“มัชรูมทราเวล” แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงปารีส ที่น่าสัมผัสกับความเป็น "ปารีส" อย่างแท้จริง
1. ล่องเรือเลียบแม่น้ำเซน
การล่องเรือในยามใกล้ค่ำเป็นทางเลือกที่ดี เรียกว่า สุดยอดโรแมนติกทีเดียว ได้สัมผัสความน่ารักของเมืองปารีสกันเต็มที่ ว่ากันว่า “แม่น้ำแซน” เป็นแม่น้ำสายหลักทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองปารีสเลยจ้า เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1949 มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการแล้วกว่า 100 ล้านคนแล้ว
การล่องเรือได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง ในการเที่ยวชมผ่านสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองริมสองฝั่งแม่น้ำแซน ที่มีตึกสวยงามเพียบ บางช่วงมีเกาะกลางน้ำ เช่น ผ่านชม โบสถ์นอร์ทเทรอดาม สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษก นโปเลียนขึ้นครองราชย์ มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี
ผ่านหอไอเฟล ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 โครงสร้างเป็นทำด้วยเหล็กทั้งหมด ถือเป็นสัญลักษณ์ ของเมืองปารีสอยู่จนถึงทุกวันนี้
ผ่านชมความงดงามโบราณสถานและอาคารเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นตามสไตล์ของศิลปะเรอเนสซองส์ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ดูแลเป็นอย่างดี ตลอดทางได้ความประทับใจกับความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีส ได้ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
อย่างไรก็ตาม การนั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกดินนั้น ท่านควรเลือกที่นั่งหลังสุด เพราะเป็นบริเวณที่ไม่มีหลังคา ไม่ล้อมด้วยกระจก และบริเวณนี้คือ จุดชมวิวดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพสวยๆ ยามพระอาทิตย์ตก ยิ่งพอลมแม่น้ำปะทะหน้า ทำให้รู้สึกสดชื่นมากๆ เห็นวิวสองฝั่งแม้น้ำเต็มตา สดชื่น ประทับใจไม่รู้ลืม
2. หอไอเฟล
มาถึงปารีสแล้ว ทุกคนที่มาเยือน หอไอเฟล ถ่ายรูป และเดินเล่นกันที่นี่ หอไอเฟลไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปารีสเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสด้วย
หอนี้เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังสุดแห่งหนึ่งของโลก สร้างด้วยเหล็กล้วนสูง 324 เมตร หนัก 10,000 ตัน ออกแบบโดยวิศวกรชื่อ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี ค.ศ.1887-1889 ถือเป็นสิ่งก่อสร้างสูงที่สุดอันดับที่ 5 ในประเทศฝรั่งเศสและสูงที่สุดในกรุงปารีส และกลายเป็นสถานที่ยอดนิยม ที่ใครต่อใครที่มาปารีสต้องถ่ายรูปตามธรรมเนียม
หากท่านใดไม่ได้ไปเยือนหอไอเฟล ถือว่าไปไม่ถึงฝรั่งเศสเลยทีเดียว ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวกว่า 60 ล้านคน (โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน) แนะนำให้ท่านไปเที่ยวชมช่วงเช้าหรือหลัง 6 โมงเย็น หรือในวันธรรมดา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรอคิวเป็นเวลานาน
การไปเที่ยวชม หอไอเฟล ท่านสามารถขึ้นชมทัศนียภาพรอบกรุงปารีสได้โดยลิฟ ซื้อบัตรได้ที่บูธ ซึ่งอยู่บริเวณฐานของหอไอเฟล แล้วขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นต่างๆ ของหอไอเฟล พอขึ้นไปถึง จะรู้สึกดีใจ ว่าเราได้มาถึงที่ปารีสอย่างแท้จริงแล้ว
ยามค่ำคืน ที่นี่..เปิดไฟสวยงามมาก และมุมดีที่สุดในการถ่ายภาพหอไอเฟล คือ บริเวณ Trocadero ได้ชมวิวได้สูงถึงยอดหอ ซึ่งมีร้านอาหารสามารถนั่งชมวิวได้ทั่วทั้งกรุงปารีส และชมความงามของแม่น้ำเซนได้ด้วย เรียกว่า บรรยากาศเลิศ หรู งดงาม น่าประทับใจเลยทีเดียว
3. โบสถ์นอทเทอร์ดัม
โบสถ์นอทเทอร์ดัม เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงปารีส ที่เคียงคู่กับเมืองปารีสมาช้านานแล้ว เป็นสถานที่สำคัญสุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส เคยใช้เป็นสถานที่ราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์อีกด้วย
ปัจจุบัน วิหารนี้เป็นวัดของนิกายโรมันคาทอลิก เป็นที่นั่งของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส มีลักษณะกอธิคแบบฝรั่งเศส ด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมงดงามมาก ตกแต่งด้วยศิลปะแบบกระจกสี หรือ สเตนแกลส มีชื่อเสียงด้านความใหญ่โตหรูหรา
ช่างน่าแปลกจัง แม้จะมีผู้คนพลุกพล่านอยู่รอบๆ ตัวเต็มไปหมด แต่เมื่อก้าวพ้นประตูมหาวิหารเข้าไปแล้ว ทุกคนจะเดินชมวิหารด้วยอาการสงบจนแทบได้ยินเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้น
นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ ต้องยืนตะลึงกับความอลังการของโบสถ์นอทเทอร์ดัม อีกทั้งยังต้องขึ้นบันได 387 ขั้นเพื่อไปถึงยอดโบสถ์ที่มีความงดงามมาก และมีรูปปั้นด้านหน้าของพระแม่มารี อันเป็นที่ศรัทธาของคริสต์ศาสนิกชน โดยเฉพาะการได้ไปเที่ยมชมโบสถ์ช่วงเช้า จะเห็นดวงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับซุ้มประตูทางทิศตะวันตกของโบสถ์ มองดูแล้วเหมือนเป็นประกายเพชรที่ระยิบระยับจับตา เพิ่มความหรูหราให้กับโบสถ์
4. โบสถ์แซงต์ ชาแปลล์
ถัดจากโบสถ์นอทเทอร์ดัม มี โบสถ์แซงต์ ชาแปลล์ ที่มีฐานะเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1862 เป็นวัดคริสต์ศาสนาของนิกาโรมันคาทอลิกและสิ่งก่อสร้างแบบกอธิคสวยงามสุดของสถาปัตยกรรมแรยอน็อง ตั้งอยู่ลานของพระราชวังหลวงสร้างขึ้น เพื่อเป็นที่เก็บรักษาวัตถุมงคลของแซ็งต์-ชาแปล ที่รวมทั้งมงกุฎหนามของพระเยซู, ภาพเอเดสซา และวัตถุมงคลอื่น ๆ เกี่ยวกับพระเยซูอีกสามสิบชิ้นที่เดิมเป็นของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9
โบสถ์นี้ เป็นโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวปารีส สิ่งที่เด่นที่สุด คือ หน้าต่างประดับกระจกสีที่แคบและสูงและตกแต่งด้วยกระจกที่เป็นสีแพรวพราว มีหน้าต่างกุหลาบมาเพิ่มเติมบนชั้นบนของชาเปล ภายหลังในคริสต์ศตวรรษที่ 15
นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมต่างยอมรับว่ากระจกที่ใช้ตกแต่งโบสถ์มีความงดงามที่สุด ยิ่งเมื่อแสงจากภายนอกส่องเข้ามา ยิ่งทำให้มองเห็นลายกระจกชัดเจนและสวยงามมาก และการเยี่ยมชมโบสถ์แซงต์ ชาแปลล์ ในช่วงเช้าเป็นเวลาที่ดีสุด เพราะนักท่องเที่ยวไม่เยอะ จะได้ชื่นชมความงามอย่างสบายอารมณ์
5. ถนนฌ็องเซลิเซ่
ถนนฌ็องเซลิเซ่ หรือ Avenue Des Champs Elysees ได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนสวยที่สุดในโลกและมีชื่อเสียงที่สุดในกรุงปารีส ออกแบบโดย André Le Notre มีความยาว 2 กิโลเมตร เคยใช้เป็นถนนที่นำพระศพของนโปเลียนกลับสู่ฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1840 รวมทั้ง ยังเป็นย่านการค้า ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงหนัง ร้านค้าปลีก ภัตตาคาร ร้านกาแฟ รวมถึง แฟชั่นทันสมัย ร้านบูติกระดับโลกต่างพากันมารวมตัวอยู่ที่นี่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหลุยส์วีตอง ชาร์ลจูดอง เวอร์ซาเช่ เป็นต้น
สองข้างทางมีต้นเชสต์นัตที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม และปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา โดยมีอัตราค่าเช่าสูงถึงประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี สำหรับพื้นที่ 93 ตารางเมตร ซึ่งนับว่าเป็นอัตราค่าเช่าที่สูงที่สุดในยุโรปด้วย
6. ประตูชัยนโปเลียน
ประตูชัย หรือ Arc de Triomphe ประตูชัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ จัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกล ซึ่งเป็นที่ตั้งของประตูชัย สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 1 ในปีค.ศ. 1810 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของพระองค์ในหลายๆสมรภูมิรบ ออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อ ชาลแกรง ใหญ่ โตโอ่อ่าเพื่อให้สมศักดิ์ศรีและพระเกียรติของนโปเลียน ที่เป็นกษัตริย์ที่มีความยิ่งใหญ่ในการรบ
ที่นี่ ใช้เวลาสร้างนานถึง 30 ปี สูง 50 เมตร เสาทั้ง 4 ด้าน ประดับด้วยรูปสลักนูนที่รำลึกถึงชัยชนะสงคราม การจะขึ้นไปชมวิวบนยอดได้ ต้องเสียค่าบัตรประมาณ 7 ยูโร แล้วเดินขึ้นบันไดวนไปจนถึงหลังคา ไม่มีลิฟท์นะจ๊ะ
ส่วนด้านบนมีลักษณะเป็นโถงขนาดใหญ่ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม มีร้านขายของที่ระลึก หากเดินขึ้นบันได้ไปอีก ถึงลานกว้างในส่วนของหลังคาประตูชัย จุดนี้สามารถชมทิวทัศน์ได้เกือบทั่วเมืองปารีส โดยมองจากหลังคาประตูชัย เห็นหอไอเฟลโดย และถนนชองป์เซลิเซ่ทั้งสาย ด้วยอากาศเย็นสบายๆ แสงแดดอุ่นๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น ท้องฟ้าแจ่มใส มีเมฆเป็นหย่อมๆ สวยงาม จนต้องบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึกว่าได้ถ่ายรูปกับประตูเมืองนครปารีส สัญลักษณ์ที่สำคัญของฝรั่งเศสแล้ว
7. เลแซงวาลิด
เลแซงวาลิด เป็นอาคารที่มีโดมสวยงาม ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1714 ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อเป็นโรงพยาบาลที่พักทหารที่บาดเจ็บและพิการจากสงครามตั้งแต่ปี ค.ศ. 1670 สร้างโดยสถาปนิก Jules Hardouin Mansart
ส่วนโดมและวัด สร้างในสมัยนโปเลียนที่ 1 ในปี ค.ศ. 1840 ซึ่งมีศพนายพลพระสหายของพระเจ้านโปเลียนอีกหลายคนฝังอยู่ด้วย ตัวอาคาร มีโดมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโดมที่สวยงามสุดในกรุงปารีส นอกจากนี้ ยังมีศิลปะมากมายจัดแสดงอยู่ในนั้นอีกด้วย
ปัจจุบัน เลแซงวาลิด อยู่ในความดูแลของกระทรวงกลาโหม ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ทหาร โดมซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 1 นั้นสวยงามมากที่สุดในกรุงปารีส นอกจากนี้ ยังมีศิลปะมากมายจัดแสดงอยู่ในนั้นอีกด้วย
8. พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์
พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ เป็นพิพิธภัณฑ์ล่าสุดของประเทศฝรั่งเศส มีลักษณะผสมผสานระหว่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และศูนย์วัฒนธรรมโบบูร์ก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1986 บนฝั่งแม่น้ำเซนในสถานที่ที่เดิม เป็นสถานีรถไฟออร์แซของสถาปัตยกรรมแบบโบซาร์
พิพิธภัณฑ์นี้ รวบรวมศิลปะหลายอย่างเข้าด้วยกัน อันได้แก่ ศิลปะด้านการออกแบบสิ่งทอ ศิลปะทางประวัติศาสตร์ ภาพถ่าย ประติมากรรม ซึ่งสะท้อนเอกลักษณ์ของปารีสออกมาได้เด่นชัดเลยทีเดียว
การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้ ควรใช้เวลามากหน่อยเพื่อศึกษาศิลปะต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ทั้ง 3 ชั้น และไม่ควรพลาดคือ ร้านอาหารที่มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำเซนสวยงามมาก
9. พิพิธภัณฑ์ลูฟร์
พิพิธภัณฑ์ลูฟ เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียง เก่าแก่ และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมตั้งแต่ ค.ศ. 1793 มีตัวอาคารเดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวง
ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ลูฟ เป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากอย่าง เช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของ เลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่ง Antioch ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟร์นี้ มีผู้มาเยี่ยมชมถึง 8.3 ล้านคน และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส
10. ห้างสรรพสินค้า แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์
ปารีส เป็นเมืองช้อปปิ้งชั้นนำหนึ่งของโลก มีร้านค้า ห้างสรรพสินค้า มากมาย ห้างแกลลอรี่ ลาฟาแยตต์ ถือเป็นห้างสรรพสินค้าสวยงาม ชื่อดัง หรูหรา กลางกรุงปารีส ตั้งอยู่ใกล้กับโรงละครโอเปร่าอันงดงาม เปิดกิจการในค.ศ.1894
คนปารีสชอบเดินช้อปปิ้งกันมากที่สุด ที่นี่ มีแฟชั่นโชว์ให้ชมฟรีทุกๆ สัปดาห์ แถมมีร้านอาหารแบบบริการตนเองกับทิวทัศน์ที่สวยงามบนชั้น 6 ซึ่งสามารถมองเห็นตึกโอเปร่าได้อย่างชัดเจน
ปัจจุบัน ขยายห้างสาขาถึง 61 แห่ง เนื้อที่ของห้างประมาณ 500,000 ตร.ม. มีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ10,863 คน และมีลูกค้าเข้า-ออกห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ประมาณ 1,000,000 คน/วัน ทุกๆเดือนตุลาคม จะมีเทศกาลลดราคาสินค้า 50%
การเปิด-ปิดบริการของห้างลาฟาแยตคือ วันจันทร์-วันเสาร์ 09.30-19.30 วันอาทิตย์ เปิดทำการถึง 21.00 น. มีสินค้าหลายหลากยี่ห้อ และสิ่งของทุกประเภทไว้ล่อตาล่อใจนักช้อปปิ้งแบรนด์เนมและสินค้าทั่วไป ให้เลือกสรรได้อย่างครบครัน เช่น Amani, Chanel, Parda, John Galliano เป็นต้น
เรียกได้ว่า เที่ยวในปารีส แล้วไม่ผิดหวัง มีแต่ความสุข สนุก เที่ยวได้ทุกเมื่อ ตั้งแต่เช้ายันค่ำ เพราะเป็นมหานครที่ไม่เคยหลับไหล และแหล่งรวมความหลากหลายและมีผู้คนหลายรูปแบบ ลองวางแผนเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในปารีสเองนะจ๊ะ แล้วอย่าลืมถ่ายรูปมาให้ดูด้วย ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยว เมืองปารีส จ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น