สมัยคิวฮัง โดยภายในงานนอกจากจะมีกิจกรรมต่างๆ แล้ว ยังมีการออกร้านค้ามากมายเรียงรายอยู่รอบๆ บริเวณปราสาทไปจนถึงศาลเจ้า ทั้งนี้เทศกาลซันโนะคือหนึ่งในงานเทศกาลของเมืองโทยามะที่ชาวเมืองต่างนิยมชมชอบกันมากที่สุด

เทศกาลม้า 

 

เทศกาลม้าเป็นเทศกาลประจำปีของเมืองอุตสึโนะมิยะจังหวัดโทะจิงิ โดยงานจะถูกจัดขึ้นในวันอาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายนที่สถาบันวิจัยม้า JRA บนถนนเส้นคานุมะ ซึ่งงานจะเริ่มต้นเมื่อเวลา 10.00 น. ซึ่งภายในงานมีการพาทัวร์เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ภายในบริเวณ รวมทั้งชมการแสดงขี่ม้าผาดโผนประกอบดนตรี ขบวนพาเหรด การยิงธนูบนหลังม้า กิจกรรมสำหรับเด็ก และเดินเลือกซื้อของที่ระลึกจากร้านรวงต่างๆ ที่ตั้งเรียงรายภายในสถาบันวิจัยม้าแห่งนี้

เทศกาลกิออน 

 

เทศกาลกิออนเป็นงานเทศกาลของศาลเจ้ายาซากะแห่งเมืองเกียวโตที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในช่วงวันที่ 1-15 กรกฎาคมของทุกปี โดยจุดประสงค์ของการจัดงานก็เพื่อขับไล่ปีศาจที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บในสมัยโบราณนั่นเอง ซึ่งกิจกรรมภายในงาน ผู้มาร่วมงานจะได้พบกับขบวนพาเหรดบอลลูนอันหรูหราตระการตาถึง 12 แบบ ที่จะถูกแห่ไปรอบๆ เมืองเกียวโตเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมประเพณีที่สำคัญนี้ 

เทศกาลแห่งดวงดาว

 

เทศกาลแห่งดวงดาวหรือทานาบาตะเป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นในทุกวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี ซึ่งตามตำนานได้กล่าวถึงเรื่องราวความรักที่ถูกขัดขวางระหว่างดวงดาววีก้าหรือเจ้าหญิงทอหูกที่อยู่ทางทิศตะวันออก และดวงดาวอัลแทร์หรือหนุ่มเลี้ยงวัวที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตก แต่ในช่วงวันที่ 7 เดือน 7 จะเป็นช่วงที่ดาวทั้งสองดวงได้โคจรมาใกล้กันที่สุดในรอบหนึ่งปี ดังนั้นชาวเมืองเซนไดจึงได้จัดงานเฉลิมฉลองด้วยการประดับประดาต้นไผ่และกิ่งไผ่ด้วยดาวกระดาษให้ปลิวไสวไปทั่วเมือง รวมทั้งยังตัดกระดาษเป็นรูปคล้ายโซ่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของทางช้างเผือก และเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษสีแล้วนำไปแขวนไว้บนต้นไผ่ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ภายในงานยังมีขบวนพาเหรดที่ใหญ่โตสวยงาม โดยจังหวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปร่วมฉลองเทศกาลนี้มากที่สุดก็คือจังหวัดมิยางิและคานางาวะ

เทศกาลไฟ 

 

เทศกาลไฟเป็นงานเทศกาลประจำศาลเจ้านาจิ คัตสึอุระเมืองวากายามะ ซึ่งมีสถานะเป็นงานเทศกาลที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกงานหนึ่ง โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วง 1,700 ปีก่อน ในช่วงวันที่ 14 กรกฎาคม เพื่อเฉลิมฉลองการมาเยือนของเทพเจ้าแห่งน้ำตกนาจิที่มีความสูงถึง 133 เมตร ตั้งอยู่ภายในบริเวณภูเขานาจิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้านาจิอีกด้วย ภายในงานหนุ่มๆ วัยฉกรรจ์ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจะแบกคบเพลิงขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 50 กิโลกรัม ขึ้นบันไดที่ทอดตัวยาวขึ้นไปสู่น้ำตกพร้อมส่งเสียงตะโกนอย่างฮึกเหิมไปตลอดทาง 

เทศกาลเท็นจิน 

 

เทศกาลเท็นจินเป็นงานใหญ่ 1 ใน 3 ของชาติและเมืองโอซาก้าที่มีผู้เข้าร่วมงานในแต่ละปีมากถึง 2 ล้านคน ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงวันที่ 24-25 กรกฎาคม โดยเป็นงานแห่เทพเจ้าทสึกาวาระ โนะ มิชิซาเนะแห่งศาลเจ้าคู่บ้านคู่เมืองอย่างศาลเจ้าเทนมุงงูที่ชาวโอซาก้าให้ความเคารพสักการะไปทั่วเมืองทั้งทางบกและทางน้ำ โดยขบวนแห่งทางน้ำนั้นจะเริ่มต้นด้วยการลอยหอกเทพเจ้าไปตามสายน้ำของแม่น้ำโอกาวะเสียก่อน จากนั้นเมื่อหอกลอยไปติดฝั่งตรงบริเวณไหน ที่นั่นก็จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือเทพเจ้านั่นเอง นอกจากนั้นในช่วงค่ำคืน ชาวเมืองก็จะพากันแต่งชุดยูกาตะเพื่อไปเที่ยวงานภายในศาลเจ้าที่มีมีการออกร้านขายสินค้าต่างๆ มากมาย 

เทศกาลเนบุตะ  


 
เทศกาลเนบุตะเป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นที่เมืองอาโมริในวันที่ 1- สิงหาคม ซึ่งในวันแรกจะเป็นการเฉลิมฉลองคืนก่อนวันเทศกาล วันที่2- 3 เป็นการของพวกเด็กๆ วันที่4- 6 จะมีการจัดแสดงของหุ่นโครงกระดาษขนาดใหญ่ ส่วนในวันสุดท้ายก็จะรวมกันทั้งหมดเพื่อบูชาเทพเจ้ามอฟีสและปลุกให้ตื่นจากการหลับใหลแล้วกลับมาทำงาน ซึ่งไฮไลท์ของเทศกาลนี้ก็คือขบวนพาเหรดที่นำทางด้วยโคมไฟเก่าแก่ รวมถึงโคมไฟแบบต่างๆ ที่ถูกลอยให้สูงขึ้น ทั้งเป็นรูปเทพเจ้า ซามูไร ปีศาจ สัตว์น่ารักๆ เป็นต้น  

เทศกาลคันโต 

 

เทศกาลคันโตเป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นในเมืองอาคิตะ ระหว่างวันที่ 3- 6 เดือนสิงหาคม ซึ่งคันโตก็คือไม้ไผ่ลำยาวที่ถูกต่อขึ้นมาเพื่อใช้แขวนโคมกระดาษที่ห้อยเป็นแถวๆ ประมาณ 9 ชั้น โดยโคมไฟกระดาษนี้ก็มีขนาดที่ต่างกันออกไปถึง 3 ขนาดคือ เล็ก กลาง และใหญ่ ซึ่งขนาดใหญ่นั้นจะประกอบด้วยโคมไฟถึง 40 อัน มีความสูง 12 เมตร และมีน้ำหนักถึง 50 กิโลกรัม โดยผู้แห่โคมไฟจะใช้ศีรษะและมือเพื่อทำให้คันโตะแต่ละอันทรงตัวอยู่ได้ คล้ายๆ กับการเล่นกายกรรมนั่นเอง นอกจากนี้ภายในงานเทศกาลยังมีการประกวดแข่งขันคันโตะในวันที่ 4-8 ของงานเทศกาลอีกด้วย

เทศกาลฮานางาซะ 

 

เทศกาลฮานางาซะคือ 1 ใน 4 ของเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งตลอด 3 วันของการจัดงาน เมืองยามางาตะโดยเฉพาะในช่วงเย็นจะคึกคักไปด้วยเสียงกลองฮานางาซะและเสียงขับร้องเพลงที่ดังก้อง พร้อมๆ กับการขับเคลื่อนของขบวนพาเหรดไปตามถนนสายหลักของเมือง ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมในขบวนพาเหรดสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันรวมแล้วมากกว่า 1 หมื่นคน โดยผู้ที่ออกมาร่ายรำจะแต่งกายในชุดยูกาตะสีสันสดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดหลักของฮานางาซะ โอโดรินั้นจะมีหมวกที่ประดับด้วยดอกคำฝอยประดิษฐ์เป็นเอกลักษณ์สำคัญ นอกจากนี้ก็ยังมียะไตที่ตกแต่งอย่างสวยงามแปลกตาออกมาให้ชมกันบนท้องถนนอีกด้วย

เทศกาลระบำอาวะ 

 

ระบำอาวะเป็นหนึ่งในเทศการระบำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี โดยในวันงานชาวเมืองโทกุชิมะและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเป็นล้านๆ คนจะแห่กันมารอชมขบวนเต้นรำที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นตาตื่นใจกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งงานนี้จัดขึ้นในวันที่ 12 -15 สิงหาคมของทุกปี 

เทศกาลโอบง

 

เทศกาลโอบงจัดขึ้นทุกวันที่ 13 - 16 สิงหาคมของทุกปี อันเป็นช่วงที่ชาวญี่ปุ่นต่างพากันเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อทำความสะอาดหลุมฝังศพและเซ่นไหว้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ด้วยความเชื่อที่ว่าดวงวิญญาณคนตายจะกลับลงมาเยี่ยมญาติพี่น้องยังโลกมนุษย์ ดังนั้นตามบ้านเรือนจึงมีการจุดตะเกียงหรือคบเพลิงเพื่อส่องนำทางดวงวิญญาณเหล่านั้นให้หาทางกลับบ้านได้ โดยภายในงานจะมีการร่ายรำพื้นบ้านบงโอโดริอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง 

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สุดยอด 6 อุทยานแห่งเกาหลีที่ควรไปเยือนสักครั้ง

คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อย ถ้าหากคุณได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวไกลถึงประเทศเกาหลีใต้ แต่ไม่มีโอกาสที่จะไปเยือน 6 เทือกเขาที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเกาหลีใต้เลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้เกาหลีใต้มีจุดเด่นคือภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นแนวเทือกเขาถึง 70% เลยทีเดียว และนั่นก็ทำให้ประเทศแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติบนภูเขาสูง นอกจากนั้นคนเกาหลีส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นคนเฒ่าคนแก่หรือลูกเล็กเด็กแดงยังนิยมการปีนเขาในวันหยุดช่วงเสาร์อาทิตย์อีกด้วย ซึ่งภูเขาทั้ง 6 ลูกที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากนี้ ถือว่าเป็นภูเขาที่สวยและมีชื่อเสียงมากที่สุดในเกาหลีใต้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผืนป่าจะพากันเปลี่ยนสีสันไปทั่วทั้งหุบเขา

อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน 



 อุทยานแห่งชาติโซรัคซานมียอดเขาที่สูงที่สุด โดยมีความสูงอยู่เหนือระดับน้ำทะเลที่ 1,708 เมตร และมีเนื้อที่กว้างขวางถึง 354 ตารางกิโลเมตร ซึ่งประกอบไปด้วยยอดเขาโอซอรัก ยอดเขาเนซอรัก และยอดเขานัมซอรัก อีกทั้งที่นี่ยังมีจุดเด่นด้วยทัศนียภาพที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาล จนทำให้โซรัคซานได้ชื่อว่าเป็นแนวเทือกเขาที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีจนได้รับสมญานามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเกาหลี โดยในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆ เดินทางมายังอุทยานแห่งนี้ด้วยกระเช้าไฟฟ้าวันละหลายร้อยคน ทำให้ไม่ว่าจะฤดูไหนโซรัคซานก็ไม่เคยมีคำว่าเหงาเลยสักครั้ง                                                                                                                                                                                 

อุทยานแห่งชาติพูกันซาน



 อุทยานแห่งชาติพูกันซานเป็นอีกหนึ่งภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาหลีใต้ซึ่งทอดตัวยาวไปทางตอนเหนือของกรุงโซล โดยพูกันซานนั้นมีลักษณะเป็นภูเขาหินแกรนิตลูกใหญ่ที่มีความกว้างถึง 78.45 กิโลเมตร และมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,567 เมตร อีกทั้งอุทยานแห่งชาติพูกันซานยังเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักปีนเขาและนักดูนกอีกด้วย แม้ว่าเส้นทางการปีนเขาของที่นี่จะค่อนข้างมีความยากอันเนื่องมาจากหินแกรนิตที่ลื่นกว่าปกติก็ตาม และเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงบริเวณยอดของพูกันซานแล้ว นอกจากนกสายพันธุ์ต่างๆ หลากหลายชนิดแล้ว ก็ยังจะได้พบกับสถานที่ที่ระลึกทางวัฒนธรรมของเกาหลี อย่างเช่นป้อมปราการพูกันซอง วัดเก่าแก่ที่อายุกว่าร้อยปี และอาศรมนักพรตอีกด้วย      


อุทยานแห่งชาติจีรีซาน



 อุทยานแห่งชาติจีรีซานเป็นอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ โดยมีอาณาเขตทั้งหมด 484 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่รอยต่อถึง 3 จังหวัด ได้แก่ หวัดชอลลานัม จังหวัดชอลลาบุก และจังหวัดคยองซานัม ซึ่งจีรีซานนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดของเกาหลีใต้ในการชมธรรมชาติในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม รวมทั้งยังได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 3 ของภูเขาศักดิ์สิทธิ์บนคาบสมุทรเกาหลีอีกด้วย นอกจากนั้นอุทยานแห่งชาติจีรีซานยังเป็นเส้นทางการเดินป่าที่ดีที่สุดของเกาหลีใต้ ด้วยมีพันธุ์ไม้หายากที่มากกว่า 4,000 ชนิด และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ไม่เพียงเท่านั้น ในบริเวณรอบๆ ภูเขายังเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญๆ ถึง 7 แห่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้มาเที่ยว ณ อุทยานแห่งชาติแห่งนี้                


อุทยานแห่งชาติแนจังซาน


 อุทยานแห่งชาติแนจังซานเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชอนลาบุก-โดและจังหวัดชอลลานัม-โด อุทยานแห่งนี้ประกอบไปด้วยแนวเขาแนจังซานที่มีความสูง 763 เมตร และแนวเขาแบกัมซานอันมีความสูง 741 เมตร ทั้งนี้แนจังซานยังเป็นภูเขาที่ขึ้นชื่อในเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไม่แพ้โซรัคซานอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายนที่ถือเป็นช่วงไฮไลท์ของที่นี่ ซึ่งนอกจากฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ในช่วงฤดูกาลอื่นๆ นักท่องเที่ยวก็สามารถมาเยือนแนจังซานได้เช่นเดียวกัน เพราะอุทยานแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆ มากกว่า 760 ชนิด รวมไปถึงน้ำตก และวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเกือบๆ 10 แห่ง                                                                                                                                                                                                                                                                                     

อุทยานแห่งชาติซงนิซาน



 อุทยานแห่งชาติซงนิซานตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแทจอน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแถบภาคกลางของคาบสมุทรเกาหลี เนื่องจากภูเขาที่มีความสูงถึง 1,58 เมตรแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของกิจกรรมการเดินป่า อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่อย่างวัดพ๊อพจูซาซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ก่อนจะถูกเผาทำลายโดยชาวญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1592 และถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ในอีก 32 ปีต่อมา โดยภายในวัดนั้นประกอบด้วยเจดีย์สูง 5 ชั้น และพระพุทธรูปทองแดงขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก โดยมีความสูงถึง 33 เมตร นอกจากนั้นเขาซงนิซานยังมีต้นสนที่มีชื่อว่าจองอิบุมซอง ซึ่งได้รับการยกย่องจากรัฐบาลเกาหลีใต้ให้เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนชาวเกาหลีอีกด้วย  


อุทยานแทแบคซาน



อุทยานแทแบคซานตั้งอยู่ภายในเขตจังหวัดคังวอนโด โดยในช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ที่นี่จะมีการจัดงานเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี ซึ่งภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้พบกับกิจกรรมที่หลากหลายท่ามกลางหิมะสีเงินระยิบที่ปกคลุมไปทั่วทั้งเทือกเขา ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการการแกะสลักน้ำแข็งจากศิลปินระดับโลก ขบวนพาเหรด การแสดงมายากล คอนเสิร์ต นอกจากนั้นยังมีการแข่งขันปั้นตุ๊กตาหิมะ การแข่งขันเลื่อนหิมะ และการวิ่งแข่งมาราธอนหิมะ เป็นต้น 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสุดยอด 6 อุทยานแห่งเกาหลีที่แต่ละแห่งนั้นก็มีชื่อเสียงและมีความงามไม่แพ้กันเลย ซึ่งมัชรูมทราเวลเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 6 แห่งนี้คงจะถูกอกถูกใจทุกท่านไม่มากก็น้อย อีกทั้งยังสามารถเปิดไอเดียใหม่ๆ ของการท่องเที่ยวเกาหลีให้กับใครอีกหลายๆ คนที่รักในธรรมชาติและการปีนเขาได้บ้าง