วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559

สิงคโปร์ งบ 2,000 บาท จะซื้ออะไรฝากได้บ้าง…?!


Feature-Image

สิงคโปร์ งบ 2,000 บาท จะซื้ออะไรฝากได้บ้าง…?!

ฤดูกาลท่องเที่ยวใกล้เข้ามาแล้ว คุณมีแพลนการเดินทางกันรึยัง? ถ้ายัง! วันนี้มัชรูมทราเวลจะมาแนะนำประเทศที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา ประเทศสิงคโปร์นั่นเอง 
สิงคโปร์ เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีขนาดพอๆกับเกาะภูเก็ตของบ้านเราเท่านั้น แต่ถึงจะเล็ก ก็เล็กพริกขี้หนู เพราะสิงคโปร์จัดเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีก็แสนจะก้าวล้ำนำสมัย เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ สร้างความสนุกสนานได้ไม่รู้จบ เหมาะแก่การไปท่องเที่ยว ศึกษาดูงาน หรือจะไปเรียนต่อก็เป็นทางเลือกที่ดี อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง จึงเหมาะแก่นักท่องเที่ยวมือใหม่ที่ไม่ว่า จะเที่ยว ช้อป กิน ก็ฟินสุดๆ เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในสิงคโปร์ หลายคนคงทราบกันดีว่าส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น แลนด์มาร์คอย่างเมอร์ไลอ้อน เกาะเซ็นโตซ่า ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เป็นต้น ซึ่งแต่ละสถานที่ก็ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสุดๆ
pic_1
Cr : sinarharapan.co
และแม้จะเป็นเมืองที่มีพื้นที่น้อย ทรัพยากรธรรมชาติมีไม่เยอะ แต่ก็ไม่ได้ขาด “พื้นที่สีเขียว” หรือพื้นที่ธรรมชาตินะคะ เพราะประเทศสิงคโปร์นี่แหละคือที่ตั้งของสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก! นั่นก็คือ สวนสวยขึ้นชื่อ “การ์เด้น บาย เดอะเบย์ (Gardens by the Bay)” แหล่งรวบรวมพรรณไม้หลากชนิดจากทั่วทุกมุมโลก! ตั้งอยู่ที่อ่าวมารีนา (Marina Bay) มีจุดเด่นที่ทุกคนเห็นแล้ว ต้องร้องอ๋อกันอย่างแน่นอน นั่นก็คือ ซุปเปอร์ทรีโกล์ป (Supertree Grove) หรือต้นไม้ยักษ์ จำนวน 18 ต้น (ร้องอ๋อกันแล้วใช่มั้ยคะ) ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเก๋ไก๋ให้เป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่ (Vertical Garden) ที่ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยเขตร้อน พืชอิงอาศัย และเฟิร์นเมืองร้อน ที่ประดับประดาพันเกี่ยวอยู่ตามลำต้น เจ๋งป่ะหล่ะ? และยังมีทางเดินลอยฟ้ายาว 128 ม. ที่เชื่อมต่อระหว่างต้นไม้ ให้ขึ้นไปชมวิวสิงคโปร์ในมุมสูงได้อย่างสวยงามสุดลูกหูลูกตา ในเวลากลางวันก็รู้สึกสดชื่น ในเวลากลางคืนก็งดงามด้วยแสงไฟหลากสีสัน และยังมีการแสดง แสง สี เสียง “Rhythm with Nature” ประกอบดนตรีให้ได้ดูกันด้วย เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำๆที่เข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัวสุดๆ
Cr : gardensbythebay.com.sg
Cr : gardensbythebay.com.sg
การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ยังมีอีก 3 สวนที่น่าไปชมกัน ได้แก่ สวนเบย์ เซาท์ (Bay South) สวนเบย์ อีสต์ (Bay East) และสวนเบย์ เซ็นทรัล (Bay Central) โดยเฉพาะที่สวนเบย์ เซาธ์นั้นมีไฮไลท์อย่าง “ฟลาวเวอร์ โดม (Flower Dome)” ที่เป็นโดมเรือนกระจกติดแอร์ขนาดใหญ่ ภายในมีการจัดแสดงพันธุ์ไม้จากเขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียนหลายหลายชนิด และ “คลาวด์ ฟอร์เรสต์ (Cloud Forest)” ส่วนจัดแสดงพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้น ที่เมื่อก้าวเท้าเข้าไปด้านในแล้ว ก็พบกับความน่าตะลึงของน้ำตกขนาดใหญ่สูง 35 ม. อยู่ภายในโดม เมื่อเดินผ่านน้ำตกอ้อมมาทางด้านหลัง ก็จะได้พบกับส่วนจัดแสดงพรรณพืชและพรรณไม้ในเขตป่าดิบชื้นอันหลากหลาย มีพรรณไม้แปลกๆ สวยๆ ให้ได้ชมกันแบบจุใจ เอาล่ะ เมื่อเที่ยวเสร็จ ก็ถึงเวลาตระเวนซื้อของฝากกันแล้ว โดยมีโจทย์ให้ก็คือ “สิงคโปร์ งบ 2,000 บาท จะซื้ออะไรฝากได้บ้าง…?!”
ก่อนอื่นเรามาดูสินค้าที่ไม่ต้องเสียอากรกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ตามนี้เลยค่ะ แอนด์แอนแอ่นนน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ , เครื่องสำอาง , กล้องถ่ายรูป, นาฬิกา ,เครื่องเพชรพลอย ,โลหะมีค่าและรัตนชาติต่างๆ ,รองเท้า, ศิลปะ, งานฝีมือ , และของเล่นเด็ก เมื่อรู้อย่างงี้แล้ว มาเริ่มช้อปกันเลยดีกว่า
pic_3
Cr : 3.bp.blogspot.com
เริ่มจากสิ่งที่เกิดมาคู่กับผู้หญิงอย่างน้ำหอม เครื่องสำอาง กระเป๋า และรองเท้า กันก่อน น้ำหอมแบรนด์เนมที่สิงคโปร์ราคาจะถูกกว่าที่ไทยมากค่ะ เฉลี่ยราคาจะอยู่ที่ 1000-1500 บาทค่ะ ส่วนเครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น MAC , CHANEL ฯลฯ ก็ถูกกว่าบ้านเราเช่นกัน ซึ่งก็มีหลายราคาค่ะ อย่างพวกลิปสติก บรัชออน ก็มีตั้งแต่สี่ร้อยบาทไปจนถึงพันนิดๆ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและโปรโมชั่นของทางร้านตอนนั้น
ถัดมาคือแบรนด์กระเป๋าอันเลื่องชื่อของสิงคโปร์ อย่าง ชาร์ลส แอนด์ เคท(Charles & Keith) ที่สาวๆห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะราคาถูกกว่าที่ไทยเยอะ แถมยังมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50-60 เหรียญ (ประมาณ 1300-1500 บาทไทย) ส่วนรองเท้าถ้าลดราคาก็จะมีตั้งแต่ 23-40 เหรียญ หรือประมาณ 600-1000 บาทไทยค่ะ
จบพาร์ทแรกสำหรับหมวดข้าวของเครื่องใช้ โดยมีงบ 2000 บาท ก็อาจจะต้องเลือกมาซักอย่างใดอย่างหนึ่งในหมวดนี้ เพื่อที่จะไปช้อปหมวดต่อไปกัน ตามมาดูกันเลยคร้า….

ขอต้อนรับเข้าสู่โหมด “ของกิน” สุดฟินที่ควรค่าแก่การหิ้วกลับไปเป็นของฝากกันเถอะ

pic_4
Cr : s3-media4.fl.yelpcdn.com
อย่างแรกเลยขอเสนอหมูแผ่น “บี แชง เฮียง (Bee Cheng Hiang)” หมูแผ่นเลิศรสที่ไม่ซื้อ! ไม่หา! ไม่ชิม! ไม่ได้! เพราะไม่งั้นจะถือว่าพลาดอย่าแรง เราจึงขอแนะนำเลยคร้า มีให้เลือกด้วยกันหลายรส เช่น รสหวาน รสเผ็ด รสบาร์บีคิว แต่ราคาค่อนข้างจะสูงเลยทีเดียวโดยจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 40-50 เหรียญ ก็ประมาณ 1000 กว่าบาทไทย จึงแนะนำให้ซื้อแบบที่เค้าแยกไว้เป็นกล่อง กล่องละประมาณ 250 กรัมก็ดีกว่าค่ะ จะได้เก็บตังค์ไว้ไปช้อปของฝากอย่างอื่นต่อ อ่อ! ร้าน Bee Cheng Hiang มีสาขาอยู่ทั่วสิงค์โปร์ รวมทั้งที่ Changi Airport ด้วย หาไม่ยากแน่นอนค่ะ
ต่อด้วยช็อกโกแลตและขนมหวาน ที่มีขายอยู่มากมายตามแหล่งช้อปปิ้งทั่วไป เลือกซื้อเลือกหากันได้ตามอัธยาศัย ขนมอะไรที่ถูกกว่าหรือไม่มีขายในบ้านเราก็หิ้วกลับมาเลย
ต่อกันด้วยการ์เร็ต ป๊อปคอร์น (Garrett Popcorn) ขนมข้าวโพดคั่วอันเลื่องชื่อของสิงคโปร์ ก็น่านำกลับไปเป็นของฝากเช่นกัน สนนราคาอยู่ที่ 5-38 เหรียญ ขึ้นอยู่กับขนาดและรสชาติที่ต่างกันไป
pic_5
Cr : otakuhouse.com
มาถึงของฝากชิ้นสุดท้ายที่ขอแนะนำสำหรับคนมีเพื่อนเยอะ ก็คือ พวงกุญแจรูปสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ ดีไซน์เก๋ไก๋ สวยงาม ราคาถูก และที่สำคัญสามารถแจกทุกคนได้ทั่วถึงอย่างแน่นอน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6 ชิ้น 50 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับทักษะการต่อราคาของแต่ละคนด้วยค่ะ
และนี่ก็คือของฝากน่าซื้อที่สิงคโปร์ ที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ จะซื้ออะไรฝากใครก็สามารถเลือกสรรกันได้เลยตามใจชอบ อย่างพวกเครื่องสำอางก็อาจจะนำไปฝากพี่สาวน้องสาวคนสนิท หมูแผ่นก็เหมาะมากที่จะนำไปฝากญาติผู้ใหญ่ ช็อคโกแลตขนมหวานก็เหมาะกับเด็กตัวเล็กๆที่บ้าน พวงกุญแจ คละลายก็เอาไปแจกเพื่อนร่วมงานทั้งออฟฟิศได้เลย หากคุณลองจัดสรรปันส่วนดีๆ งบ 2000 บาทนี้ก็สามารถซื้อของฝากกลับมาให้ทุกคนได้อย่างทั่วถึงแน่นอน ฟังดูแล้วน่าท้าทายดีเนาะ งั้นต้องไปลองกันซักตั้งแล้วหล่ะ งั้นเตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวสิงคโปร์กันเลยดีกว่า รับประกันว่าต้องเป็นทริปที่ประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน

——————-
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์สิงคโปร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id: @mushroomtravel

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559

6 ร้านอาหาร จานยักษ์ใน”โอซาก้า”ที่เราขอท้าให้คุณไปลอง!



Feature-Image

6 ร้านอาหาร จานยักษ์ใน โอซาก้า ที่เราขอท้าให้คุณไปลอง!

เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ดูรายการวาไรตี้แนะนำ ร้านอาหาร จานยักษ์ทั่วญี่ปุ่นแล้วก็อยากไปลองกันสักครั้ง แต่ไม่รู้พิกัดว่ามันอยู่ที่ไหนกันบ้างแน่ๆ วันนี้เราเลยรวบรวม ร้านอาหาร จานยักษ์ในเมืองที่ผู้คนเฮฮา และอาหารอร่อยอย่างโอซาก้า มาท้าให้คุณไปตามรอยกินที่ญี่ปุ่นกัน

1. โอโคโนมิยากิจานยักษ์


pic1
Cr : yukarichan.co.jp

พูดถึงโอซาก้าแล้ว เมนูที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “โอโคโนมิยากิ” แต่ระดับนักกินสายแข็งอย่างเราๆแล้ว ไหนเลยจะกินไซส์ธรรมดา
ต้องนี่เลยต่างหาก…..

Cr : yukarichan.co.jp
Cr : yukarichan.co.jp

โอโคโนมิยากิจานยักษ์ที่มีชื่อเมนูว่า “โอซาก้าโจว(大阪城)” หรือแปลเป็นไทยว่า ปราสาทโอซาก้า จานนี้น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 เซนติเมตรจ้า
ข้อมูลร้าน
ชื่อร้าน: โอโคโนมิยากิ ยูคาริ (お好み焼き ゆかり)
เวลาเปิดปิด: 11.00 น. – 01.00 น.
การเดินทาง: เดินจาก รถไฟฟ้าใต้ดินโอซาก้า สายทานิมาจิ(Tanimachi Line) สถานีฮิกาชิ อุเมดะ(Higashi Umeda) 1 นาที หรือ จากสายมิโดสุจิ(Midosuji Line) สถานีอุเมดะ
เว็บไซต์: www.yukarichan.co.jp

2. ข้าวหน้าเนื้อไซส์บิ๊กแสนอร่อย


Cr : yodobashi-umeda.com
Cr : yodobashi-umeda.com

ร้านข้าวหน้าเนื้อที่คัดสรรคุณภาพของทั้งเนื้อสัตว์ ไข่ กระเทียม และวัตถุดิบที่นำมาใช้ปรุงอาหาร ปรุงด้วยเทคนิคพิเศษ แถมด้วยน้ำซอสที่เป็นตำนานสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งร้าน ส่วนเรื่องปริมาณอาหารไม่ต้องพูดถึง ไม่ใช่บิ๊กไซส์ เราไม่แนะนำ!

Cr : foodline.jp
Cr : foodline.jp

เมนูแนะนำก็คือ ซุดะด้ง (すた丼) ข้าวหน้าเนื้อหมู ราดซอสกระเทียมโชยุสูตรลับเฉพาะของทางร้านที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร โอยยย…แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว
ข้อมูลร้าน
ชื่อร้าน: Densetsu no sutadonya(伝説のすた丼屋)
เวลาเปิดปิด: 11.00 น.- 23.00 น.
การเดินทาง: เดินจากรถไฟ JR สถานีโอซาก้า 5 นาที ร้านอยู่ชั้น 8 โยโดบาชิ อุเมดะ
เว็บไซต์: www.sutadonya.com

3. ข้าวหน้ารวมมิตรอาหารทะเล


pic5
Cr : eonet.jp

สายกินข้าวหน้าซาชิมิต้องร้านนี้เลย เค้าคัดอาหารทะเลสดๆ ทั้งปลา กุ้ง ปลาหมึกมาเสริฟในชามใหญ่ๆ โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญอาหารระดับสูงที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี

Cr : eonet.jp/gourmet
Cr : eonet.jp/gourmet

เห็นชามใหญ่ๆ ปลาสดๆเต็มๆฟินๆแบบนี้ ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด ชามนี้แค่ 980 เยนเท่านั้นเอง
ข้อมูลร้าน
ชื่อร้าน: nihonryori yugeshima (日本料理 ゆげしま)
เวลาเปิดปิด: 17.30 น. – 23.00 น.
การเดินทาง:  เดินออกจากทางออก 2 สถานีฮงมาจิ(Honmachi) มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ เลี้ยวไปทางทิศตะวันตกที่สัญญาณไฟจราจรแรก เลี้ยวไปทางเหนือที่ทางแยกแรกที่เจอ
เว็บไซต์: www.eonet.jp/gourmet

4. ร้านอาหารธรรมดา แต่อาหารจานใหญ่ไม่ธรรมดา


Cr : agataogata.blog105.fc2.com
Cr : agataogata.blog105.fc2.com

ยังกลางวันอยู่ กินเยอะๆให้พุงกางได้! ตอนที่รู้สึกแบบนี้ เค้าว่าต้องมาทานร้านนี้ ถึงเมนูอาหารจะดูธรรมดาๆดูสักหน่อย อย่างคาราอาเกะ กุ้งเทมปุระ เมนจิคัทสึ ปลาซาบะย่างเกลือ แต่รสชาติเค้าไม่ธรรมดา แถมยังมาพร้อมกับโซส์บิ๊กบึ้มในราคาประหยัดอีกด้วย

Cr : garagetsp.blog78.fc2.com
Cr : garagetsp.blog78.fc2.com

เมนูแนะนำก็ต้องนี่เลย กุ้งทอดตัวหย่ายยยยยลล้นจานแบบนี้

Cr : livedoor.blogimg.jp
Cr : livedoor.blogimg.jp

ในส่วนข้าวหน้าไก่ทอดก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ราคาหรอ…ก็แค่ 880 เยนเองงง อิ่มพุง สบายกระเป๋ามากๆ
ข้อมูลร้าน
ชื่อร้าน: Futsuu no shokudou iwama (普通の食堂いわま)
เวลาเปิดปิด: 11.00 น.- 15.30 น., 17.00 น. – 22.00 น. หยุดวันพุธ
การเดินทาง: เดินจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สายมิโดซุจิ (Midousuji Line) สถานีนัมบะ 8-10 นาที
เว็บไซต์: www.syokudoumonogatari.blog60.fc2.com

5. ราเมงชามเบิ้มมมม


Cr : kuwabera.blog42.fc2.com
Cr : kuwabera.blog42.fc2.com

มาต่อกันที่ร้านราเมงบ้าง ร้านนี้เค้าเสริฟราเมงชามเบิ้มที่ใส่เครื่องบูมมมมมาก ไหนจะถั่วงอก ไหนจะหมูชาชู ไหนจะกะหล่ำอีกกก ดูรูปซะก่อนนน

Cr : ramenkmsk.blog.fc2.com
Cr : ramenkmsk.blog.fc2.com

ร้านนี้พิเศษอีกอย่างตรงที่เส้นราเมงอวบอ้วนที่ใช้นั้น ร้านนี้เค้าทำเองเป็นพิเศษนะจ้ะ ไหนจะน้ำซุปที่เข้มข้นอีกกกกก จะห้ามใจอยู่หรอเนี่ยยย ส่วนทางด้านราคาก็ถูกไปอีกกก 700 เยนเท่านั้น
ข้อมูลร้าน
ชื่อร้าน: Macho (自家製太麺 ドカ盛 マッチョ)
เวลาเปิดปิด: 11.00 น. – 15.00 น., 18.00 น. – 22.30 น.ปิดทุกวันจันทร์
การเดินทาง: เดินจากรถไฟใต้ดิน สถานีนัมบะ หรือสถานีนิฮงบาชิ 5 นาที
เว็บไซต์: www.blog.livedoor.jp

6.ไอศครีมทาวเวอร์ สูงเว่อร์วังอลังการมาก

ทานอาหารคาวมาเยอะล่ะ แวะทานของหวานบ้าง

Cr : oideyasuyukiyuki.blog120.fc2.com
Cr:oideyasuyukiyuki.blog120.fc2.com

ไอศครีมร้านนี้เค้าธรรมดาที่ไหน ดูความสูงอันน่าสะพรึงนี่ซะก่อนนนนน

Cr:oideyasuyukiyuki.blog120.fc2.com
Cr:oideyasuyukiyuki.blog120.fc2.com
Cr:oideyasuyukiyuki.blog120.fc2.com
Cr:oideyasuyukiyuki.blog120.fc2.com

คนชอบทานไอศครีมเนี่ยคงจุใจแน่ๆเลย ส่วนราคาก็ไม่น่าห่วง ช็อคโกแลตพาร์เฟ่ต์ถ้วยสูงงงง ถ้วยนี้ 680 เยนเท่านั้น
ข้อมูลร้าน
ชื่อร้าน: KANARIYA
เวลาเปิดปิด: 12.00 น. – 19.20 น.
การเดินทาง: เดินจากสถานีทสึรุฮาชิ (Tsuruhashi) 1 นาที ห่างจากสถานี 93 เมตร
อื้อหือ แต่ละร้านเสริฟเต็มซะล้นชาม ล้นจานกันทั้งนั้นเลยยยย นักเที่ยวสายกินอย่าได้รอช้า ไปโอซาก้าเมื่อไหร่จัดใหญ่ๆกันเลยยยยยย
ขอบคุณข้อมูลจาก foodline

——————-
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id: @mushroomtravel

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559

ดูดวงท่องเที่ยว ประจำเดือน เมษายน 2559

Feature-Image

contributor

ดูดวงท่องเที่ยว ประจำเดือน เมษายน 2559

มังกร (16 ม.ค. – 15 ก.พ.) : เติมเต็มความต้องการ
ในเดือนนี้ จะเรียกว่าทุกข์ใจก็ไม่ใช่ สุขใจก็ไม่เชิง เพราะเกณฑ์ชาวราศีมังกรจะเกิดความไม่พอหรือต้องการบางสิ่งบางอย่างมาเติมเต็มความพอใจ ถ้ามองในเรื่องของงาน ก็จะมีโอกาสเข้ามาหาเราพร้อมๆกันทำให้เลือกไม่ได้ซักที อันโน้นก็ดี อันนี้ก็ชอบ แต่ถ้าเป็นในเรื่องของความรักโดยเฉพาะคนมีคู่ อาจเกิดอาการเริ่มเบื่อแฟนตัวเองขึ้นมา แบบนี้คงไม่ดีแน่ๆครับ มาดูเรื่องของที่เที่ยวกันบ้างดีกว่า ในเดือนเมษายนนี้ แน่นอนว่ามีวันหยุดติดกันถึง 5 วัน (แม่เจ้า!!) แต่ว่าการไปที่คนเยอะๆในช่วงนี้ ไม่เหมาะกับราศีมังกรอย่างแรง ดังนั้นเราคงต้องหลีกหนีจุดที่คนเยอะไว้ก่อน ส่วนที่เที่ยวแนะนำคือ เกาะพยาม ครับ ซึ่งที่นี่นอกจากจะวิวดีแล้ว ยังมีความเงียบสงบมากอีกด้วย รับประกันได้ว่าได้เพลิดเพลินกับการผักผ่อนได้อย่างเต็มที่แน่นอนครับ
กุมภ์ (16 ก.พ. – 15 มี.ค.) : การเริ่มต้นใหม่
ชาวราศีกุมภ์ในเดือนนี้ มีเกณฑ์จะได้เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการเงินและการงาน หรือถ้าหากใครกำลังประสบปัญหากับการงาน ก็จะได้ลูกน้องหรือคนเก่งที่มีฝีมือดีเข้ามาช่วยเหลือเราไว้ ได้ยินข่าวดีแบบนี้ก็สบายใจแล้ว มาดูเรื่องสถานที่เที่ยวแนะนำกันบ้างครับ ในเมษายนนี้ หากชาวราศีกุมภ์เดินทางไปเที่ยวเขา อาจจะมีเกณฑ์ลำบากซักหน่อยเพราะจะเจอคนเยอะจนทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจ แต่ถ้ามุ่งหน้าลงใต้ไปเที่ยวเกาะและทะเลที่ไกลๆหน่อย อย่างเกาะสมุย เกาะเต่า หรือเกาะนางยวน รับรองได้ว่าฟินหนักมากแน่นอนครับ แต่ถ้ายังไม่รู้จะวางแผนยังไง ทาง Mushroom Travel ก็มีทัวร์จัดเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพเรียบร้อยด้วย สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้เลยครับ www.mushroomtravel.com/tour/domestic/surat-thani
มีน (16 มี.ค. – 15 เม.ย.) : จัดลำดับความสำคัญให้ดี
เดือนเมษายนนี้ ถึงแม้ว่าจะมีวันหยุดยาวติดกัน แต่ทว่างานที่เข้ามาไม่ได้หยุดตามซะด้วยเนี่ยสิ ทำให้ช่วงนี้ร่างกายอาจจะอ่อนแอได้ง่ายเพราะการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอรวมไปถึงความเครียดสะสมที่เข้ามาเล่นงานทีเผลอด้วย เพราะฉะนั้น เดือนนี้ต้องโฟกัสในเรื่องของการจัดลำดับงาน รวมไปถึงแยกแยะเวลางานกับเวลาพักผ่อนให้ออกด้วยนะครับ มาดูคิวเรื่องเที่ยวกันบ้างดีกว่า ถึงแม้ว่างานจะหนักปางตาย แต่เรื่องเที่ยวเท่านั้นที่ยอมไม่ได้ 555 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำสำหรับชาวราศีมีนคือ ธรรมชาติตามแนวสันเขาหรือเนินเขา ครับ ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเป็นฤดูร้อนที่ขนาดอูฐลงไปชักตายได้ แต่พวกบนเขาสูงจะมีอากาศที่เย็นกว่าพื้นที่ด้านล่างมากเลยครับ อย่างเช่น ม่อนแจ่ม, ภูชี้ฟ้า, ดอยแม่สลอง, ดอยเสมอดาว ฯลฯ
เมษ (16 เม.ย. – 15 พ.ค.) : รอฟังข่าวดี
ในเดือนเมษายนนี้ ชาวราศีเมษคนไหนที่กำลังมีเรื่องหนักใจกลุ้มใจ เตรียมตัวได้รับข่าวดีเร็วๆนี้เลยครับ เพราะปัญหาเหล่านั้นกำลังจะพ่ายแพ้ให้แก่เรา หรือถ้าใครเกิดปัญหาในช่วงเดือนนี้ แนะนำให้เลี่ยงการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือวาจาก็ตาม เพราะในที่สุดแล้วหากเราพยายามทำดีและแก้ไขปัญหาอย่างยุติธรรม ท้ายที่สุดแล้วปัญหาเหล่านั้นก็หายไปเองครับ พอรู้แนวโน้มของดวงเดือนนี้ไปแล้ว มาดูสถานที่เที่ยวแนะนำกันบ้างครับ ร้อนๆในช่วงนี้แนะนำ เล่นน้ำสงกรานต์ที่เชียงใหม่เลยครับ ซึ่งนอกจากจะได้สนุกสนานชนิดที่เรียกได้ว่าปลดปล่อยกันจนลืมอายุไปแล้ว ที่เชียงใหม่ก็ยังมีสถานที่เที่ยวเยอะแยะอีกมากมายเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวเชิงธรรมชาติก็ดี หรือวัดวาอารามแบบศิลปะล้านนาก็แหล่มมิใช่น้อย
พฤษภ (16 พ.ค. – 15 มิ.ย.) : ปล่อยวางให้ได้
ชาวราศีพฤษภในเดือนนี้ มีเกณฑ์ที่จะต้องสูญเสียสิ่งบางสิ่งบางอย่างไปอย่างกระทันหัน หรืออาจะมีสิ่งที่ผิดคาดไปจากที่ตั้งใจไว้มาก ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ควรทำก็คือ การยอมรับสภาพของมัน เพราะการกลุ้มใจกับมันมากจนเกินไป ไม่ได้ช่วยให้เปลี่ยนเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ในทางกลับกัน เมื่อสิ่งใดจบ ก็ย่อมมีสิ่งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น ดังนั้นเราต้องทุ่มไปให้สถานการณ์ปัจจุบันดีกว่านะครับ ได้ยินเรื่องเครียดๆมา ถึงเวลาที่ต้องหาสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหรือปลดปล่อยอารมณ์ โดยสถานที่แนะนำคือ โฮมสเตย์ ครับ จะที่ไทยก็ได้ หรือฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวก็แจ่มไม่ใช่น้อย การเที่ยวแบบนี้ นอกจากจะช่วยให้เราได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวบ้านแถวนั้นแล้ว ยังช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆให้กับเราได้อีกด้วยนะครับ
เมถุน (16 มิ.ย. – 15 ก.ค.) : เรียนรู้และรับฟัง
เดือนนี้ ชาวราศีเมถุนจะโชคดีอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น จะมีคนเข้ามาคอยช่วยเหลือและคอยให้คำปรึกษาคำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่เรา ดังนั้นช่วงนี้จึงถือเป็นช่วงที่ดีอีกอย่างที่จะได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นและจากคำสอนของคนที่มีประสบการณ์ รวมไปถึงการงานจะมีความก้าวหน้าขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แต่การจะก้าวไปถึงจุดนั้น จำเป็นต้องทุ่มสุดแรงกายแรงใจกันไปข้างเลยล่ะครับ มาดูเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำกันบ้าง ที่เที่ยวแนะนำสำหรับชาวราศีเมถุนในครั้งนี้คือ เมืองอะกิตะ ประเทศญี่ปุ่นครับ โดยที่เมืองอะกิตะเนี่ย ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 สถานที่ชมดอกซากุระบานของภูมิภาคโทโฮะกุ แถมยังมีที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์อื่นๆอีกมากมายด้วย หากสนใจแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ลองเข้าไปดูแพคเกจของทาง Mushroom Travel ได้ตามลิ้งค์นี้เลยครับwww.mushroomtravel.com/packagetour/japanไม่ผิดหวังแน่นอน
กรกฎ (16 ก.ค. – 15 ส.ค.) : ความลับไม่มีในโลก
ชาวราศีกรกฎในเดือนนี้ มีเกณฑ์ที่จะปกปิดหรือมีเรื่องลับที่ไม่สามารถบอกใครได้ และยิ่งหากเก็บงำความลับไว้นาน แน่นอนว่าย่อมส่งผลไม่ดีต่อตัวเราขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนั้น การจะทำสิ่งไหนควรต้องคิดให้รอบคอบมากกว่าเดิม หากต้องไปเจอเรื่องที่คิดว่าจะเกิดเป็นปัญหาในอนาคตได้ ก็ควรเลี่ยงไว้แต่เนิ่นๆดีกว่านะครับ มาดูสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในเดือนเมษายนนี้กันครับ สำหรับชาวกรกฎเหมาะอย่างมากกับกิจกรรมทางน้ำ อย่างเช่น การดำน้ำดูปะการัง หรือการนั่งเรือชมธรรมชาติ ซึ่งในประเทศไทยก็มีสถานที่แบบนี้เยอะอยู่ครับ ไม่ว่าจะเป็น เขื่อนรัชประภา ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ถ้ำมรกต จังหวัดตรัง, เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เป็นต้นครับ
สิงห์ (16 ส.ค. – 15 ก.ย.) : เหนื่อยนักก็พักเที่ยว
เกณฑ์ดวงของชาวราศีสิงห์ในเดือนนี้ ค่อนข้างที่จะเจอศึกหนักมากเลยครับ เพราะมีเกณฑ์ที่จะต้องสูญเสียหรือประสบกับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันบางอย่าง ซึ่งทำให้เราหมดกำลังใจได้ง่ายๆ ดังนั้น หากว่าเหนื่อยเกินกว่าจะไปไหนหรือทำอะไรก็แวะพักบ้างครับ ไว้กำลังใจกลับมาเมื่อไหร่ ก็ค่อยลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้ง ส่วนสถานที่เที่ยวที่แนะนำในเดือนนี้ของชาวราศีสิงห์ก็คือ บ้าน ครับ ตามที่เขียนเลยครับ อ่านไม่ผิดเลย เพราะบ้านเป็นสถานที่ให้ทั้งความอบอุ่น ให้ความสนุก และค่อยรักษาเยียวยาจิตใจเราได้อย่างดี ดังนั้นการกลับไปอยู่กับคนในครอบครัว ได้ใช้เวลาร่วมกัน ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าไม่แพ้สถานที่เที่ยวไหนๆบนโลกนี้เลยครับ
กันย์ (16 ก.ย. – 15 ต.ค.) : เหนื่อยล้าอย่างหนัก
เดือนนี้ชาวราศีกันย์ค่อนข้างสะบักสะบอมหนักมาก เพราะงานและปัญหาหลายอย่างเล่นงานเราเยอะมากพอสมควร แถมปัญหาแต่ละอันก็เคลียร์ไม่ได้ง่ายๆซะด้วย จึงทำให้เดือนนี้ชาวราศีกันย์มีความวิตกและเครียดค่อนข้างมาก ในกรณีของความรัก คนโสดอาจต้องเจองานหนักเพราะอีกฝั่งดูท่าจะคุยยากซะด้วย แต่ของแบบนี้ ต้องพยายามเท่านั้นครับถึงจะประสบความสำเร็จ เมื่อเจอศึกหนักก็ต้องถึงเวลาพักบ้าง สถานที่เที่ยวแนะนำในเดือนนี้ของชาวราศีกันย์คือ ทะเลใต้ ครับ เพราะนอกจากน้ำจะใสกิ๊งเหมาะแก่การเล่นน้ำแล้วเนี่ย ธรรมชาติทางนั้นก็ถือว่าเหมาะแก่การพักผ่อนชาร์จแบตให้ร่างกายแบบสุดขั้วไปเลยครับ แต่หากยังไม่รู้ว่าจังหวัดไหนดียังไง ลองเข้าไปดูแพคเกจของทาง Mushroom Travel ได้เลยครับ รับรองว่ามีครบทุกแนวให้เลือกอย่างจุใจแน่นอนตามลิ้งค์นี้เลยครับwww.mushroomtravel.com/tour/domestic
ตุลย์ (16 ต.ค. – 15 พิ.ย.) : มีสติตลอดเวลา
เดือนนี้ระวังเรื่องความใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จะเป็นเหตุให้การงานการเงินเกิดปัญหาได้ง่ายๆ แถมบางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นมาก็ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ ดังนั้น เดือนนี้ต้องพยายามมีสติเข้าไว้นะครับ อย่าเหม่อลอยมาก อีกทั้งแนะนำในเรื่องการพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะครับ เพราะมีเกณฑ์จะเกิดอาการปวดหัวเพราะความเครียดด้วย ถ้าในเมื่อปวดหัวแบบนี้ เห็นทีก็คงต้องไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนคลายกันบ้าง สถานที่เที่ยวแนะนำในเดือนนี้คือ การนอนแพริมแม่น้ำครับ ในประเทศไทยหลักๆที่ขึ้นชื่อก็จะมีจังหวัดกาญจนบุรี, สุราษฎร์ธานี (เชียงใหม่ก็มีนะเออ) ซึ่งส่วนใหญ่สถานที่เที่ยวแบบนี้จะมีกิจกรรมต่างๆให้เราได้เลือกทำมากมาย ทั้งล่องแก่ง, โดดน้ำ, บานาน่าโบ๊ท และอื่นๆอีก หรือจะนอนพักอ่านหนังสือชิวๆริมแม่น้ำก็ได้โอเคเช่นกันครับ
พิจิก (16 พิ.ย. – 15 ธ.ค.) : ต้องใช้เวลา
ชาวราศีพิจิกในเดือนนี้จะมีเกณฑ์ได้เริ่มต้นทำบางสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้ ซึ่งในช่วงแรกอาจจะมีปัญหาหรือติดขัดบ้าง แต่การจะให้สิ่งนั้นสำเร็จจำเป็นต้องใช้เวลา ดังนั้นช่วงนี้อาจต้องยอมเหนื่อยซักหน่อยนะครับ แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง งานของเราก็จะสบายขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน และเพื่อเป็นการชาร์จแบตให้ตัวเองก่อนเจอศึกอันยาวนาน ผมจึงเตรียมสถานที่แนะนำสำหรับชาวราศีพิจิกโดยเฉพาะครับ ซึ่งสถานที่นั้นคือ น้ำตก ครับ โดยเฉพาะน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นจังหวัดกาญจนบุรี แนะนำเลยครับว่าต้องไปโดนให้ได้ซักครั้งนึงในชีวิต เพราะระหว่างที่เดินไปน้ำตกเนี่ย เราจะได้พบกับธรรมชาติอันสมบูรณ์ที่เรียกได้ว่าติดอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยครับ นอกจากนี้ตัวน้ำตกเองยังมีแบ่งออกไปอีกหลายชั้นด้วย ซึ่งแต่ละชั้นก็สวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว
ธนู (16 ธ.ค. – 15 ม.ค.) : ดวงดีไม่มีหยุด
ชาวราศีธนูในเดือนนี้ บอกเลยครับว่าเกณฑ์ดวงจัดว่าดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน ที่จะได้รับโอกาสหรือได้ไอเดียใหม่ๆมาใช้สร้างสรรค์ผลงาน ถ้าพูดถึงเรื่องของเงินแล้ว จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น จะค้าขายก็ดูง่ายขึ้น ส่วนความรัก คนโสดก็แอบมีคนมาหลงสเน่ห์ แต่ว่าเค้ายังไม่กล้าเปิดเผยตัวเท่าไหร่นักนะครับ แหม่ เดือนนี้มีแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นเลย แบบนี้คงต้องหาที่เที่ยวสนุกๆแถมไว้อีกอันด้วยแล้วกัน สำหรับสถานที่เที่ยวแนะนำในเดือนนี้คือ ตลาดน้ำ ครับ อย่างเช่น ตลาดน้ำอโยธยา, ตลาดน้ำอัมพวา เป็นต้น เพราะเป็นสถานที่ที่ง่ายต่อการเดินทางแล้ว คนทุกเพศทุกวัยก็สามารถไปเที่ยวได้ทั้งนั้น ช่วงเดือนแห่งครอบบครัวแบบนี้ทั้งที บอกเลยครับว่าเหมาะจริงๆ

——————-
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id: @mushroomtravel