Menu Blog

วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557

เลาะเลียบ รื่นรมย์ ชม 5 สุดยอดชายหาดแห่งกัมพูชา

หากพูดถึงท้องฟ้าสีคราม หาดขาว น้ำใส ทะเลสวยแล้วล่ะก็ ทะเลไทยย่อมไม่แพ้ชาติใดในโลกอย่างแน่นอน แถมยังอาจพูดได้อย่างเต็มปากว่าสวยงามกว่าทะเลที่ไหนๆ ในโลกเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางแถบชายฝั่งทะเลอันดามัน อย่างหมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ ภูเก็ต พีพี กระบี่ ตรัง พังงา ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกแทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ดี จุดหมายปลายทางที่มัชรูมทราเวลจะนำนักเดินทางทุกท่านไปสำรวจในวันนี้กลับไม่ใช่ทะเลไทยอย่างที่ได้เกริ่นนำในข้างต้น แต่เราจะพาท่านลองเปลี่ยนบรรยากาศ ด้วยการไปสำรวจทะเลประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างประเทศกัมพูชากันดูบ้าง


ราชอาณาจักรกัมพูชาหรือที่คนไทยเรานิยมเรียกติดปากว่า “เขมร” นั้น เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในส่วนใต้ของคาบสมุทรอินโดจีน และมีพรมแดนทิศตะวันตก และทิศเหนือติดต่อกับประเทศไทย รวมทั้งทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ติดกับอ่าวไทยเช่นเดียวกัน โดยมีกรุงพนมเปญเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒธรรมอีกด้วย ส่วนในด้านของการท่องเที่ยวนั้น กัมพูชามีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกในเรื่องของสิ่งก่อสร้างอายุหลายร้อยหลายพันปีที่เรียกว่าอังกอร์ รวมถึงยังมี 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างนครวัดนครธมให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมถึงความยิ่งใหญ่อลังการที่ยากจะเลียนแบบ จนทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจไปว่ากัมพูชานั้นมีที่ให้เที่ยวแค่เพียงปราสาทหรืออังกอร์ ทั้งๆ ที่กัมพูชายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มากกว่านั้น อย่างเช่น 5 สุดยอดชายหาดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในกัมพูชาแห่งนี้นี่เองที่มักจะถูกละเลยจากสายตาของนักท่องเที่ยวชาวไทยเสมอ

1. Southwestern Beach, หมู่เกาะรัง



หมู่เกาะรังถือเป็นหนึ่งในหมู่เกาะที่สวยงามที่สุดของกัมพูชา โดยเป็นหมู่เกาะเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเกาะหมากของไทยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 6 กิโลเมตร โดยจุดเด่นของหมู่เกาะรังก็คือหาดทรายสีขาวที่ล้อมรอบไปด้วยต้นปาล์มและน้ำทะเลสีฟ้าครามซึ่งต้องแสงแดดเป็นประกายระยิบ นอกจากนั้นในบริเวณรอบๆ หมู่เกาะรังยังเต็มไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ที่เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการังเป็นจำนวนมาก ทั้งเกาะรังใหญ่ เกาะรังเล็ก เกาะกระ เกาะทองหลวง ฯลฯ ที่สำคัญคือธรรมชาติของที่นี่ยังคงสมบูรณ์ไม่เปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากลักษณะภูมิประเทศของเกาะที่ไม่มีที่ราบมากพอให้ตั้งบ้านเรือนนั่นเอง

2. Long Set Beach, เกาะรอง 



บริเวณอ่าวทางใต้สุดของเกาะรองซึ่งอยู่ใต้อาณาเขตของหมู่เกาะรังนั้น เป็นที่ตั้งของชายหาดอันประกอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าคราม และผืนทรายสีขาวละเอียด โดยชาวบ้านซึ่งเป็นเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ต่างเรียกขานชายหาดแห่งนี้ว่าหาดยาว และเนื่องจากหาดยาวคือส่วนหนึ่งของหมู่บ้านชาวเกษตร จึงทำให้ที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยต้นมะพร้าว มะม่วง และมะม่วงหิมพานต์ นอกจากนั้นหาดยาวยังเหมาะสำหรับกิจกรรมการอาบแดดที่นักท่องเที่ยวชาติตะวันตกต่างชื่นชอบ ส่วนจุดเด่นอีกอย่างของหาดยาวก็คือ ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง น้ำทะเลจะลดลงมากกว่าปกติจนสามารถมองเห็นเหล่าแลงก์ตอนเรืองแสงได้อย่างชัดเจน 

3. Lazy Beach, เกาะรอง ซาโลม



เลซี่บีชคืออีกหนึ่งชายหาดของกัมพูชาที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมกับร่มเงาของต้นสนที่ทอดโค้งไปตามความยาวของชายหาด และผืนทรายสีทองที่เหมาะสำหรับการทอดกายอาบแดดในช่วงเวลากลางวัน รวมถึงการดำน้ำดูปะการังที่ยังคงสมบูรณ์รอบๆ ชายหาด ส่วนในช่วงเวลาเย็น การได้นั่งจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด เคล้าคลอไปกับวิวสวยๆ ของภาพพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้านั้น ถือเป็นสุดยอดกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองดูสักครั้ง ทั้งนี้เลซี่บีชตั้งอยู่บนเกาะรอง ซาโลมซึ่งอยู่นอกชายฝั่งสีหนุวิลล์ไปประมาณ 2 ชั่วโมง 

4. ชายหาดเกาะทเม็ย, อุทยานแห่งชาติ Ream National Park



ชายหาดเกาะทเม็ย ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ  Ream National Park อันเป็นเกาะเล็กๆ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยป่าโกงกาง และต้นสนสีเทาซึ่งเข้ากันได้ดีกับผืนทรายสีเหลืองทองที่ส่องประกายเรื่อเรืองยามต้องแสงพระอาทิตย์ นอกจากนี้ภายในเกาะยังเต็มไปด้วยนกสายพันธุ์ต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอีกหลากหลายชนิด โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถพักค้างแรมบนเกาะได้ เพราะที่นี่มีบังกะโลเล็กๆ ที่น่ารักให้เช่าค้างคืนอยู่หลายสิบหลังด้วยกัน

5. โสกาบีช, สีหนุวิลล์



โสกาบีชตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสีหนุวิลล์อันเป็นเมืองท่องเที่ยวทางชายทะเลของกัมพูชาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยโสกาบีชนั้นเป็นหาดส่วนตัวของภาคเอกชนสำหรับแขกผู้เข้าพักภายในรีสอร์ทได้ใช้พักผ่อน แต่ก็มีการเปิดพื้นที่บางส่วนให้ประชาชนคนทั่วไปสามารถเข้าไปใช้ได้เช่นกัน โดยโสกาบีชถือว่าเป็นชายหาดที่ดีที่สุดในสีหนุวิลล์ ด้วยหาดทรายสีขาวเนื้อละเอียดที่ทอดยาวมากกว่ากิโลเมตร และความเงียบสงบซึ่งหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง 

วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

7 สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรรู้ ก่อนบินสู่ประเทศมาเลเซีย

มาเลเซียถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ความแตกต่างนี้กลับไม่ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศเพื่อนบ้านของไทยเราประเทศนี้แต่อย่างใด เพราะมาเลเซียสามารถผสมผสานวัฒนธรรมต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างกลมกลืนและมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งเมื่อนำมาประกอบรวมกับความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่น่าทึ่งของผืนแผ่นดินแห่งนี้ด้วยแล้ว มาเลเซียก็กลายเป็นประเทศที่โดดเด่นทางด้านการท่องเที่ยวไม่น้อยหน้าชาติอื่นใดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปโดยปริยาย


ไม่เพียงเท่านั้น ปัจจุบันมาเลเซียกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางจากทั่วโลก ที่อยากเดินทางมาสัมผัสกับดินแดนหลากวัฒนธรรมแห่งนี้ดูสักครั้ง และสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ถึงแม้ว่ามาเลเซียนั้นจะอยู่ใกล้ๆ แค่ปลายด้ามขวาน แต่แน่ใจแล้วหรือว่าคุณรู้จักกับดินแดนแห่งนี้ดีพอแล้ว


1. มาเลเซีย... ใครๆ ก็บินได้



สายการบินแอร์เอเชียถือว่าเป็นสายการบินต้นทุนต่ำหรือที่เรียกว่าโลว์คอสของประเทศมาเลเซีย ที่ได้รับความนิยมไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่หากมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ออกมาเมื่อไหร่ เป็นต้องแย่งชิงกันเสียจนระบบอินเตอร์เน็ตแทบล่ม อันเนื่องมาจากราคาที่ถูกแสนถูก และหลากลายเส้นทางการบิน จึงทำให้ความนิยมของแอร์เอเชียไม่เคยสร่างซาลงไปเลย โดยเส้นทางกรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมาเลเซียก็เป็นหนึ่งในเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากไทยเช่นเดียวกับเส้นทางการบินประเทศอื่นๆ 

2. แท็กซี่ในราคาที่เป็นธรรม หาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร



หากมีการจัดอันดับการให้บริการของรถแท็กซี่จากทั่วโลกแล้วล่ะก็ รถแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการอยู่ทั่วกรุงกัวลาลัมเปอร์นั้นมักจะถูกจัดให้อยู่ในอันดับท้ายตารางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพฤติกรรมของคนขับรถแท็กซี่ในกัวลาลัมเปอร์นี้เป็นปัญหาที่รัฐบาลมาเลเซียพยายามหาทางแก้ไขมานานหลายปี แต่กระนั้นมันก็มิใช่เรื่องง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตาม แม้แท็กซี่ในกัวลาลัมเปอร์จะได้ชื่อว่าค่อนข้างเลวร้าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแท็กซี่ที่ดีๆ จะไม่มีอยู่จริง เพียงแต่นักท่องเที่ยวอาจต้องหาวิธีรับมือด้วยการศึกษาเส้นทางที่ต้องการจะไปให้ดีเสียก่อน รวมทั้งในปัจจุบันยังมีแอพลิเคชั่นสำหรับการเรียกใช้รถแท็กซี่ที่เชื่อถือได้ไว้คอยบริการด้วย

3. เครื่องดื่มยอดนิยมไมโล



ประเทศมาเลเซียถือเป็นตลาดใหญ่ของโลกซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านโกโก้และเครื่องดื่มประเภทมอลต์สกัด นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานไมโลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนั่นก็ทำให้ร้านอาหารไม่ว่าจะเป็นร้านข้างทาง หรือตามร้านฟาสต์ฟู้ดอย่าง KFC, Mc Donalds, Mamak ฯลฯ มีไมโลเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอันดับต้นๆ ที่จะขาดเสียไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการนำไมโลมาดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ ที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย

4. เกาะแห่งสินค้าปลอดภาษี



เกาะลังกาวีเป็นเมืองหนึ่งของรัฐเคดาร์ประเทศมาเลเซีย ซึ่งทางรัฐบาลต้องการโปรโมทให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก คล้ายๆ กับเกาะภูเก็ตของบ้านเรา เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซียเล็งเห็นถึงศักยภาพของเกาะลังกาวีที่นาจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม หากเทียยเคียงกับภูเก็ตแล้ว ลังกาวีถือว่ายังห่างชั้นอยู่มากในเรื่องของความดึงดูดทางธรรมชาติที่ดูเหมือนภูเก็ตจะนำอยู่มากโข แต่ความพยายามของรัฐบาลมาเลเซียก็ไม่ลดละ ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของการทำให้ลังกาวีกลายเป็นเกาะแห่งสินค้าปลอดภาษีจึงถูกนำมาใช้ และปัจจุบันลังกาวีก็ถือว่าประสบความสำเร็จทางด้านการท่องเที่ยวอย่างงดงาม จากยอดของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากชาวไทยที่นิยมมาช้อปปิ้งที่นี่นั่นเอง

5. ความสมบูรณ์ของพันธุ์พืชและสัตว์ป่า



มาเลเซียคือหนึ่งใน 17 ประเทศทั่วโลกที่มีชื่อว่าเป็น Megadiverse Countries อันเป็นกลุ่มประเทศที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทั้งสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยเฉพาะในบริเวณท่าเรือ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ในประเทศพื้นที่เขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อน โดยกล่าวกันว่ามาเลเซียนนั้นเต็มไปด้วยท่าเรือถึง 20% ของโลก อีกทั้งป่าไม้ในมาเลเซียยังมีอายุที่เก่าแก่กว่าร้อยล้านปี ซึ่งถือว่าเป็นอายุที่มากกกว่าป่าอะเมซอนของบราซิลเสียอีก โดยเฉพาะป่าไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทามันเนการาอันเลื่องชื่อและยังมีสถานะเป็นอุทยานแห่งชาติที่แรกของมาเลเซียอีกด้วย

6. อาหารเลื่องชื่อที่ควรลิ้มลอง



หากมีโอกาสได้มาเที่ยวมาเลเซียแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือเรื่องของอาหารการกินนั่นเอง ซึ่งถือเป็นธรรมดาของเมืองหรือประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่จะต้องมีเมนูอาหารอันเลื่องชื่อที่นักท่องเที่ยวต้องไปลองชิมดูสักครั้ง ไม่งั้นอาจถือว่าไปไม่ถึงที่หมายก็ได้ โดยอาหารเลื่องชื่อของมาเลเซียนั้นคือเมนูที่มีชื่อเรียกว่าฉ่าก๋วยเตี๋ยวซึ่งเป็นอาหารจีนยอดนิยมของชาวมาเลย์ทุกเชื้อสาย โดยแต่ละร้านก็จะมีสูตรการผัดและวัตถุดิบที่แตกต่างกันเล็กน้อย อันมีผลจากความหลากหลายทางเชื้อชาติของคนที่นี่ แต่หากนักท่องเที่ยวท่านใดอยากลองลิ้มชิมรสที่เรียกว่าแบบต้นตำรับจริงๆ   ต้องไปที่เกาะปีนังเท่านั้น 

7. ปัญหาของการท่องเที่ยวในช่วงเดือนรอมฎอน



มาเลเซียนั้นเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและหลากหลายวัฒนธรรม  ซึ่งมากกว่าครึ่งของประชากรชาวมาเลเซียทั้งประเทศล้วนนับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้นในช่วงเดือนเก้าตามปฏิทินจันทรคติจึงถือเป็นช่วงเดือนรอมฏอนของพี่น้องชาวมุสลิม ที่ต้องทำพิธีถือศีลอดตลอดทั้งเดือน ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศมาเลเซียในช่วงนี้อาจจะต้องประสบปัญหาบ้างเล็กน้อยในเรื่องของอาหารการกิน รวมทั้งการดื่มเพื่อความบันเทิง ซึ่งร้านค้าที่ดำเนินการโดยชาวมุสลิมจะงดให้บริการในช่วงเวลากลางวัน และไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด แต่สำหรับร้านที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมแล้ว ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ 

วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557

9 เคล็ดลับเตรียมความพร้อม เที่ยวคนเดียวอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

เมื่อพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยว แน่นอนว่าแต่ละคนก็ย่อมมีไลฟ์สไตล์การเที่ยวและความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างเช่น หลายคนอาจเลือกที่จะเที่ยวไปกับบริษัททัวร์ ด้วยเหตุผลจากความสะดวกสบายที่ทุกอย่างบริษัททัวร์จะเป็นผู้จัดสรรให้ทั้งหมด ตั้งแต่ที่พักไปจนถึงอาหารการกิน แต่ก็มีหลายคนอีกเช่นกันที่รักการเดินทางด้วยตัวเอง ซึ่งบางคนก็อาจจะชอบไปเป็นคู่ บางคนชอบเที่ยวคนเดียว บางคนชอบเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ หรืออีกหลายคนชอบที่จะไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเท่านั้น


สำหรับผู้ที่อยากมีประสบการณ์ของการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวที่เรียกว่า “แบ็กแพ็ก” แต่ยังไม่กล้าพอที่จะลอง หรือกังวลเกินกว่าที่จะเก็บกระเป๋าออกเดินทาง ด้วยหลายๆ เหตุผลที่ผุดขึ้นมาในหัว ทั้งเพราะเหตุผลว่ายังไม่เคยเดินทางคนเดียวมาก่อน ทั้งกลัวว่าการไปคนเดียวอาจจะเหงาหรือน่าเบื่อ หรือกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจจะมาถึงตัว แต่หากคุณยอมให้ความกลัวเหล่านั้นเข้ามามีอิทธิพลภายในจิตใจแล้วล่ะก็ คุณก็คงพลาดโอกาสที่จะสัมผัสกับประสบการณ์ที่ล้ำค่ายิ่ง แต่อย่าได้กังวลจนเกินไป เพราะมัชรูมทราเวลมีเคล็ดลับเตรียมความพร้อมสำหรับการผจญภัยแบบฉายเดี่ยวมาฝาก

1. เรียนรู้ที่จะชอบการดินทางแบบตัวคนเดียว



แม้ว่าอาการกลัวต่อความเหงาคืออุปสรรคใหญ่ต่อการเดินทางท่องเที่ยวแบบตัวคนเดียว แต่นี่คือสิ่งที่จะช่วยทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต เนื่องจากการเดินทางคนเดียวนั้นจะทำให้คุณได้เผชิญหน้ากับปัญหาที่บางครั้งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ได้เรียนรู้ถึงความล้มเหลวและจุดแข็งที่มีอยู่ภายในตัว นอกจากนั้นคุณอาจจะได้พบเจอกับสิ่งที่ตัวรักหรือชอบจริงๆ ก็เป็นได้ อีกทั้งข้อดีของการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ การที่คุณสามารถตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ในแต่ละวันได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมานั่งเกรงใจคนอื่นให้เหนื่อยหน่าย ไม่ว่าคุณจะใช้ชีวิตอย่างหรูหราหรือยาจก หรือหากอยากเถลไถลออกนอกเส้นทางที่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกก็ทำได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดใดๆ ต่อใคร

2. ทำการบ้านก่อนออกเดินทาง



ขอบคุณอินเตอร์เน็ตที่ทำให้การค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ ในยุคนี้ทำได้อย่างง่ายดาย สะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่แท้จริงของเว็บไซต์การท่องเที่ยวที่เป็นเว็บทางการนั้นมีวัตถุประสงค์เพียงแค่ดึงดูดผู้เข้าชมให้เห็นถึงความสวยงามของสถานที่เหล่านั้นเท่านั้น แต่มิได้ให้รายละเอียดมากพอทุกแง่มุม ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการข้อมูลในทุกแง่มุมเพื่อใช้วางแผนการเดินทางล่ะก็ เว็บบอร์ดในเว็บไซต์ท่องเที่ยวคือแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดซึ่งคุณจะได้รับจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์จริงๆ มาก่อน

3. ยืนยันตัวตนอยู่เสมอ



ไม่ว่าจุดหมายปลายทางของคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ก่อนตัดสินใจออกเดินทาง ควรตรวจสอบสถานการณ์ของสถานที่หรือประเทศนั้นๆ เสียก่อนว่าปลอดภัยดีอยู่หรือไม่ หรือมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง โดยการตรวจสอบโดยตรงกับกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งควรแจ้งข้อมูลให้สถานทูตให้รับทราบอย่างเป็นทางการว่าคุณได้เดินทางเข้าสู่ประเทศนั้นแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อคุณได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นอย่างกะทันหัน นอกจากนั้นควรติดต่อบอกข่าวคราวสถานที่ต่างๆ ที่คุณอาศัยอยู่ และการเดินทางของคุณให้ครอบครัวและญาติมิตรได้รับทราบอย่างต่อเนื่องด้วย 

4. จัดกระเป๋าเดินทางอย่างฉลาด



เมื่อต้องจัดกระเป๋าออกเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว คุณต้องแน่ใจว่าได้ใส่ของใช้ที่จำเป็นทั้งหมดลงในกระเป๋าแล้วถือขึ้นเครื่องเพื่อกันการสูญหาย โดยต้องตรวจสอบสภาพอากาศของจุดหมายปลายทายเสียก่อนเตรียมเสื้อผ้า รวมถึงควรจะเตรียมรองเท้าที่ใส่สบายๆ ยาสามัญประจำบ้าน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญๆ ติดไปด้วยทุกครั้ง นอกจากนั้นก็ควรแยกเงินสดและบัตรเครดิตไว้ในจุดที่แตกต่างกันหลายๆ จุดเผื่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินนั่นเอง

5. ข้อควรทราบ 



คุณอาจกังวลถึงความปลอดภัย และกังวลว่าของมีค่าอาจสูญหายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวจนทำให้ความสุขที่มีลดน้อยลงไป และจบลงด้วยความเบื่อหน่าย ซึ่งอันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องกลัวหรือกังวลจนเกินไป วิธีหลีกเลี่ยงการเผชิญอันตรายง่ายๆ ของนักท่องเที่ยวก็คือ พยายามอย่าแต่งตัวที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าคุณคือนักท่องเที่ยวด้วยการสวมแว่นกันแดดอยู่ตลอดเวลา และสะพายกล้องถ่ายรูปเดินไปมา รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงที่จะสวมใส่เครื่องประดับราคาแพง นอกจากนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางคนเดียวในยามวิกาล แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ควรเดินทางบนถนนสายหลักและพื้นที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอเท่านั้น 

6. มีความคิดสร้างสรรค์ 



คำว่าความคิดสร้างสรรค์ในที่นี่ก็คือ ความคิดในการระมัดระวังเพื่อที่จะไม่ให้คนแปลกหน้ารู้ว่าคุณเดินทางคนเดียว ซึ่งการโกหกเล็กๆ น้อยๆ ที่เรียกว่าไวท์ไลด้วยการปล่อยให้คนอื่นคิดว่าคุณกำลังรอเพื่อนเดินทางนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดในกรณีนี้ จนกว่าคุณจะแน่ใจว่าพวกเขาไว้ใจได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อหาจุดที่เหมาะสมในการเก็บซ่อนสิ่งของมีค่าแม้ต้องออกจากห้องพักในระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม

7. ตีสนิทกับคนในพื้นที่ 



แน่นอนว่าการเดินทางคนเดียวแม้จะสะดวกสบายและเป็นอิสระเพียงใดก็ตาม แต่บางครั้งมันก็มีอารมณ์ของความเหงาผุดขึ้นมาในจิตใจบ้าง ฉะนั้นการทำความรู้จักพบปะกับเพื่อนใหม่อาจทำให้การเดินทางของคุณสนุกมากขึ้นไปอีก นอกจากนั้น การตีสนิทหรือทำความรู้จักกับผู้คนในพื้นที่เอาไว้บ้าง อย่างเช่นพนักงานโรงแรม ยามรักษาความปลอดภัย คนขับแท็กซี่ ฯลฯ อาจทำให้คุณได้รับทราบถึงข้อมูลใหม่ๆ ของสถานที่นั้นๆ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนก็เป็นได้

8. มีน้ำใจต่อคนรอบข้าง



ถึงแม้จะเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ อย่างการช่วยคนแก่ข้ามถนน การช่วยถือของ การอาสาถ่ายรูปให้ หรือแม้กระทั่งการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในโครงการต่างๆ ฯลฯ แต่นั่นก็สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นได้ ทั้งยังเป็นการเปิดประตูนำไปสู่มิตรภาพใหม่ๆ อีกด้วย ดังนั้นอย่าอิดออดที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อน เพราะสิ่งที่คุณจะได้กลับคืนมานั้น อาจสูงค่ายิ่งกว่าก็ได้

9. หลีกเลี่ยงการคาดหวัง แต่ยอมรับการเผชิญหน้ากับความจริง



หากคุณคือผู้ที่รักความสะดวกสบายประดุจดังการพักผ่อนอยู่กับบ้านแล้วล่ะก็ การเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวคงจะไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณอย่างแน่นอน เพราะระหว่างการเดินทางนั้น คุณอาจต้องพบเจอกับปัญหาต่างๆ ที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้ รวมถึงตลอดทั้งทริปคุณอาจจะไม่ได้สัมผัสกับคำว่าสบายเหมือนกับการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์หรือการล่องเรือสำราญ อย่างไรก็ดี ประสบการณ์ของการเดินทางคนเดียวจะทำให้คุณค้นพบความเชื่อมั่นในตัวเอง และรู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่คุณได้ทำมันคนเดียว 

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557

เคียงกีโด ...ที่สุดแห่งเกาหลี จังหวัดสำหรับการท่องเที่ยวและความบันเทิง

สาธารณรัฐเกาหลีใต้ หรือที่เรียกในชื่อภาษาเกาหลีว่า “แทฮันมินกุก” เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยมีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี ส่วนพรมแดนทางเหนือนั้นติดกับประเทศเกาหลีเหนือ และมีประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีเป็นดั่งปราการกั้นทั้งสองประเทศเอาไว้ โดยเกาหลีใต้ได้แบ่งเขตการปกครองออกเป็นทั้งหมด 8 จังหวัด และอีก 1 จังหวัดปกครองตนเองแบบพิเศษ ซึ่งจังหวัดเคียงกีหรือเคียงกีโดที่มัชรูทราเวลจะแนะนำให้ท่านได้รู้จักนี้ ถือเป็นเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดในเกาหลีใต้ โดยมีเมืองซูวอนทำหน้าที่เป็นเมืองเอกของจังหวัด อีกทั้งกรุงโซลที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนครพิเศษ รวมถึงมหานครอินชอนอันเป็นที่ตั้งของก็ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของเคียงกีโดด้วย เพียงแต่แยกการปกครองออกจากกันเท่านั้น


เคียงกีโดถือเป็นจังหวัดที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก อันเนื่องมาจากการเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจ โดยเป็นที่ตั้งของสถานประกอบการชั้นนำระดับโลกหลายๆ บริษัททั้งภายในประเทศและกิจการข้ามชาติ ยกตัวอย่างเช่น Samsung, LG, Hyundai, Kia เป็นต้น และนั่นจึงทำให้จังหวัดเคียงกีกลายเป็นจังหวัด 1 ใน 5 ของเกาหลีที่มีมูลค่าการส่งออกและจีดีพีสูงที่สุด รวมทั้งยังมีฐานะเป็นจังหวัดที่เศรษฐกิจมีการเติบโตเร็วที่สุดควบด้วย โดยเฉพาะทางด้านโลจิสติกส์ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือจากการมีท่าเรือขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ และอยู่ไม่ไกลจากประเทศจีนมากนัก


สำหรับในเรื่องของการท่องเที่ยว เคียงกีโดถือว่ามีความโชคดีกว่าจังหวัดอื่นๆ ของประเทศ เพราะนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมเกาหลีทั้งยุคโบราณและวัฒนธรรมสมัยใหม่แล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยภูเขา  ทะเลสาบ และชายฝั่งทะเลที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังมีการแบ่งลักษณะการท่องเที่ยวของจังหวัดออกเป็นทั้งหมด 6 เขตด้วยกัน ซึ่งได้แก่ เขตเมืองและปริมณฑล เขตท่องเที่ยวทางทะเล เขตวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เขตวัฒนธรรมแม่น้ำฮัน เขตพักอุทยานบนภูเขา และเขตนิเวศวิทยาสันติภาพ

เขตเมืองและปริมณฑล

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตนี้จะอยู่ภายในเมืองโคยัง ซองนัม ควาชอน อืยวัง อันยัง คุนโพ ควังเมียง บูชอน และยังจู ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเมืองที่มีพื้นที่รายล้อมกรุงโซลอันเป็นเมืองหลวงที่สำคัญของประเทศเอาไว้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กับใจกลางเมือง แต่ก็มีบรรยากาศและมีความเป็นธรรมชาติที่สามารถผสานกับสังคมเมืองได้อย่างสมดุลและกลมกลืน อีกทั้งยังค่อนข้างสงบอีกด้วย โดยสถานที่ชื่อดังในเขตนี้ก็มีศูนย์อวกาศซงอัม, โซลแลนด์, สวนอีลซันโฮซู, อาอินซึ เวิลด์, เขตป่าสงวนตังซุพ และเนินเขาท็อกโคแก, พิพิธภัณฑ์ยุคปัจจุบันแห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติเมืองควาชอน, ตลาดนัดพื้นบ้าน โมรัน, สวนยูลดง, เมืองเพลย์อุงจิง, ถ้ำเหมืองแร่คาฮัก, สวนสัตว์ Theme Zoo “Zoo Zoo”, พิพิธภัณฑ์วัฒนธรมอเมริกากลาง, พิพิธภัณฑ์พื้นที่วัดฮเวอัม


เขตท่องเที่ยวทางทะเล

นักท่องเที่ยวสามารถไปสัมผัสกับระบบนิเวศอันหลากหลายของเคียงกีโดได้ที่เมืองซีฮึง อันซัน ฮวาซอง และเมืองเพียงแท๊ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาดโคลนของทะเลซอแฮที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลตะวันตก นอกจากนั้นเขตการท่องเที่ยวทางทะเลยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายทั้งศูนย์ท่องเที่ยวทะเลสาบเพียงแท็ก, สวนพื้นที่ชุ่มน้ำต้นไม้จำพวกอ้อ ทะเลสาบซีฮวา, เกาะคุกฮวา, เกาะเจบู, เขตซากดึกดำบรรพ์ไข่ไดโนเสาร์, ท่าเรือและสวนสนุกคุงเพียง, เกาะแทบู, พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหมู่บ้านประมงอันซัน, จุดชมวิวบนตะเกียงในเกาะนูเอ, ท่าเรือวอลกด, สวนนิเวศวิทยาร่องน้ำ


เขตวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

ภายในเมืองซูวอน อีชอน ควังชู ยงอิน อันซอง และเมืองโอซัน ถูกกำหนดให้เป็นเขตสำหรับการรักษาวัฒนธรรมโบราณของเกาหลีให้เป็นไปตามสภาพดั้งเดิม โดยสถานที่ต่างๆ นั้นล้วนแล้วแต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศอย่างป้อมฮวาซอง นอกจากนั้นในเขตนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับมาตรฐานระดับโลกอย่างเอเวอร์แลนด์, หมู่บ้านวัฒนธรรมพื้นบ้านเกาหลี, หมู่บ้านอนุรักษ์เครื่องปั้นดินเผาเมืองอีชอน  รวมถึงสวนซอลบง, แหล่งเครื่องเคลือบขาวบุนวอน, สวนรุกขชาติมูลฮยังกี, วัดวาอูจองซา, สวนพืชฮันแทก, คณะการแสดงนัมซาดง และหอเต้นรำแทพยองมู


เขตวัฒนธรรมแม่น้ำฮัน

สถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ภายในเขตวัฒนธรรมแม่น้ำฮันนั้นคือบริเวณเมืองกาเพียง ยังเพียง กูรี นัมยังจู ยอจู และเมืองฮานาม ซึ่งเต็มไปด้วยสถานที่สำหรับการพักผ่อนของครอบครัว คู่รัก หรือเพื่อนสนิทอันหลากลาย โดยจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมากที่สุดคือบริเวณริมทะเลสาบที่เกิดจากแม่น้ำฮันทางทิศใต้ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำฮันทางทิศเหนือที่เหมาะสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำ นอกจากนั้นในเขตนี้ยังมีภูเขาที่มีชื่อเสียงในเรื่องทิวทัศน์อันงดงามอย่างภูเขายูเมียงและภูเขายงมุน, หมู่บ้านโรงตีเหล็กสมัยราชวงศ์โคคุรยอ, วัดซินรึกซา, สุสานพระเจ้าเซจง, โรงถ่ายเมืองนัมยังจู, ดูมูลมอรี, สวน Morning Clam,  เขตป่าสงวนซันอึม, สนามกีฬาการพายเรือเขตมีซาลี, ทะเลสาบชองเพียง, ศูนย์ศึกษาเครื่องเคลือบนานาชาติ


เขตพักอุทยานบนภูเขา

ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของเมืองอืยจองบู ดงดูชอน และโพชอน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และชื่นชมธรรมชาติบนภูเขาได้แม้ในเขตมหานคร ไม่ว่าจะเป็นภูเขาโซโย, ทะเลสาบซันจอง, โพชอนอาร์ทเวลลีย์, วัดมังวอลซา, วัดฮวารโยงซา, น้ำตกวังบัง, สวนสมุนไพรโพชอน


เขตนิเวศวิทยาสันติภาพ

เขตนิเวศวิทยาสันติภาพคือพื้นที่ที่แม้ว่าจะอยู่ใกล้กับแนวสงบศึกชั่วคราวระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ แต่ก็มีความปลอดภัยสูง นอกจากนั้นยังเป็นบริเวณที่สามารถสร้างความตื่นเต้น เงียบสงบ และลุ้นระทึกได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถมองเห็นดินแดนของเกาหลีเหนือที่มีทหารของทั้งสองฝ่ายยืนประจันหน้ากันได้อย่างชัดเจน ณ หมู่บ้านพันมุนจอม และอิมจินคัดที่ให้ความรู้สึกถึงความปรารถนาของการรวมชาติเป็นหนึ่งเดียว นอกจากนั้นที่นี่ยังมีท่าเรือแทเมียง, หมู่บ้านศิลปะเฮอิรี, หมู่บ้านภาษาอังกฤษเมืองเคียงกี พาจูแคมป์, สวนสันติภาพภูเขาโดรา, สวนประติมากรรมระหว่างประเทศคิมโพ, จุดชมวิวกุญแจ, สถานที่โบราณจอนก๊ก-รี เมืองยอนชอน


นอกจากเคียงกีโดจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายตามที่กล่าวไปแล้ว จังหวัดแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยสีสันของฤดูกาลต่างๆ รวมไปถึงงานเทศกาลที่สืบสานมาตั้งแต่โบราณก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็นจังหวัดแห่งการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั่นเอง