วันนี้ “มัชรูมทราเวล” จะชวนทุกท่านขึ้นเรือสำราญลำใหญ่เพื่อไปสำรวจเกาะแก่งแห่งอินโดนีเซียกัน โดยเราจะเร่งเรือเดินหน้าเต็มสูบไปทางทิศตะวันออกของเกาะชวาอันเป็นที่ตั้งของหมู่เกาะซุนดาน้อย โดยจุดมุ่งหมายของเราก็คือเกาะเล็กๆ ที่มีชื่อว่า “เกาะโคโมโด” ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซุนดาน้อยซึ่งเกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีตจนกลายเป็นเกาะขนาด 75 ตารางไมล์ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศน์อันหลากหลายนั่นเอง
(หมู่เกาะซุนดาน้อย และเกาะโคโมโดซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะชวา)
(บรรดาเรือสำราญและเรือรับจ้างทั่วไปที่พานักท่องเที่ยวมุ่งหน้ามายังเกาะโคโมโด)
หากมองจากภายนอก เกาะโคโมโดนั้นถือเป็นเกาะที่มีความงามเข้าขั้นสมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่งของโลก ด้วยภูเขาสีเขียวอันเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์จำนวน 25 ชนิด น้ำทะเลสีฟ้าใสที่เต็มไปด้วยแนวปะการังและฝูงปลาหลากสี และหาดทรายสีชมพูเนื้อละเอียด 1 ใน 7 แห่งของโลก แต่ใครเลยจะคิดว่าภายในเกาะที่ดูคล้ายกับสวรรค์บนดินแห่งนี้ กลับแฝงไปด้วยอันตรายอย่างยิ่งยวดจากสัตว์นักล่าที่มีนามว่า “มังกรโคโมโด” กิ้งก่าตัวยักษ์ที่เหลือรอดมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะในช่วง 100 ปีก่อนที่มนุษย์จะเข้ามายึดครองดินแดนแห่งนี้ มังกรโคโมโดนั้นคือสัตว์นักล่าที่ยิ่งใหญ่ประจำเกาะที่ใครๆ ก็ต่างกริ่งเกรง เพราะไม่เพียงแต่สัตว์ป่าตัวอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ภายในเกาะเท่านั้นที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับพวกมัน แต่มนุษย์เองก็เคยตกเป็นเหยื่อของพวกมันด้วยเช่นเดียวกัน อย่างเช่นในปี 1974 เมื่อนักท่องเที่ยวชาวสวีเดนที่เดินทางมายังเกาะแห่งนี้ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่เพียงเท่านั้น ต่อมาเมื่อชาวอินโดนีเซียจำนวนหนึ่งย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่นี่ หลายครั้งเช่นกันที่เด็กชาวบ้านก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
(ธรรมชาติที่สวยงามและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของเกาะโคโมโด)
(หาดทรายสีชมพูเนื้อละเอียด 1 ใน 7 แห่งของโลก)
(มังกรนักล่าแห่งเกาะโคโมโด)
แต่แล้ว... เมื่อวันเวลาที่ผันผ่านนั้นมาพร้อมกับความเจริญที่มีมากขึ้น มังกรนักล่าแห่งเกาะโคโมโดก็เปลี่ยนฐานะจากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง จนทำให้ปัจจุบันสถานะของมังกรโคโมโดเข้าขั้นเกือบสูญพันธุ์เต็มที ดังนั้นทางการอินโดนีเซียจึงต้องมีมาตรการเพื่อคุ้มครองพวกมันเอาไว้ และแต่งตั้งให้เกาะโคโมโดเป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อป้องกันการรุกรานจากน้ำมือมนุษย์ นอกจากนั้นองค์การยูเนสโกยังได้รับรองให้ที่นี่เป็นมรดกโลกในปี 1991 อีกทั้งเกาะโคโมโดยังได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งใหม่ของโลกในปี 2011 อีกด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศอินโดนีเซียไปในที่สุด
มัชรูมทราเวล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น