ฮ่องกง ถือเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทางด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งตึกสูงระฟ้า อาคารทันสมัย ตลาดขายของ ช็อปได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ
“มัชรูม ทราเวล” เชื่อว่าหากท่านได้ไปเยือนเกาะมหัศจรรย์แห่งนี้ เหมือนกับการเติมเต็มแบคเตอรี่ และให้รางวัลชีวิตตัวเอง ก่อนกลับไปทำงาน ตามไปดูกันว่ากันดีกว่าจ้า
วันที่ 1
เราออกจากกรุงเทพสายๆ บินสู่ฮ่องกง ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกง (เวลาในฮ่องกงจะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง ซึ่งใกล้เคียงกับประเทศไทยมาก ดังนั้นท่านจึงไม่มีปัญหาในเรื่องเวลาที่แตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ควรเปลี่ยนเวลา)
โปรแกรมสำหรับวันที่ 1 เรามาถึงที่ฮ่องกงก็บ่ายแก่ๆ แล้ว อันดับแรก เราคงต้องเข้าโรงแรม-ที่พัก เพื่อไปอาบน้ำ อาบท่า และรับประทานอาหารกันให้เรียบร้อน ก่อนตะลุยสถานที่ท่องเที่ยวของเกาะนี้ ในช่วงเย็นๆ ค่ำๆ
ช่วงค่ำๆ แนะนำเที่ยวชม Avenue of Star ดีกว่า เพื่อพบกับความมหัศจรรย์แสงสีตระการตา Symphony of Lights เป็นการแสดงมัลติมีเดีย เรียกว่าสุดยอดตระการตา ที่สำคัญได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นการแสดงแสงและเสียงถาวรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
การแสดงนี้ผสมผสานการแสดง แสง สี เสียง จัดแสดงบริเวณอาคารสำคัญๆ 44 แห่ง บนเกาะฮ่องกง ครอบคลุมพื้นที่อาคารตึกระฟ้าสำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่สองฟากฝั่งของอ่าววิคตอเรียโดยบนดาดฟ้าของตึกเหล่านี้ ประดับไปด้วยแสงไฟ ซึ่งเพียงกดสวิตช์ก็จะส่องแสงสว่างตระการตาเป็นสีต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศอันคึกคักของฮ่องกง
พบกับความมหัศจรรย์ เริ่มต้นในเวลา 20.00 น.ทุกค่ำคืน ใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที มีการยิงแสงเลเซอร์เป็นจังหวะเข้ากับเพลงคลาสสิค ไพเราะ งดงามตระการตามาก เรียกว่าใช้ทุกอย่างที่มีบนเกาะแห่งนี้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างสร้างสรรจริงๆ สวยงามอลังการขนาดนี้ พลาดไม่ได้ ถ่ายรูป อัดวิดีโอ ให้จุใจ ก่อนกลับไปโรงแรม
วันที่ 2
เช้าวันนี้ แนะนำไปเยือน หาด Repulse Bay เป็นหาดทรายรูปจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่สวยงามแห่งหนึ่ง มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองชาวประมง โดดเด่นยืนอยู่กลางสวนสวยงามที่ทอดยาวลงสู่ชาดหาด ให้ได้นมัสการขอพรเพื่อสิริมงคล
แล้วจึงพากันเดินข้ามสะพานต่ออายุ ซึ่งเชื่อว่าข้าม 1 ครั้งจะมีอายุเพิ่มขึ้น 7 ปี แต่ต้องไม่เดินย้อนกลับทางเดิม เพราะอายุจะลดลง ตบท้ายด้วยการไปโยนเหรียญที่ปากปลายักษ์ใหญ่ หากโยนเหรียญเข้าปากปลาได้ คำอธิษฐานนั้นจะเป็นจริง แต่โยนเหรียญได้ไม่เกิน 9 ครั้งเท่านั้น ทุกท่านจึงตั้งจิตอธิฐานสลับกันโยนเหรียญกันใหญ่ ซึ่งโยนเข้าปากปากยากมากเพราะตัวปลาสูง แต่ก็พยายามกันสุดความสามารถ
ช่วงบ่าย ไปเดินทางเที่ยว ยอดเขา Victoria Peak ถือเป็น High Light ของฮ่องกง ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเขาในฝั่งฮ่องกง ได้ถูกพัฒนาเป็นจุดชมวิว the Peak ซึ่งมี พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง Madame Tussauds ที่รวบรวมหุ่นดาราดังๆ และบุคคลป๊อบปูล่าจากทั่วโลกมากมาย เช่น Angelina Jolie ยืนคู่กับ แบรด พิท Brad Pit, ทอม ครู๊ซ Tom Cruise, นิโคล คิดแมน Nicole Kidman, จอร์จ คูนี่ George Clooney เป็นต้น
ท่านสามารถถ่ายรูปคู่กับหุ่นขี้ผึ้งกัน
หลังจากนั้น เราเดินไปอีกซัก 100 เมตร เพื่อดูจุดชมวิวสูงสุดของ ยอดเขา Victoria Peak สูงจากระดับน้ำทะเล 552 เมตร นับว่าสูงที่สุดแล้วบนเกาะฮ่องกง บนยอดเขาแห่งนี้ เรามองเห็นทัศยภาพทั้งหมดของเกาะ ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ของอ่าววิคตอเรีย ตึกระฟ้า เรือเฟอร์รี่ และสีสันที่งดงามยามค่ำคืน จนได้ชื่อว่า ที่นี่...เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเกาะฮ่องกงเลยทีเดียว
ต่อด้วยการแวะเยี่ยม โรงงาน Hong Kong Jewelry ดีกว่า เพราะที่นี่ เขาขายจิวเวลรี่ตามหลักฮวงจุ้ย โดยเฉพาะ “จี๋กังหันหมุนได้” สวยดี คนฮ่องกงเชื่อกันว่า กังหันนี้ช่วยพัดพาความโชคร้ายออกไปจากชีวิต และนำพาสิ่งดีเข้าตัวสำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจ
แล้วเดินทางต่อไปยัง เกาะลันเตา...สัมผัสกับประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ นั่งกระเช้าลอยฟ้านองปิงข้ามเขา 3 ลูก ประมาณ 25 นาที ชมทัศนียภาพอันงดงามแบบพาโนรามิค กระเช้านี้เชื่อมจากใจกลางเมืองตุงชุงถึงหมู่บ้านนองปิงบนเกาะลันเตา ระยะทาง กว่า 5.7 เห็นทิวทัศน์ของเนินเขาอันเขียวขจี ลำธาร น้ำตกและป่าอันเขียวชอุ่มของอุทยานลันเตาเหนือ วิวสวยจัง อากาศก็ดี ลมเย็น สบาย
เมื่อไปถึงสุดทาง ต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 200 ขั้น เพื่อขึ้นไปนมัสการพระใหญ่ที่วัดโป่หลิน หรือ ที่นิยมเรียกว่า พระใหญ่ลันเตา เป็นองค์พระสร้างจากการเชื่อมแผ่นสัมฤทธิ์ถึง 200 แผ่น หนัก 250 ตัน และสูง 34 เมตร พระพุทธรูปนี้เป็นทองสัมฤทธิ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก องค์พระหันพระพักตร์ไปยังเนินเขาเบื้องล่างบริเวณทะเลจีนใต้ ไหว้พระแล้วรู้สึกสบายใจ อากาศบนเขาก็ดี สดชื่น ก่อนกลับไปโรงแรม-ที่พัก นอนหลับอย่างมีความสุข
วันที่ 3
วันนี้ทั้งวัน แนะนำให้มาท่องดินแดนมหัศจรรย์ "ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์" เป็นสวนสนุกในฝันของหลายๆคน ได้สนุกย้อนวัยเด็ก แบบเต็มๆ วัน กับเครื่องเล่นอันทันสมัย ที่แบ่งพื้นที่สวนสนุกออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ แฟนตาซีแลนด์, ทูมอโรว์แลนด์ และแอดเวนเจอร์แลนด์ พร้อมท้าทายความหวาดเสียว กับเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลต์ของสวนสนุกคือ "สเปซ เมาท์เทน" และ "บัซ ไลต์เยียร์" และได้เห็นตัวการ์ตูนเป็นๆ และถ่ายรูปกับเหล่าการ์ตูนในโลกนิยาย อาทิ มิกกี้เม้าส์, สโนไวท์, ซินเดอเรลลา, หมีพูห์ เป็นต้น
มาถึงที่นี่ พลาดไม่ได้กับการรอดูพลุนะจ๊ะ เริ่มแสดงเวลาประมาณ 20.30 น. ใช้เวลา 15 นาที รอนาน แต่สวยตื่นตามาก ประกอบด้วยแสงสีเสียง ครบครัน พร้อมทั้งการยิงประกบ พลุ มีเพลงดีสนีย์ประกอบด้วย สร้างความอลังการ สวยงาม สมคำร่ำลือจริงๆ
วันที่ 4
ฮ่องกง ได้ชื่ว่าเป็นศูนย์รวมแฟชั่นชั้นนำ ฉะนั้น พลาดไม่ได้กับการช็อปปิ้ง ให้เวลา 1 วันเต็มๆ เลยจ้า เช้านี้ แนะไป ถนนนาธาน (จิมซาจุ่ย) ย่านเซ็นทรัล ก่อน มีรถรางบริการวิ่งภายในเกาะฮ่องกง ช่างสะดวกสบายจริงๆ เพราะเพียงไม่กี่นาที รถรางก็พามาถึงยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการแถวย่านเซ็นทรัลแล้ว
ย่านถนนนาธาน หรือเรียกว่า จิมซาจุ่ย เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วทุกมุมโลก ให้ได้เลือกซื้อสินค้าประเภทต่างๆ อย่างจุใจ ที่นี่...เปรียบได้ดั่งเหมืองทองคำที่ทำรายได้มหาศาล เป็นถนนที่มีบรรยากาศคึกคัก ไม่ว่าเราจะมีรสนิยมแบบไหนหรืองบประมาณเท่าใดศูนย์การค้าชั้นเลิศของฮ่องกง มีทุกสิ่งที่คุณต้องการศูนย์การค้าที่กว้างขวางเหล่านี้ เป็นแหล่งรวมห้องเสื้อที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมของ ดีไซเนอร์นานาชาติชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลกอีก ทั้งยังเป็นที่ที่ท่านสามารถจะอิ่มเอมกับอาหารชั้นเลิศบรรยากาศ
บ่ายๆ แนะแบ่งเวลาไปเดินเที่ยว ตลาดหมงก๊อก หรือ ย่านมงก๊ก เป็นย่านการค้าสำคัญในเขต Yau Tsim Mong ของฮ่องกงอยู่ในเกาลูน มีตลาดและศูนย์การค้าจำนวนมาก ลงในกินเนสส์บุ๊กด้วยว่า มงก๊ก เป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลกประมาณ 130,000 ต่อตรม. มีถนน 3 สายในการตั้งร้านค้าต่างๆ
ถนนสายที่1 เป็นตลาดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า,โทรศัพท์มือถือต่างๆ, ถนนที่2 เป็นเลดี้มาเก็ตขายสินค้าสำหรับผู้หญิงเช่นเสื้อผ้า,กระเป๋า,เครื่องสำอาง ถนนสายสุดท้ายเป็น Sport street ขายสินค้าสำหรับผู้ชาย ต่อรองราคาได้ เปิดตั้งแต่เที่ยง-ห้าทุ่ม บรรยากาศจอแจน่าจับจ่ายของ ต่อรองสินค้ากันสนุก ช้อปสนุก มีสินค้าน่ารักๆ ให้เลือกมากมาย จนลานตา เล่นทำเอากระเป๋าเบาไปเลย ฮ่องกง ชอบมีเทศกาลลดราคาสินค้าอยู่เรื่อยๆ เป็นใครจะอดใจไหว ช็อปๆๆๆ ก่อนกลับโรงแรม
วันที่ 5
ก่อนบินกลับกรุงเทพฯ เที่ยวตบท้าย ที่ “ฮ่องกงโอเชียนปาร์ค” เป็นสวนสนุกเริ่มแรกก่อนดีสนีย์ มีเครื่องเล่นมากมาย มี 2 โซน คือ “โซนโลว์แลนด์” ชั้นล่าง มีพวกของเล่นเด็กๆ เป็นส่วนใหญ่ เช่น สนามแข่งรถกรังด์ปรีซ์, วิดีโอสเตชั่น สระปลาทองหมีแพนด้า, บ้านผีเสื้อม อะเมซอน, ลานแสดงของนก,ห้องมิติพิศวง, โรงละครเด็ก, ม้าหมุน และส่วนที่เป็น “โซนเฮดแลนด์” อยู่ชั้นบนยอดเขา ชึ่งต้องนั่งกระเช้าขึ้น แล้วลงโดยรถไฟ เพื่อข้ามเขา 1 ลูก ไปเล่นเครื่องเล่น
สำหรับ “โซนเฮดแลนด์” นี้ มีเครื่องเล่นน่าสนใจ เช่น รถไฟตีลังกา, แกรนด์แคนย่อน, การแสดงปลาโลมาและสิงโตทะเลที่โอเชี่ยนเธียเตอร์ น่ารักมากๆ เป็นสัตว์แสนรู้จริงๆ
เชื่อว่าทุกๆ ท่านคงประทับใจกับ เกาะฮ่องกง จนอาจต้องหาเวลาว่างมาเที่ยวที่นี่อีก ที่ชอบมากๆ คงเป็นสถานที่ช้อปปิ้งหลากหลาย ที่สำคัยต่อรองราคาได้ด้วย และการได้มาไหว้พระใหญ่นอร์ปิงและเจ้าแม่กวนอิมเพื่อสิริมงคลถือเป็นความสุขใจสบายใจมากๆ วิวทิวทัศน์บ้านเขาก็สวยงาม แล้วยังได้สนุกย้อนวัยกับดินแดนในฝันที่ดีสนีย์แลนด์ด้วย
การเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง ถือเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไม่ยุ่งยาก แม้จะไม่เคยมาที่นี่ก็ตาม เนื่องจากการเข้าประเทศฮ่องกงไม่ต้องใช้วีซ่า ภายใน 14 วัน เพียงแต่ควรจะจองโรงแรม-ที่พัก, ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กับบริษัททัวร์ ราคาประมาณท่านละ 20,000 บาท ไม่รวมช้อปปิ้ง ก็สามารถตะลุย ฮ่องกง ได้อย่างสำราญใจ ลองหาเวลาว่างเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงเอง ฝากถ่ายรูปมาเยอะๆ มาอวดกันนะจ๊ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น