ชางงีบีชปาร์คคือหนึ่งในสวนสาธารณะริมชายฝั่งทะเลที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนของครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อมาปิกนิกและสนุกกับกิจกรรมต่างๆ อย่างการตกปลา ว่ายน้ำ ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน เป็นต้น เนื่องจากที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบหากเทียบกับแหล่งอื่นๆ ของสิงคโปร์ ทั้งที่หากย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่นี่คืออีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่น่ากลัวที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งชาวจีนจำนวนมากถูกกองทัพญี่ปุ่นสังหารอย่างโหดเหี้ยม ณ บริเวณนี้ และทำให้ชายหาดชางงีกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งสยองขวัญของเอเชียที่มีเรื่องราวกล่าวขานเกี่ยวกับวิญญาณของเชลยสงครามที่ยังสิงสู่อยู่ที่นี่มาจนถึงปัจจุบัน
โดยเหตุการณ์อันเป็นที่มาของเหตุสยองขวัญในบริเวณชางงีบีชนี้เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพเรือแห่งญี่ปุ่นได้ยกพลบุกสิงคโปร์ซึ่งมีฐานะเป็นฐานทัพของทหารฝ่ายพันธมิตรแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1942 จนก่อให้เกิดการต่อสู้อย่างรุนแรงในช่วงวันที่ 8-15 กุมภาพันธ์ของปีเดียวกัน ก่อนที่สิงคโปร์จะตกอยู่ในเงื้อมมือของกองทัพญี่ปุ่นในที่สุด และชางงีบีชก็ได้กลายมาเป็นค่ายกักกันเชลยเป็นพันๆ คนที่มีทั้งทหารและพลเรือนของอังกฤษ จีน และออสเตรเลีย ซึ่งพวกเขาทั้งถูกใช้งาน ทำร้ายร่างกาย และถูกฆ่าอย่างทรมาน
วันนี้แม้มุมหนึ่งของชางงีบีชจะขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ถูกกล่าวขานว่ามีผีสิงมากที่สุดในเอเชีย ซึ่งเล่าลือกันมาแบบปากต่อปากทั้งจากคนภายในพื้นที่เองและนักท่องเที่ยว ที่เล่าว่าพวกเขาเคยได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดซึ่งหาที่มาของต้นเสียงไม่ได้ หรือบางครั้งก็เห็นคราบเลือดบนพื้นทราย และแม้แต่เสียงล่ำลือถึงวิญญาณไร้หัวที่เดินวนเวียนไปมาบนชายหาด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชางงีบีชร้างนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด ด้วยความสวยงามและเงียบสงบของธรรมชาติที่นี่ที่สามารถเอาชนะความดำมืดของประวัติศาสตร์ไปได้แบบสบายๆ อีกทั้งนักท่องเที่ยวหลายๆ คนยังมุ่งหน้ามาที่นี่เพื่อต้องการพิสูจน์ความน่ากลัวด้วยสายตาของตัวเอง และทั้งหมดนี้ก็คือความสวยปนสยองของชางงีบีชที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากทุกท่านในวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น