Menu Blog

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เจ็ตแล็ก คืออะไร

หลายคนที่เดินทางไปต่างประเทศโดยเครื่องบิน ซึ่งต้องเดินทางไปไกลๆนานๆ หลายชั่วโมง ไม่ว่าจะเดินทาง ที่นั่งชั้นหนึ่ง หรือ ชั้นประหยัด ก็มีสิทธิเกิดอาการ ที่เรียกว่า "Jet Lag" 

เจ็ตแล็ก เป็นอาการที่รู้สึกเหนื่อยไม่รู้หาย วิงเวียน หลงลืมไปชั่วขณะ หงุดหงิดง่าย อารมณ์เสียโดยไม่มีสาเหตุ กลางคืนนอนไม่หลับแต่กลางวันกลับง่วงนอน เรียกได้ว่าเป็นอาการของแถมตัวร้ายของนักเดินทางดดยเครื่องบินก็ว่าได้




ทั้งนี้เป็นเพราะร่างกายของเรานั้น มีระบบการทำงาน ที่เป็นไปตามรอบของเวลาในแต่ละวัน เหมือนกับมีนาฬิกาอยู่ข้างในตัวเรา ดังนั้น การที่เราต้องเดินทางข้ามเขตแบ่งเวลาหลายๆ เขต ในการเดินทางจากตะวันออก ไปทางตะวันตก ทำให้ร่างกายของเราที่ยังคงคุ้นกับเวลาเดิมอยู่ปรับตัวไม่ทัน




สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ หรือ รถไฟ นั้น อาจไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะว่่าร่างกายเรามีเวลาค่อยๆปรับตัว จึงเป็นอาการเฉพาะผู้เดินทางโดยเครื่องบินเท่านั้น แม้จะมียาหลายชนิดโฆษณาว่า กินแล้วจะช่วยให้ไม่เกิดอาการเจ็ตแล็ก แต่แท้จริงแล้ว ยาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงโฆษณาให้เราคล้อยตาม แต่ไม่ได้ผลกับคนทุกคนเลย ซ้ำร้ายอาจเกิดผลข้างเคียงได้ด้วย
ปัญหาเหล่านี้ เกิดจากเวลาเดินทางของเรานั่นเอง เพราะเราไม่สามารถจะตั้งเวลาให้เจ้านาฬิกาเรือนนี้ใหม่ในร่างกายเราซะด้วย เหมือนตั้งเวลานาฬิกาข้อมือ





ดังนั้น สิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันอาการเจ็ตแล็กดังกล่าวคือ

1. ดื่มน้ำมากๆ เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มอัดลม
2. นอนบนเครื่องบินให้หลับ
3. ออกกำลังกายบ้างโดยการลุกขึ้นยืนหรือเดิน หรือ อาจบริหารร่างกายอยู่กับที่นั่ง
4. อย่ารับประทานอาหารมากเกินไป
5. ถ้าเป็นเที่ยวบินไกล ๆ ที่มีช่วงจอดแวะกลางทาง ควรล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น




เพียงเท่านี้ อาจช่วยลดอาการเจ็ตแล็กของท่านลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ท่านก็ควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงก่อนจะเดินทางไกลๆ ทางเครื่องบิน




และนี่อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดแบบวิธีธรรมชาติ คือ จัดการธุระต่างๆ ให้เรียบร้อยจะได้ไม่มีความวิตกกังวลติดค้างในสมอง รวมทั้ง นอนให้เพียงพอ ไม่ดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ในช่วงวันก่อนเดินทาง

นอกจากนี้ หากท่านสามารถทำได้ ด้วยการการปรับช่วงเวลานอน และตื่นให้ใกล้เคียงกับเวลาที่จุดหมายปลายทางสัก 2-3 วันก่อนออกเดินทางยิ่งดี เชื่อกันว่า การเกิดเจ็ตแล็กบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น