8 สกี เกาหลี แห่งคังวอนโด ที่คนไทยไม่ควรพลาด

8 สกี เกาหลี แห่งคังวอนโด ที่คนไทยไม่ควรพลาด

เมื่อพูดถึงหน้าหนาวในเกาหลี แน่นอนว่าเราก็ต้องคิดถึงหิมะ และกิจกรรมมากมายบนลานสกีใช่มั้ยล่ะคะ โดยรีสอร์ท สกี เกาหลี นั้นก็มีอยู่มากมายหลายที่ ทั้งที่ชอลลาโด คยองซังโด คยองกีโด แต่ที่คนส่วนใหญ่นิยมไปกันมากที่สุด แถมที่นี่ยังมีรีสอร์ท สกี เกาหลี มากที่สุด ก็คือที่คังวอนโดนั่นเอง ซึ่งจังหวัดแห่งนี้จะอยู่ห่างออกไปจากกรุงโซลทางทิศตะวันออกประมาณ 2-3 ชั่วโมง จึงสามารถไปกลับได้ภายในวันเดียวหรือค้างคืนที่่โรงแรมในสกีรีสอร์ทก็ได้

1. Oak Valley Snow Park (오크밸리 스키장)

Oak Valley Snow Park เป็นสกีรีสอร์ทสุดหรูขนาดใหญ่ในจังหวัดคังวอนโด ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของต้นโอ๊คใหญ่ในหุบเขา และสภาพแวดล้อมที่สวยงามน่าประทับใจบนพื้นที่ 1.4 ล้านตารางเมตร โดยที่นี่มีเส้นทางสกี 9 เส้นทาง คือสำหรับมือใหม่ 2 เส้นทาง สำหรับผู้เล่นระดับกลาง หรือ Intermediate 5 เส้นทาง และสำหรับผู้เล่นในแบบ Advance อีก 2 เส้นทาง ซึ่งแต่ละเส้นทางก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน นอกจากนั้น Oak Valley Snow Park ยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งโรงแรม สนามกอล์ฟ สปา สนามเด็กเล่น ห้องฟิตเนส ร้านค้า และร้านอาหาร เป็นต้น

ช่วงเวลาการให้บริการ: 08:00-03:00 น. ปิดซ่อมบำรุง 17:00-18:30 น.
การเดินทาง: จากโซล ให้นั่งรถไฟที่สถานี Cheongnyangni ไปลงที่สถานี Wonju แล้วต่อด้วยรถ Shuttle bus ไปลงที่ Oak Valley Snow Park
แผนที่:

2. Welli Hilli Park Ski Resort (웰리힐리파크 스노우파크)

Welli Hilli Park Ski Resort เป็นสกีรีสอร์ทที่ทันสมัยและได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีไม่น้อย โดยเฉพาะคนเกาหลีที่อยู่ในโซล เพราะที่นี่ตั้งอยู่ห่างจากโซลเพียง 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนั้นที่นี่ยังมีอุปกรณ์การเล่นสกีและหิมะที่ทันสมัยกว่าสกีรีสอร์ทอีกหลายๆ แหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำหิมะ และเครื่อง Gondolas ที่ลากผู้เล่นสกีได้มากถึง 20,000 คนต่อชั่วโมง อีกทั้ง Welli Hilli Park ยังมีลานสกีมากถึง 18 เส้นทาง โดย แต่ละเส้นทางก็จะมีการออกแบบที่ไม่เหมือนกัน มีไฮไลท์ที่แตกต่างกันเพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับผู้เล่นมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ผู้เล่นในระดับเริ่มต้นไปจนถึงขั้น Advance เลยทีเดียว

ช่วงเวลาการให้บริการ: 08:30-04:00 น.
การเดินทาง: Welli Hilli Park Ski Resort จะมีรถ Shuttle Bus ของทางรีสอร์ทให้บริการรับส่งที่ป้ายหน้าสถานีรถบัส Wonju ในช่วงฤดูกาลเล่นสกี
แผนที่:

3. Yongpyong Ski Resort (용평리조트 스키장)

Yongpyong Ski Resort ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขา Baekdu Daegan ซึ่งแต่ละปีจะมีหิมะเฉลี่ยสูงสุดถึง 250 เซนติเมตร นั่นจึงทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดเล่นสกียอดนิยมของเกาหลีที่นักท่องเที่ยวหลายคนต่างชื่นชอบ และด้วยความที่สกีรีสอร์ทแห่งนี้มีพื้นที่ใหญ่โตกว่าหมื่นไร่ จึงทำให้เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งโรงแรมขนาดใหญ่ สนามกอล์ฟขนาด 45 หลุม สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น บ่อน้ำพุร้อน ฯลฯ ส่วนในเรื่องของสกีนั้น Yongpyong Ski Resort ประกอบปด้วยลานสกีที่มากถึง 28 เส้นทาง มีลิฟท์ทั้งหมด 15 ตัว และมีเคเบิลคาร์ที่ยาวถึง 3.7 กิโลเมตร อีกทั้งที่นี่ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งสกีในรายการใหญ่ๆ มาแล้ว ทั้ง World Cup Ski Competition และ Asian Winter Games

ช่วงเวลาการให้บริการ: 08:30- 02:30 น.
การเดินทาง: มีรถชัตเติลบัสของทางรีสอร์ทรอรับอยู่ที่ Lotte Mart ทุกวัน
แผนที่:

4. Daemyung Vivaldi Park Ski World (대명 비발디 파크 스키월드)

Daemyung Vivaldi Park Ski World เป็นอีกหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมมากในเกาหลี เพราะที่นี่มีจุดเด่นคือมีตัวเลือกของกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกมากมาย อีกทั้งโรงแรมที่พักยังมีพื้นที่ตั้งอยู่ติดกับลานเล่นสกี จึงให้บรรยากาศที่สวยงามและน่าตื่นเต้นไม่เหมือนใคร โดย Daemyung Vivaldi Park Ski World ประกอบไปด้วยลานสกีให้เลือกสนุกมากถึง 13 เส้นทาง สามารถเล่นได้ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงขั้น Advance เลยด้วย

ช่วงเวลาการให้บริการ: 08:30- 05:00 น.
การเดินทาง: จากโซลให้ขึ้นรถที่ Asia Park โดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ไปลงที่สถานี Sports complex ทางออก 1
แผนที่:

5. Phoenix Park Ski Resort (보광휘닉스파크 스키장)

Phoenix Park Ski Resort เป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเกาหลี นับตั้งแต่ที่ปรากฏในละครยอดนิยมอย่างเรื่อง เพลงรักในสายลมหนาว ที่ออนแอร์ไปเมื่อปี 2545 เป็นต้นมา ซึ่งลานสกีของที่นี่มีพื้นที่ครอบคลุมเนินเขาถึง 7 แห่ง โดยลานสกีแต่ละเส้นทางเรียกว่ามีคุณภาพอยู่ในระดับสูง มีความกว้างเฉลี่ย 46 เมตร โดยจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ ลาน Panorama Slope ที่มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร นอกจากนั้น Phoenix Park Ski Resort ยังประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาว คอนโดมิเนียม สนามกอล์ฟ 18 หลุม สระว่ายน้ำว่ายน้ำกลางแจ้ง ฯลฯ

ช่วงเวลาการให้บริการ: 08:30- 22:30 น.
การเดินทาง: ทาง Ski Resort มี Shuttle Bus รับส่งทุกวัน จากโซลถึงสกีรีสอร์ท รถมีรอบ 06.15 และ 09.30 โดยรถจะจอดอยู่ที่ด้านหลังอาคาร Glass Tower
แผนที่:

6. Elysian Gangchon Ski Resort (엘리시안 강촌 스키장)

Elysian Gangchon Ski Resort ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่รักการเล่นสกี เพราะที่นี่ไม่เพียงมีลานสกีที่เหมาะสำหรับผู้เล่นระดับเริ่มต้นไปจนถึงขั้น Advance เท่านั้น แต่ด้วยรีสอร์ทตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูง ดังนั้นทัศนียภาพของที่นี่จึงสวยงาม ผู้มาเล่นสกีจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติในขณะร่อนลงเนินเขาที่มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร

ช่วงเวลาการให้บริการ: 19:00- 04:00 น.
การเดินทาง: จากโซลให้นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Cheongnyangni แล้วต่อสายที่ไปทาง Chuncheon จากนั้นลงที่สถานี Gangchon c]h;นั่ง Free Shuttle Bus ไปลงที่รีสอร์ทได้เลย
แผนที่:

7. Alpensia Ski Resort (알펜시아리조트 스키장)

Alpensia Ski Resort เป็นรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดคังวอนโดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล นับตั้งแต่หน้าร้อนไปจนถึงหน้าหนาวเลยทีเดียว เนื่องจากตัวรีสอร์ทนั้นมีความสวยงาม ดังชื่อของรีสอร์ท Alpensia ที่ย่อมาจาก Alpen + Asia + Fantasia ซึ่งก็หมายถึง รีสอร์ทที่มีความสวยงามเหมือนเป็นเทือกเขาแอลป์ของเอเชีย นอกจากนั้นที่นี่ยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ไม่เพียงแค่เฉพาะลานสกีเท่านั้น แต่ Alpensia Ski Resort ยังมีทั้งสนามกอล์ฟ สปา ห้างสรรพสินค้า สนามเด็กเล่น สวนน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย

ช่วงเวลาการให้บริการ: 08:30- 22:00 น.
การเดินทาง: สามารถใช้บริการรถชัตเติลบัสของทางรีสอร์ทที่จอดให้บริการในสถานีรถไฟภายในโซล ได้แก่ สถานี Sadang ทางออกที่ 1, สถานี Apgujeong ทางออกที่ 6 และ สถานี Jamsil ทางออกที่ 4
แผนที่:

8. High1 Ski Resort (하이원리조트 스키장)

High 1 Ski Resort เป็นรีสอร์ทที่เรียกได้ว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดของเกาหลี เพราะที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้พันธุ์พื้นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี รวมถึงยังมีดอกไม้ป่าที่สวยงามตลอดทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม นอกจากนั้นในส่วนของลานสกี ที่นี่มีมากถึง 18 เส้นทาง โดยแบ่งออกเป็นระดับเริ่มต้น 5 เส้นทาง ระดับกลาง 3 เส้นทาง และระดับ Advances อีก 10 เส้นทาง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อน และเล่นกีฬาอีกมากมาย ทั้งกาสิโน สนามกอล์ฟ ฯลฯ

ช่วงเวลาการให้บริการ: 08:30- 23:30 น.
การเดินทาง: จากสถานี Dong Seoul Bus Terminal สามารถนั่งรถบัสไปได้ โดยขึ้นรถบัสสายที่ไปยัง Taebaek แล้วไปลงที่สถานี (Sin)Gohan และจากสถานี (Sin)Gohan ให้ขึ้นแท็กซี่ไปลงยัง High 1 Resort ได้เลย
แผนที่:

สำหรับคนที่อยากไปเล่นสกีที่เกาหลี ก็มีสองทางเลือกหลักๆ คือ กรณีที่ไปด้วยตัวเอง หากต้องการความสะดวก ก็อาจจะต้องพักในสกีรีสอร์ทเลย จะทำให้คุ้มค่าและไม่เหนื่อยเท่ากับการเดินทางไปกลับจากกรุงโซลสู่คังวอนโด หรืออีกวิธีก็คือการซื้อทัวร์ ซึ่งราคาจะครอบคลุมทั้งโรงแรมที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเดินทาง รวมไปถึงค่าเล่นสกีเอาไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี ของอย่างนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนค่ะ ว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์เกาหลีให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

wifi สนามบิน หลัก ทั่วโลก พร้อม password แบบฟรีฟรี!!

อะแฮ่ม…ทุกคนค่ะ วันนี้ มัชรูมทราเวล ขอปรับโหมดเป็นผู้รอบรู้ เพราะว่าเราจะพาไป…ดู username กับ password wifi สนามบิน หลักทั่วโลกที่คนไทยชอบไปเที่ยวกันค่ะ

เคยมั้ยเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ต้องไปนั่งรอขึ้นเครื่องที่สนามบินละเบื่อๆ เซ็งๆ ไม่มีอะไรทำ แต่ก็อยากที่จะท่องโลกโซเชียล โพสต์รูป ไลฟ์วีดีโอ ส่งไฟล์งาน บลาๆๆ แต่ดั๊นนนลืมเช่า wifi pocket ติดตัวมา ไม่ก็หมดเวลาเช่า ไม่ก็ซิมการ์ดที่ซื้อที่โน่นหมดวันละ สารพัดเหตุผลที่ทำให้เราไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ค่ะ อยากจะร้องไห้! แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?

จริงๆ โดยส่วนมากตามสนามบินหลักๆ ทั่วโลก เขาจะมีบริการฟรี wifi ทั้งนั้นนะซึ่งหลายคนก็รู้ในจุดนี้ แต่บางทีก็ไม่รู้ username กับ password wifi สนามบิน นั้นๆ น่ะสิ ไม่ต้องกังวลเลยจ้าาา เพราะวันนี้เราจะมาแจก password wifi สนามบิน หลักทั่วโลก ฟรี…ฟรี…ฟรี…และฟรี!!!

โดยเรามาเริ่มจากประเทศยอดฮิตในแถบเอเชียกันก่อนค่ะ

ญี่ปุ่น

การเชื่อมต่อ wifi ของสนามบิน ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ให้สังเกตตามป้ายในสนามบินเลยค่ะ เลือกเชื่อมต่อกับ wifi นั้นๆ ก็จะสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้เลย เป็นไง เริ่ดไหมล่ะ! ยกตัวอย่างเช่น ที่สนามบินนาริตะ, โตเกียว ให้มองหาป้าย FreeWi-Fi-Narita เอาไว้ได้เลยจ้าาา

เกาหลีใต้

การเชื่อมต่อ wifiสนามบิน อินชอน ของเกาหลีนั้น ไม่มี password เช่นกัน เชื่อมต่อปุ๊บ สามารถเล่นได้เลย ไม่ต้องลงทะเบียนขอพาสเวิร์ดให้เสียเวลา ซึ่ง username wifi ของที่นี่คือ AirportWiFi

ขอบอกว่า wifi ที่นี่แรงเฟร่อ แต่ต้องเชื่อมต่อให้ได้ก่อนนะ วิธีการก็ไม่ยาก เลือกเครือข่าย WiFi@Changi เข้าสู่ล็อกอินเพจในหน้าอินเทอร์เน็ต browser จะมีช่องให้ใส่หมายเลขโทรศัพท์ กด submit ไปไม่นานระบบก็จะส่ง password ผ่านทาง sms มาให้ เท่านี้ก็ท่องเว็บได้สบายใจละ

ฮ่องกง

สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายได้ฟรีในเขตพื้นที่สาธารณะ และบริเวณที่นั่งส่วนใหญ่ในอาคารผู้โดยสาร โดยไม่ต้องลงทะเบียนขอใช้อินเทอร์เน็ตใดใด เอาไปเลย 5 ดาว

มาดูที่งฝั่งยุโรปกันบ้างค่ะ

อิตาลี

ที่สนามบินนานาชาติในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ก็มาแจก wifi กันให้ไปใช้ฟรีๆ เลย username AIRPORT FREE WIFI อยากจะอัพเดตทำอะไรก็ไม่มีสะดุด

เยอรมนี

wifiของประเทศ เยอรมนี มีแทบจะทุกสนามบิน แต่เราขอเลือกเป็นที่แฟร้งก์เฟิร์ตละกัน เลือกเน็ตเวิร์ก Frankfurt Airport แล้วลงทะเบียนตามด้วยชื่อ นามสกุล และอีเมลล์

ฝรั่งเศส

ขออัพรูปหอไอเฟลก่อนกลับ! เชี่อมต่อ wifiสนามบิน Charles de Gaulle Airport ด้วย password : HAVANA2016

สวิตเซอร์แลนด์

เชี่อมต่อ wifiสนามบิน ZurichAirport โดยสามารถสอบถามได้ที่ Information ลงทะเบียน ก่อนเดินเข้าเกทไป

ประเทศไทย

กลับมาที่ประเทศไทยของเราบ้าง สำหรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็มีบริการ free wifi ในสนามบินเช่นเดียวกันกับต่างประเทศ และกว่าจะเชื่อมต่อได้แต่ละที หมดเวลาละ #มองบน แต่ส่วนมากจะมีให้บริการเฉพาะเล้าน์ต่างๆ ของสายการบิน ส่วนที่ดอนเมืองยังไม่มีให้บริการตรงจุดนี้จ้าาา

เป็นยังไงคะ วางแผนเที่ยวกันหรือยัง ได้ไปประเทศที่ถูกใจ แถมยังได้เล่นอินเทอร์เน็ตกันฟรีๆ อีกด้วย

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มี โปรแกรมทัวร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id: @mushroomtravel

แนะนำเส้นทางจาก สนามบิน นาริตะ ไปยังโตเกียว

อะแฮ่ม…ทุกคนค่ะ วันนี้ มัชรูมทราเวล ขอปรับโหมดเป็นผู้รอบรู้ เพราะว่าเราจะพาไป กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นกัน หลายคนคงคุ้นเคยกับประเทศญี่ปุ่นดีอยู่แล้ว เพราะเป็นประเทศที่ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลยจริงๆค่ะ เรามักติดใจในความสวยงาม ความเป็นมิตรของคนญี่ปุ่น และอาหารอร่อยๆ ทำให้ต้องพาครอบครัวไปเที่ยวอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะเด็กๆ น่าจะติดใจของเล่นและความล้ำของประเทศญี่ปุ่น ใครที่วางแผนจะพาครอบครัว ไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงปลายปี แต่กังวลเรื่องการเดินทาง เพราะยังไม่รู้จักเส้นทางจากสถานบิน นาริตะ เข้าไปยังโตเกียวดีพอก็ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะ เพราะว่าวันนี้มัชรูมทราเวล จะมาแนะนำทุกคนให้รู้จัก 7 เส้นทางหลักๆ จากสนามบิน ไปยังโตเกียวกัน แถมบางเส้นทางอาจจะช่วยประหยัดเงินได้อีกด้วย มีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

1. AIRPORT LIMOUSINE BUS

รถบัส Limousine เป็นรถที่วิ่งจากสถานบิน นาริตะ เข้าโตเกียว แต่จุดเด่นของคือ จะวิ่งไปตามสถานีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Tokyo Station, Nihonbashi, Shinjuku, Ikebuhuro, Asakusa, Ginza, Proppongi, Shibuya รวมถึงโรงแรมต่างๆ ด้วย สามารถเช็คขอมูลได้ที่เว็บไซต์เลยค่ะ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะจอง เราควรเช็คก่อนว่ารถบัสคันนี้ส่งที่โรงแรมที่เราพักอยู่รึเปล่า ถ้าส่งก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่ต้องเดินทางหลายต่อนะคะ ภายในรถก็ดูหรูหราสะดวกสบาย เอาไปเลย 5 ดาว

ข้อมูลเพิ่มเติม

วิธีการจอง

1. จองผ่านเว็บไซต์ : www.tcat-hakozaki.com
2. เลือกจุดหมายปลายทาง จองเส้นทาง Narita – Tokyo
3. รอรับตั๋ว E- Ticket ผ่านทางอีเมล แล้วปริ้นท์ออกมา
4. นำใบจองไปยื่นที่เคาน์เตอร์เพื่อขอจองเวลาและที่นั่ง

ราคา : ผู้ใหญ่ 3,100 เยน เด็ก (6-12 ปี) 1,550 เยน
จุดจำหน่ายบัตร : สนามบินนาริตะ Terminal 1 ชั้น 1F ที่ Airport Limousine Ticket Counter
สนามบินนาริตะ Terminal 2 ชั้น 2 ที่ Airport Limousine Counter
สนามบินนาริตะ Terminal 3 ชั้น 1F ที่ Limousine Bus Ticket Counter
เวลาเปิด – ปิด
Terminal 1 (North Wing) ตั้งแต่เวลา 9.00 AM – 18.25 PM
Terminal 1 (South Wing) ตั้งแต่เวลา 8.55 AM – 18.20 PM
Terminal 2 ตั้งแต่เวลา 8.50 AM – 18.15 PM
Terminal 3 ตั้งแต่เวลา 8.45 AM – 18.10 PM
ใช้เวลาเดินทาง : 90 นาที
พิกัด :

2. TOKYO SHUTTLE

รถบัส Tokyo Shuttle เป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่จะเดินทางไปยังสถานี Ginza (Yurakucho), Tokyo (Yaesu Gate), Shinonomeshako และ Oedo Onsen Monogatari ออนเซนชื่อดัง ในราคาเดียวตลอดสาย แถมยังเป็นรถบัสที่ราคาประหยัดที่สุดที่จะเดินทางจาก นาริตะ เข้าโตเกียวอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

จุดจำหน่ายตั๋ว

1. จองผ่านเว็บไซต์ : honyaku.j-server.com *สามารถจองล่วงหน้าทางเว็บไซต์ได้ 2 วันก่อนใช้บริการ
2. ซื้อตั๋วที่ Keisei Bus ticket counter ในสนามบินนาริตะ
3. จ่ายสดบนรถบัส

ราคา : เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่จองล่วงหน้า 900 เยน ไม่ได้จองล่วงหน้า 1,000 เยน เด็ก (6-12 ปี) 500 เยน
ไป-กลับ 1,900 เยน (มีตั๋วขายเฉพาะสนามบินนาริตะนะคะ)
เวลาเปิด – ปิด 
Terminal 1 ตั้งแต่เวลา 6.10 AM – 23.25 PM
Terminal 2 (North) ตั้งแต่เวลา 6.00 AM – 23.15 PM
Terminal 2 (South) ตั้งแต่เวลา 6.05 AM – 23.20 PM
Terminal 3 ตั้งแต่เวลา 5.55 AM – 23.10 PM
ใช้เวลาเดินทาง : 75 นาที
พิกัด :

3. THE ACCESS NARITA

The access narita เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากเดินทางเข้าโตเกียวด้วยรถบัส the access narita เป็นรถที่สุดแสนจะประหยัดในเครือ JR เหมาะสำหรับใครที่มีที่พักอยู่ในบริเวณ Tokyo Station หรือ Ginza Station ค่ะ ซึ่งก็คล้ายๆ กับ Tokyo shuttle ต่างกันที่เวลาเดินรถ และการซื้อตั๋วที่ไม่มีการจองล่วงหน้าเท่านั้นเองคะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

จุดจำหน่ายตั๋ว
1. สามารถซื้อตั๋วได้บนรถบัสเลยค่ะ ไม่มีการจองตั๋วล่วงหน้า หรือผ่านเว็บนะ

ราคา : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก (6-12 ปี) 500 เยน
ที่ขึ้นรถ
1. ป้ายรถเบอร์ 31 อยู่บริเวณ Terminal 1 ฝั่ง South Wing
2. ป้ายรถเบอร์ 2,19 อยู่บริเวณ Terminal 2
3. ป้ายรถเบอร์ 2 อยู่บริเวณ Terminal 3
เวลาเปิด – ปิด
Terminal 1 (Arrival No. 31) ตั้งแต่เวลา  7.40-23.00 น.
Terminal 2 (Arrival No. 2) ตั้งแต่เวลา  7.30-22.50 น.
Terminal 2 (Arrival No. 19) ตั้งแต่เวลา 7.35-22.55 น.
Terminal 3 (Arrival No. 2) ตั้งแต่เวลา 7.25-22.45 น.
ใช้เวลาเดินทาง : 1 ชั่วโมง 40 นาที
พิกัด :

4. Narita SKY ACCESS Line – KEISEI SKYLINER

รถไฟด่วนสีน้ำเงิน Keisei Skyliner เป็นรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็ว โดยจะวิ่งไปที่สถานี Nippori และสถานี Ueno ไม่มีการแวะจอดระหว่างทางนะคะ ตรงยาวเข้าโตเกียวเลย ภายในที่นั่งก็มีความสะดวกสบายทั้งที่ชาร์จแบต ที่เก็บสัมภาระต่างๆ ของเราเหมาะสำหรับคนที่มาท่องเที่ยวแบบครอบคัว เพราะมีของและสัมภาระที่ต้องดูแลเยอะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

จุดจำหน่ายตั๋ว
1. จองผ่านเว็บไซต์ : www.keisei.com
2. ซื้อที่เคาน์เตอร์ Keisei Electric Railway ในสนามบินนาริตะ Terminal 1,2,3
ราคา :
– เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 2,470 เยน เด็ก (6-12 ปี) 1,240 เยน
– ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 4,940 เยน เด็ก (6-12 ปี) 2,480 เยน
เวลาเปิด – ปิด
– Terminal 1 วันจันทร์ถึงศุกร์ 7.28 AM – 22.30 PM เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 7.34 AM – 22.30 PM
– Terminal 2,3 วันจันทร์ถึงศุกร์ 7.34 AM – 22.33 PM เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 7.41 AM – 22.33 PM.
ใช้เวลาเดินทาง : 41 นาที
พิกัด :

5. Narita Sky Access Line

รถไฟความเร็วธรรมดาที่วิ่งจากสนามบิน นาริตะ ไปยังโตเกียวโดยจะจอดที่สถานี Asakusa, Nihombashi, Higashi-Ginza, Nippori และ Ueno แถมยังสามารถนั่งไปจังหวัด Chiba ได้อีกด้วยนะคะ ราคาก็ยังถูกว่ารถไฟอื่นๆ อีกด้วย แต่อาจใช้เวลาเดินทางนานกว่า ข้อเสียคือไม่มีที่เก็บสัมภาระ เพราะฉะนั้นต้องดูแลของดีๆ นะ ใครที่สัมภาระเยอะก็อาจจะลำบากนิดหน่อย

ข้อมูลเพิ่มเติม

จุดจำหน่ายตั๋ว
1. จองผ่านเว็บ www.keisei.com
2. เคาน์เตอร์ Keisei Electric Railway ในสนามบินนาริตะ Terminal 1,2,3
ราคา : ผู้ใหญ่ 1,330 เยน เด็ก (6-12 ปี) 670 เยน
เวลาเปิด – ปิด
– Terminal 1 วันจันทร์ถึงศุกร์ 5.41 AM – 22.03 PM เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 5.46 AM – 22.03 PM
– Terminal 2,3 วันจันทร์ถึงศุกร์ 5.44 AM – 22.06 PM เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 5.49 AM – 22.06 PM
ใช้เวลาเดินทาง : 64 นาที
พิกัด :

6. Keisei Main Line – Limited Express

สำหรับรถไฟขบวนนี้จะยิ่งถูกลงไปอีก เพราะว่าไม่เร็วและ ไม่มีที่เก็บกระเป๋าสัมภาระ แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการประหยัดการเดินทาง เอาเงินไปช้อปปิ้งแทน แถมใครที่มีบัตร JR ยังนั่งรถไฟขบวนนี้ฟรีอีกด้วย เป็นรถไฟที่วิ่งไปยังตอนใต้ และตอนเหนือของโตเกียว ไปสุดที่สถานี Ueno ใครที่ไม่รีบและสัมภาระน้อยอันนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

จุดจำหน่ายตั๋ว
1. จองผ่านเว็บไซต์ : www.keisei.com
2. เคาน์เตอร์ Keisei Electric Railway ในสนามบินนาริตะ Terminal 1,2,3
ราคา ผู้ใหญ่ 1,030 เยน เด็ก (6-12 ปี) 520 เยน
เวลาเปิด – ปิด
Terminal 1 วันจันทร์ถึงศุกร์ 5.17 AM – 23.03 PM เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 5.16 AM – 22.03 PM
Terminal 2,3 วันจันทร์ถึงศุกร์ 5.20 AM – 23.06 PM เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 5.18 AM – 23.06 PM
ระดับความรู้ : ★★★★★
ใช้เวลาเดินทาง : 1 ชั่วโมง 10 นาที
พิกัด :

7. JR NARITA EXPRESSES (N’EX)

ใครที่รีบ ชอบความรวดเร็ว อยากจะไปช้อปปิ๊งกันอย่างเต็มที่ N’ex คือคำตอบของคุณเลยค่ะ ใครที่อยากออกไปต่างจังหวัดก็สามารถขึ้นรถไฟนี้ได้ เพราะวิ่งด้วยความเร็วสูงทำให้ใช้เวลาไม่นานแต่ก็ต้องแลกกับการจ่ายค่าตั๋วแพงขึ้นกว่ารถไฟคันอื่นนะคะ และยังไปแวะจอดตามสถานีต่างๆ อีก เช่น Shinagawa, Shibuya, Shinjuku, Ikebukuro, Omiya, Yokohama, Ofuna มีตั๋วให้ซื้อ 2 แบบด้วยนะ แบบOrdinary Cars Ordinary Cars (ตู้ธรรมดา) และ Green Cars (ตู้ชั้นเฟิร์สคลาส) มีห้องน้ำและที่เก็บสัมภาระให้สะดวกสบาย เอาไปเลย 5 ดาว สำหรับ n’ex

ข้อมูลเพิ่มเติม

จุดจำหน่ายตั๋ว
– จองผ่านเว็บไซต์ www.jreast.co.jp
– JR EAST Travel Service Center ในสนามบินนาริตะ Terminals 1,2,3
– JR Ticket Office (Midori-no-madoguchi) ตามสถานีรถไฟใหญ่ๆ ในกรุงโตเกียว
– Travel Service Center (View Plaza) สาขา สถานี Tokyo, Shinjuku, Narita, Haneda
ราคา
– เที่ยวเดียวสำหรับ Ordinary Cars ผู้ใหญ่ 3,020 เยน (มีส่วนลด 50% สำหรับเด็ก) และแบบ Green Cars ผู้ใหญ่ 4,560 เยน
– ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 4,000 เยน เด็ก (6-11 ปี) 2,000 เยน
เวลาเปิด – ปิด
Terminal 1 ตั้งแต่ 7.44 AM – 21.44 PM
Terminal 2,3 ตั้งแต่ 7.47 AM – 21.46 PM
ใช้เวลาเดินทาง : 53 นาที
พิกัด :

เห็นไหมคะว่าไม่เคยไปก็สามารถหาข้อมูลการเดินทางเข้าโตเกียวได้ง่ายๆ แถมยังมีตั้ง 7 เส้นทางให้เลือกตามความสะดวกของแต่ละคนอีกด้วย

ใครที่พาครอบครัวไปเที่ยวแล้วกลัวว่าจะทำไม่ถูกก็สามารถสอบถามมัชรูมทราเวลได้เลยค่ะ รับรองว่าทริปไปเที่ยวโตเกียวครั้งนี้จะต้องสนุกและได้ช้อปปิ้งกันกระจายอีกแน่นอนค่ะ แล้วอย่าลืมติดตามว่าครั้งหน้า มัชรูมทราเวลจะมาแนะนำทริคดีๆ อะไรอีกบ้างด้วยนะคะ

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel