Menu Blog

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

9 ที่เที่ยว หน้าหนาวของ โครงการหลวง ที่คุณต้องหลงรัก

ใครที่หลงใหลในธรรมชาติ อากาศที่แสนบริสุทธิ์ ท่ามกลางทุ่งนา ดอกไม้ ต้นหญ้า ลำธาร และภูเขา รวมไปถึงวิถีชาวบ้านที่เรียบง่าย มัชรูมทราเวลจะพาเพื่อนๆ ตามรอยพ่อหลวงของแผ่นดินกันค่ะ รับรองติดใจแน่นอน!

1. ศูนย์พัฒนา โครงการหลวง ห้วยเสี้ยว จังหวัดเชียงใหม่

Cr. thairoyalprojecttour.com

เรามาเริ่มกันที่ศูนย์พัฒนา โครงการหลวง ห้วยเสี้ยวกันก่อนเลยคะ ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวเพียบ…ไม่ว่าจะเป็น การชมแปลงสาธิตไม้ผลเขตร้อน, แหล่งปลูกมะม่วงหลายชนิด, ชมสวนลิ้นจี่ของชาวบ้านที่ปลูกอยู่รอบๆ ศูนย์, ชมวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเขาเผ่าม้ง โดยเฉพาะประเพณีปีใหม่ม้ง ประเพณีสืบชะตาหลวงประจำหมู่บ้าน ซึ่งจัดขึ้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี และประเพณีตานข้าวใหม่ จัดขึ้นหลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปี หรือจะเที่ยวทางธรรมชาติชมน้ำตกตาดครก น้ำตกขนาดเล็กที่มีน้ำตลอดปี เป็นแหล่งที่มีปลามุงอาศัยอยู่ ซึ่งนับว่าเป็นปลาหายากของประเทศไทยเลยล่ะ
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทาง 108 เชียงใหม่-ฮอด ประมาณ กม.ที่ 10-11 ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวง 1269 หางดง-สะเมิง ระยะทาง 12 กิโลเมตร จะพบป้ายโครงการห้วยเสี้ยวด้านซ้าย เข้าถนนลูกรังอีก 3.5 กิโลเมตร รวมระยะทาง 29 กิโลเมตร ฤดูฝนการคมนาคมลำบาก
แผนที่ :


2. ศูนย์พัฒนา โครงการหลวง แม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

โครงการหลวง

ที่นี่จะมีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาและที่ราบหุบเขามีความลาดชันค่ะ ความเขียวขจีปะทะหน้าเข้าเต็มเปาเลยล่ะ รู้สึกเฟรชมากๆ เราสามารถชมแปลงผักชาวเขาอย่างพวก ถั่วแดงหลวง กะหล่ำ ฟักทอง มันฝรั่ง, ชมแปลงผักไม้เมืองหนาว, ชมการทำนาขั้นบันไดของชาวเขาเผ่าละว้า, ชมวิถีชีวิตของชนเผ่ากะเหรี่ยง, ชมพิพิธภัณฑ์บ้านละว้า ภายในจำลองวิถีชีวิต เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และภาพชนเผ่าดั้งเดิมในสมัยพญามังราย, ชมหัตถกรรมชาวเขา เช่น ทอผ้า ตีมีด เครื่องจักสาน เครื่องประดับต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางชมธรรมชาติบ้านอมพาย เป็นเส้นทางชมพรรณไม้ ดูนก มีจุดชมวิวที่สวยงาม ตามด้วยน้ำตกฮากไม้ใต้ ธารน้ำตกที่มีทิวทัศน์สวยงาม สามารถชมพรรณไม้ป่านานาชนิด หรือชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำสาละวิน ล่องเรือไปตามลำน้ำเพื่อเที่ยวสบเมยหรือหาดทรายต่างๆ ก็เลิศสุดๆ
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (สายเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน) มุ่งหน้าอำเภอแม่สะเรียงถึงบริเวณหน้าป้อมตำรวจบ้านกองลอย ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1270 ตรงไป 34 กิโลเมตร จะพบศูนย์พัฒนา โครงการหลวง แม่สะเรียง เส้นทางนี้สามารถใช้รถได้ทุกประเภท
แผนที่ :

3. ศูนย์พัฒนา โครงการหลวง ห้วยส้มป่อย จังหวัดเชียงใหม่

Cr. thairoyalprojecttour.com

ศูนย์พัฒนา โครงการหลวง ห้วยส้มป่อย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งพัฒนาอาชีพ สังคม และสภาพความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงในพื้นที่ ใครที่ชอบเที่ยวหลากหลายแนะนำค่ะ เพราะที่นี่มีทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ชมแปลงสาธิตพืชผักต่างๆ, การทำนาขั้นบันไดของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง หรือจะไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติออบหลวง เที่ยวน้ำตกแม่เตี๊ยะหรือน้ำตกแม่สะเคอะ แวะจุดชมวิวทิวทัศน์และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยสองเมีย ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ของชาวกะเหรี่ยง ดื่มด่ำธรรมชาติสุดๆ เลยงานนี้
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (สายเชียงใหม่-ฮอด) ถึงอำเภอจอมทองบริเวณ กม.ที่ 58 เลี้ยวขวาเข้าถนนจอมทอง-น้ำตกแม่เตี๊ยะ (ข้างที่ว่าการอำเภอจอมทอง) เข้าไป 7 กิโลเมตร จะพบแยกขวาไปที่ทำการอุทยานฯ น้ำตกแม่เตี๊ยะ เป็นถนนลูกรังตรงไปจนถึงทางเข้าบ้านห้วยส้มป่อย เส้นทางนี้สามารถใช้รถยนต์ได้ทุกประเภท ยกเว้นฤดูฝนควรใช้รถโฟร์วีลไดรฟ์ (ไม่มีบริการรถยนต์รับจ้าง)
แผนที่ :

4. ศูนย์พัฒนา โครงการหลวง ห้วยน้ำขุ่น จังหวัดเชียงราย

Pic 4 Cr.thairoyalprojecttour.com

ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำขุ่น จริงๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนพืชเสพติดค่ะ และเพิ่มรายได้และยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น ใครที่ชอบอยู่แบบ Slow life แนะนำที่นี่ เพราะกิจกรรมของที่ศูนย์นี้จะเน้นธรรมชาติของชาวบ้านจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ชมแปลงส่งเสริมผลผลิตตามฤดูกาล, ชมแปลงไม้ผล, ชมวิถีชีวิตชาวอาข่า พิธีโล้ชิงช้า มีการแต่งกายชุดประจำเผ่าที่สวยงาม การละเล่น การฟ้อนรำของชาวอาข่า เช่น รำกระทุ้งกระบอกไม้ไผ่ แต่มาแล้วต้องไม่พลาดจุดชมทัศนียภาพดอยม่อนล้าน และเส้นทางเดินชมธรรมชาติดอยม่อนล้าน เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกช่วงฤดูหนาวที่สวยมาก และน้ำตกห้วยชมพู เป็นน้ำตกชั้นเดียว สูง 80 เมตร มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติด้วย บอกเลยว่าเตรียมกล้องด่วน!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 118 (เชียงใหม่-เชียงราย) ผ่านอำเภอเวียงป่าเป้า ถึงบริเวณหลัก กม.ที่ 110 บ้านแม่ต๋ำ เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 25 กิโลเมตร สภาพเส้นทางเป็นถนนลูกรังค่อนข้างลำบาก ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ
แผนที่ :

5 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง จังหวัดเชียงใหม่

Cr.thairoyalprojecttour.com

ด้วยแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาอันเกิดจากการขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีพ และขาดการสนับสนุนในด้านต่างๆ ที่นี่จึงมุ่งเน้นพัฒนาอาชีพทางด้านการเกษตรที่เหมาะสม นำรายได้ที่มั่นคงมาสู่ชุมชนนั่นเอง โดยศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงตั้งอยู่ในหุบเขา ทัศนียภาพจึงสวยงามเป็นพิเศษ สวย เคลิ้ม มาก ค่ะ !! เราสามารถชมแปลงสาธิตการผลิตพืชผัก ไม้ดอก ไม้ผลตามฤดูกาล หรือจะไปเที่ยวน้ำตกห้วยกระแสก็สวยมากๆ
ใครที่เป็นสายลุยหน่อยก็ไปเลย “น้ำตกบ้านโป่งสมิต” ที่ต้องเดินเท้าผ่านทุ่งนา เราจะได้ชมวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง หรือไปไหว้พระที่วัดพระธาตุศรีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เสริมบารมีกันหน่อยก็ดี้ดี นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง อย่างเช่น “ปางช้างแม่วิน” ห่างจากศูนย์ประมาณ 15 กิโลเมตร มีกิจกรรมการล่องแพและขี่ช้างตามลำน้ำแม่วาง, “ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่” ห่างจากศูนย์ประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีการปลูกต้นนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งจะออกดอกช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมของทุกปี และ “หน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะงะ” อยู่ห่างจากศูนย์ประมาณ 17 กิโลเมตร ใครชอบเดินป่าต้องไปเลยล่ะค่ะ
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงศูนย์ประมาณ 65 กม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหมายเลข 108 สายเชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอสันป่าตองประมาณ 700 เมตร ให้เลี้ยวขวาไปตำบลบ้านกาด ผ่านอำเภอแม่วางและปางช้างแม่วิน กระทั่งถึงวัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ ศูนย์อยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตร ระยะทางแยกอำเภอสันป่าตองถึงศูนย์ 48 กิโลเมตร (หมายเหตุ : ใช้รถยนต์ได้ทุกประเภท ถนนลาดยางเดินทางได้ตลอดทั้งปี แต่ไม่ควรบรรทุกสัมภาระจนหนักเกิน เพราะเป็นเส้นทางขึ้นเขาและคดเคี้ยว (ไม่มีบริการรถยนต์รับจ้าง)
แผนที่ :

6. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

Cr. thairoyalprojecttour.com

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “ให้ช่วยเขา ช่วยตัวเอง” มีพระราชประสงค์ให้ชาวไทยภูเขาที่พักอาศัยอยู่ตามดอยต่างๆ ทางภาคเหนือเลิกปลูกฝิ่น และทำไร่เลื่อนลอย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ป่าไม้ และต้นน้ำลำธารของประเทศถูกทำลาย จากเดิมที่เป็นดอยหัวโล้นแปรสภาพเป็นขุนเขาแห่งความอุดมสมบูรณ์ ด้วยการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ไม้ผลกว่า 12 ชนิด ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด และดอกไม้เมืองหนาวกว่า 20 ชนิด

 Cr. thairoyalprojecttour.com

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มีพื้นที่สำหรับวิจัยทดสอบพันธุ์พืชเขตหนาวจำนวน 1,800 ไร่ มีหมู่บ้านชาวเขาบริเวณรอบสถานี สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปีมาตอนไหนก็ฟิน~ แลนด์มาร์กต้องโดนคือจุดท่องเที่ยวในสถานีอย่างสวนแปดสิบ สวนกลางแจ้งตรงข้ามสโมสรอ่างขางเป็นสวนตกแต่งสไตล์อังกฤษ มีดอกไม้ ไม้ประดับปลูกหมุนเวียนตลอดทั้งปี แถมด้านบนยังเป็นลานต้นซากุระญี่ปุ่นจะบานช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม และ สวนหอม ที่รวบรวมพรรณไม้ที่มีกลิ่นหอมทั้งในและต่างประเทศ งานนี้สาวๆ ต้องพกกล้องตลอดทริปนะคะ! นอกเหนือจากที่ว่ามา สถานีเกษตรหลวงอ่างขางยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเพียบเลยล่ะ เหมาะกับการมากับเป็นแกงค์สุดๆ
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง ผ่านอำเภอแม่ริม แม่แตง เชียงดาว ไชยปราการ ถึง กม.ที่ 137 เลี้ยวซ้าย สู่ทางหลวงหมายเลข 1249 ขึ้นไปอีก 25 กิโลเมตร จนถึงดอยอ่างขางเส้นทางลาดชันมาก และเส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 107 ถึงแยกเมืองงายเลี้ยวซ้ายสู่ทางหลวงหมายเลข 1178 ผ่านบ้านอรุโณทัย ขึ้นดอยอ่างขาง 45 กิโลเมตร ทั้ง 2 เส้นทางใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
แผนที่ :

7. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก จังหวัดเชียงใหม่

Cr.thairoyalprojecttour.com

ใครที่เป็นสาวกกาแฟ สักครั้งในชีวิตต้องมานะคะ มาชมแหล่งผลิตกาแฟอราบิก้าคุณภาพดีของโครงการหลวง ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติป่าไม้และลำน้ำจากน้ำตก มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำโครงการหลวงแห่งแรก และ เที่ยว บ้านแม่กำปอง ชมวิถีชีวิตชาวพื้นเมือง การทำสวนเมี่ยง หมัก-นึ่งเมี่ยงแบบดั้งเดิม และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สวนสมุนไพร เราสามารถติดต่อให้ไกด์ท้องถิ่นนำชมหมู่บ้านได้ นอกจากนี้ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ที่ได้รับรองมาตรฐานด้วยนะ ที่สำคัญคือมีจุดชมวิวสวยๆ ต้องถ่ายให้ได้ คือ จุดชมวิวดอยม่อนล้าน, จุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งบาน และทะเลหมอกช่วงฤดูหนาว สวยจนลืมเวลาไปเลย!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : เส้นทางที่ 1 (ทางคดเคี้ยว) จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 118 ผ่าน อำเภอดอยสะเก็ด กม.ที่ 27 เลี้ยวขวาผ่านบ้านโป่งกุ่ม แม่ตาดิน ถึงแยกห้วยแก้วเลี้ยวขวาไปจนถึงที่ทำการศูนย์ ระยะทาง 43 กิโลเมตร และ เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางสายดอนจั่น-อำเภอแม่ออน ผ่านน้ำพุร้อนสันกำแพงไป ถึงแยกห้วยแก้วเลี้ยวขวาไปจนถึงที่ทำการศูนย์ ระยะทาง 55 กิโลเมตร
แผนที่ :

8. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ จังหวัดเชียงใหม่

Cr. thairoyalprojecttour.com

เป็นอีกศูนย์ที่บรรยากาศชนะขาดจริงๆ อย่างเช่น ดอยม่อนยะ จุดที่สูงที่สุดในพื้นที่ ตลอดทางสู่ยอดดอยเราจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงาม และชมดอกซากุระบาน (นางพญาเสือโคร่ง) ช่วงฤดูหนาวในพื้นที่ศูนย์ และได้ฟินไปกับสวนสตรอเบอร์รีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่บ้านบ่อแก้ว ใครชอบเดินป่าต้องไปที่ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะงะ อยู่ห่างจากศูนย์ประมาณ 7 กิโลเมตร ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะกางเต็นท์ซึมซับกับธรรมชาติจากป่าค่ะ นอกจากนี้ยังมี รอยพระบาท ที่คนในชุมชนเชื่อว่าเป็นรอยพระบาทของคนยุคสมัยโบราณ ส่วนใครที่อยากเดินชิลล์ก็แนะนำให้ไปชมแปลงสาธิตการผลิตพืชผักเมืองหนาว และสาธิตการเพาะกล้าผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ และชมแปลงสาธิตการผลิตไม้ผล รับรองต้องฟินแน่ๆ
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงศูนย์ประมาณ 101 กม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (สายเชียงใหม่-ฮอด) ถึงอำเภอสันป่าตองเลี้ยวขวาบริเวณแยกบ้านกาด เข้าทางหลวงหมายเลข 1013 (ถนนสันป่าตอง-แม่วาง) อีก 27 กิโลเมตร ผ่านศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงไปอีก 16 กิโลเมตร จะถึงศูนย์
แผนที่ :

9. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน จังหวัดเชียงราย

pic-9

อยาก Slow life ชิลล์ๆ บรรยากาศดีๆ ขอแนะนำ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน เพราะที่นี่เน้นธรรมชาติจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ชมแปลงส่งเสริมและสาธิตผลผลิตตามฤดูกาล, ชมแปลงไม้ดอก เช่น ไฮเปอร์ริกัม เฟิร์นเขากวาง, ชมวิถีชีวิตของชาวเขา อย่างเช่น การตำข้าวโดยใช้ครกกระเดื่อง การทอผ้ากี่เอวแบบกะเหรี่ยงของกลุ่มแม่บ้าน การทำไม้กวาดดอกหญ้าของกลุ่มแม่บ้านเมืองน้อย การตีเครื่องเงินแบบกรรมวิธีโบราณ แต่ถ้าอยากท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็มี บ่อน้ำพุร้อนแม่ขะจาน และน้ำตกเมืองน้อย เป็นน้ำตกจากหน้าผาสูง 10 เมตร ไหลเป็นทางไปจนถึงน้ำตกห้วยม่วง มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ป่าเขา พรรณไม้ และที่พลาดไม่ได้คือของฝากงานหัตถกรรมชาวเขา ติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านสักนิด

pic-10

ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 118 (เชียงใหม่-เชียงราย) ประมาณหลัก กม.ที่ 63-64 จะมีทางแยกซ้ายตรงทางเข้าโครงการ เป็นถนนลาดยาง 8 กิโลเมตร ต่อด้วยถนนลูกรัง 1 กิโลเมตร รวมระยะทาง 72 กิโลเมตร
แผนที่ :

เป็นอย่างไรบ้างคะ หน้าหนาวนี้เพื่อนๆ ต้องปักหมุดสักที่แล้วล่ะ น่าไปขนาดนี้ ใครมันจะอยากพลาดกัน!


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel


วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

7 พิกัดตามล่า แสงเหนือ แห่งฟินแลนด์ ดินแดนทะเลสาบ

แสงเหนือ

7 พิกัดตามล่า แสงเหนือ แห่งฟินแลนด์ ดินแดนทะเลสาบ

เมื่อพูดถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ “แสงเหนือ” น่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติอันดับต้นๆ ที่มนุษย์อย่างเราๆ ต้องการจะไปเห็นด้วยตาของตัวเองมากที่สุด โดยประเทศยอดนิยมสำหรับการตามหา แสงเหนือ ที่คนไทยคุ้นเคยก็ได้แก่ ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ กรีนแลนด์ เป็นต้น นอกจากนี้ แสงเหนือ ยังปรากฏในอยู่ในสถานที่ต่างๆ จากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวไทยก็สามารถไปเยือนได้แบบสบายๆ
8607067695_a851a02770_k
ด้วยเหตุนี้ มัชรูมทราเวลจึงจะพาทุกท่านไปตามล่าหา แสงเหนือ กันที่ประเทศฟินแลนด์ ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสาบ เพราะเป็นที่ตั้งของทะเลสาบมากถึง 187,888 แห่ง นอกจากนั้น จุดเด่นของฟินแลนด์ที่น่าท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างหลงรักก็คือ 1. ฟินแลนด์เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าปลอดภัยที่สุดในโลก 2. แม้จะเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนละติจูดที่อยู่สูงมาก แต่ฟินแลนด์กลับค่อนข้างอบอุ่น เพราะได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม 3. ฟินแลนด์ตั้งอยู่เหนืออาร์กติกเซอร์เคิล จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ในจุดที่เหนือที่สุดของฟินแลนด์
13891980133_9a190ab0c7_b

16890533171_db31825e22_b

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการล่าแสงเหนือ

ปกติแล้วแสงเหนือจะเกิดขึ้นแทบจะทั้งปีเลยล่ะค่ะ เพียงแต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนที่เกิดขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก อาจจะทำให้เราไม่สามารถมองเห็นแสงเหนือได้ก็เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่ต้องการล่าแสงเหนือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุด ก็คือในเดือนที่มีเวลากลางคืนที่ยาวนาน อย่างเช่นฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนมีนาคม ช่วงนี้เวลากลางคืนจะยาวนานกว่าปกติ ดังนั้นช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนมีนาคม จึงถือเป็นช่วงเวลาที่เราจะสามารถเห็นแสงเหนือได้ดีที่สุดนั่นเองค่ะ
ทั้งนี้จุดที่ดีที่สุดในฟินแลนด์ซึ่งเราสามารถไปตามล่าหาแสงเหนือได้ ก็มีอยู่ด้วยกันหลายที่ โดยมัชรูมทราเวลได้รวบรวมมาให้ได้ทราบกัน ดังนี้

1. Lapland

lapland-3
Lapland ได้ชื่อว่าเป็นบ้านของกวางเรนเดียร์ค่ะ เพราะที่นี่มีกวางเรนเดียวอาศัยอยู่ถึง 200,000 ตัว ขณะที่มีมนุษย์เพียง 183,000 คนเท่านั้น นอกจากนั้น Lapland ยังประกอบไปด้วยอุทยานแห่งชาติถึง 6 แห่ง ซึ่งในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะกลายเป็นสนามสกีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ นอกจากนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการอยากมาเห็นแสงเหนือด้วยสายตาตัวเอง คุณก็สามารถพบเห็นได้ในหลายสถานที่ทั่วทั้ง Lapland โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยถึง 200 คืน จาก 365 คืนต่อปีเลยทีเดียว
lapland-2
แผนที่:

2. Menesjärvi

menesjarvi
Menesjärvi เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง Sami อีกทั้งยังเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามไปจนจรด อุทยานแห่งชาติ Lemonjoki นอกจากนี้ยังมีมลพิษทางแสงน้อยสุดๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ในท้องฟ้าในแถบนี้จะสามารถมองเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจนและง่ายดายที่สุดนั่นเอง
แผนที่:

3. Nellim

nellim-4
Nellim ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ใกล้ๆ กับชายฝั่งของทะเลสาบน้ำแข็ง Inari และล้อมรอบไปด้วยพื้นที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาล แล้วด้วย Nellim ตั้งอยู่ในภูเขาที่เงียบสงบและห่างไกลจากชุมชม จึงทำให้ที่นี่คือสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดูแสงเหนือท่ามกลางความมืดมิดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว
nellim-3
แผนที่:

4. Harriniva and Torassieppi

harriniva

Harriniva และ Torassieppi เป็นย่านที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเขตเมือง ซึ่งทั้งสองแห่งนี้ถือเป็นจุดที่ดีที่สุดสำหรับการทำกิจกรรมฤดูหนาวในฟินแลนด์ ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่นจากคนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ที่นี่ นอกจากนั้น Harriniva และ Torassieppi ยังเป็นหนึ่งในจุดชมแสงเหนือที่โดดเด่นที่สุดในฟินแลนด์อีกด้วย
แผนที่:

5. Inari

Aurora borealis at Ukonjärvi-Inarijärvi, Finland

Inari เป็นหมู่บ้านริมฝั่งทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเขตนี้ ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งอยู่ในเทศบาลเมืองอินารีทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Lapland อันเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาว Sámi ที่อาศัยอยู่ ณ พื้นที่แห่งนี้มาเกือบ 9,000 ปี ไม่เพียงแค่นั้น Inari ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ มีหลากหลายกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน ทั้งการขับรถลุยหิมะ เล่นสกี ตกปลาน้ำแข็ง และที่สำคัญคือ ที่นี่ยังเป็นจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในฟินแลนด์ด้วยค่ะ
แผนที่:

6. Luosto

luosto-1

Luosto คือสกีรีสอร์ทขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ใจกลางของ Lapland ที่ล้อมรอบไปด้วยฉากหลังที่งดงามของอุทยานแห่งชาติ Pyhä-Luosto ที่ประกอบไปด้วยภูเขาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งอายุกว่า 200 ล้านปี โดยไฮไลท์ของที่นี่นอกจากจะมีลานสกี 7 แห่ง ที่รวมพื้นที่กว่า 150 กิโลเมตรแล้ว Luosto ยังเป็นจุดชมแสงเหนือความยาวถึง 35 กิโลเมตรที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

luosto-2

แผนที่:

7. Muotka

muotka-1

Muotka เป็นสถานที่เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางป่า Taiga ซึ่งอยู่ในชายแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟินแลนด์ไปจนถึงรัสเซีย โดยในช่วงหน้าหนาวที่นี่จะมีสภาพที่งดงามมากเป็นพิเศษด้วยต้นไม้ที่ถูกราดด้วยน้ำค้างแข็งและภูเขาหิมะที่สลับซับซ้อน และด้วยความห่างไกลของพื้นที่ที่ปราศจากมลพิษทางแสง นั่นจึงทำให้ท้องฟ้าของที่นี่ในยามค่ำคืน เต็มไปด้วยแสงเหนือที่พาดผ่านบนท้องฟ้าเป็นวงกว้าง

muotka-2

แผนที่:

นอกจากทั้ง 7 แห่งนี้ ที่ฟินแลนด์ยังมีพื้นที่อื่นๆ ที่เราสามารถตามล่าหาแสงเหนือได้อีก ทั้งที่ Muonio, Kittila, Saariselka, Helsinki, Kilpisjarvi เป็นต้น หรือถ้าคิดว่ายังไม่สะใจพอ อยากจะสัมผัสแสงเหนือให้ใกล้ชิดมากกว่านี้ ก็ขอแนะนำให้ไปพักที่ Hotel Aurora ค่ะ เพราะที่ โรงแรมจะส่งสัญญาณเตือนดังขึ้นเพื่อเรียกคุณออกไปชมเมื่อเกิดปรากฏการณ์ขึ้นบนท้องฟ้านั่นเอง

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ฟินแลนด์ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel