Menu Blog
▼
วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558
7 แหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม
“ฮานอย” เมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศเวียดนามที่มีอายุมากกว่าพันปี ทั้งยังเป็นเมืองหลวงที่มีความสวยงามโดดเด่น ด้วยสองฟากถนนที่เรียงรายไปด้วยตึกอาคารในสไตล์โคโลเนียล ทำให้เมืองฮานอยกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องของสถาปัตยกรรมคลาสสิก รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม อีกทั้งการเดินทางมายังฮานอยก็ยังสะดวกสบาย ไม่ว่าจะทางรถโดยสารประจำทางหรือเครื่องบิน รวมทั้งยังมีแพ็กเกจทัวร์ให้เลือกเดินทางไปยังฮานอยหลากหลายโปรแกรมในราคาที่คุ้มค่า เพราะราคาดังกล่าวนั้นได้รวมทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร รถโดยสาร และไกด์นำเที่ยวไว้แล้ว ซึ่งวันนี้มัชรูมทราเวลก็จะพาท่านไปพบกับ 7 แหล่งท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของเมืองฮานอยกันค่ะ
สุสานโฮจิมินห์คือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งประเทศเวียดนามที่ตั้งอยู่กึ่งกลางจัตุรัสบาสติงห์แห่งเมืองฮานอย ซึ่งสถานที่ตรงนี้เองที่ในอดีตโฮจิมินห์ใช้เป็นสถานที่อ่านคำประกาศอิสรภาพของเขาเมื่อปี ค.ศ. 1945 และในปัจจุบันที่นี่ก็ได้กลายมาเป็นที่ตั้งสุสานของท่าน โดยการก่อสร้างนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสุสานของเลนินในกรุงมอสโก ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมเวียดนามอย่างลงตัว กลายมาเป็นสุสานโฮจิมินห์ที่ยิ่งใหญ่ด้วยความสูงถึง 21.6 เมตรในปัจจุบัน นอกจากนั้นที่นี่ยังกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เนื่องจากภายในสุสานมีโลงแก้วที่เก็บรักษาร่างของโฮจิมินห์ไว้ภายในเพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้จักกับผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวียดนามนั่นเอง ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการมาเยือนที่นี่ต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย งดเว้นการสวมใส่กางเกงหรือกระโปรงสั้น ห้ามพูดคุยส่งเสียงดัง และยังห้ามสูบบุหรี่ภายในบริเวณ รวมถึงการถ่ายรูปและบันทึกวิดีโอด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเวียดนามแล้วหลงใหลในวัฒนธรรมของชาวเวียดนามจนอยากศึกษาถึงความเป็นมานับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแล้วล่ะก็ ต้องเดินทางมาที่นี่เลยค่ะ “พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาเวียดนาม” ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองฮานอยประมาณ 8 กิโลเมตร โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้แบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ส่วน คือส่วนแรกจะเป็นพิพิธภัณฑ์แบบปิดซึ่งอยู่ในตัวอาคาร 2 ชั้น ภายในมีการจัดนิทรรศการเรื่องราวเกี่ยวกับชาติพันธุ์ของชาวเวียดนามที่มีถึง 54 กลุ่ม โดยใช้สื่อผสมทั้งภาพถ่าย วัตถุ วิดีทัศน์ หุ่นจำลอง เป็นต้น สำหรับส่วนที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงบ้านจำลองของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเข้าไปชมภายในบ้านได้ ภายในจะมีเจ้าหน้าที่คอยเตรียมน้ำชาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย
วิหารวรรณกรรมวันเหมียว หรือวัดจอหงวน คือที่เที่ยวอีกแห่งในฮานอยที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เนื่องจากเป็นวัดโบราณที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานเกือบพันปี อีกทั้งยังมีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนามอีกด้วย โดยวิชาที่สอนก็จะเป็นวิชาปรัชญาของขงจื๊อ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เป็นต้น จนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 18 จึงได้ปิดตัวลงและถูกทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า จนกระทั่งปัจจุบันที่นี่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่และกลายเป็นสถานที่ที่รวบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และการศึกษาของเวียดนามที่สำคัญที่สุดในเมืองฮานอยก็ว่าได้ นอกจากนั้นภายในวิหารวรรณกรรมแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรม ที่รวบรวมผลงานด้านศิลปะทุกแขนงนับตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันไว้มากมาย
การแสดงหุ่นกระบอกน้ำถือเป็นวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวเวียดนามที่ปัจจุบันหาชมได้ค่อนข้างยาก เพราะเหลือเพียงไม่กี่คณะเท่านั้นที่ยังทำการแสดงอยู่ โดยโรงละครหุ่นกระบอกน้ำตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของของทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม บนถนนดิงห์เตียมฮว่าง ณ กรุงฮานอย สนนราคาค่าเข้าชมท่านละ 20,000 และ 40,000 ดอง โดยภายในโรงละครจะมีฉากที่ตกแต่งในแบบฉบับสถาปัตยกรรมเวียดนามซึ่งทำด้วยไม้ไผ่เป็นผืนมู่ลี่กางไว้ในระดับผิวน้ำ ส่วนการแสดงหุ่นกระบอกน้ำนั้นจะมีผู้ควบคุมหุ่นอยู่ในน้ำข้างหลังฉาก โดยเรื่องราวในการแสดงก็จะเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ประเพณี ความเชื่อของชาวเวียดนาม เป็นต้น
เจดีย์เสาเดียว หรือจั่วโหมดโกด เป็นเจดีย์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียวกลางสระบัว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสุสานโฮจิมินห์มากนัก ที่นี่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1409 ตามคำสั่งของกษัตริย์หลีไทตง ซึ่งมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับประวัติของเจดีย์เสาเดียวแห่งนี้ว่า พระเจ้าหลีไทตงกษัตริย์ผู้ครองฮานอยทรงกลัดกลุ้มเนื่องจากยังไม่มีรัชทายาทสืบสันติวงศ์ จนกระทั่งคืนหนึ่งพระองค์ก็ได้สุบินเห็นเจ้าแม่กวนอิมประทับอยู่ในดอกบัวได้พาพระองค์เดินทางไปที่ศาลแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางสระบัว จากนั้นจึงส่งทารกเพศชายในอ้อมกอดให้พระองค์ และหลังจากเหตุการณ์ความฝันครั้งนั้นไม่นานพระชายาของพระองค์ก็ทรงให้กำเนิดพระโอรสจริงๆ พระองค์จึงโปรดให้สร้างเจดีย์เสาเดี่ยวนี้ขึ้นเพื่อถวายแด่องค์เจ้าแม่กวนอิมนั่นเอง ปัจจุบันชื่อเสียงของเจดย์แห่งนี้ทำให้มีผู้มาอธิษฐานขอให้ได้ลูกชายมากมายในแต่ละวัน
ย่านโอลด์ควอเตอร์คือย่านเมืองเก่าในกรุงฮานอยที่มีเอกลักษณ์ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นเวียดนามในแบบดั้งเดิมได้อย่างชัดเจน ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ชอบมาเดินชมบรรยากาศความเก่าแก่และช้อปปิ้งสินค้าราคาประหยัดตามถนนตรอกซอกซอยที่ทอดยาวทับซ้อนกันถึง 36 ซอย โดยในแต่ละซอยก็จะมีทั้งร้านอาหารพื้นเมือง ร้านขายของเก่า ร้านค้าแผงลอยที่ส่วนใหญ่จะขายสินค้าแตกต่างกันออกไปในแต่ละซอย อย่างเข่นของที่ระลึก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ งานฝีมือ ฯลฯ ที่สำคัญสินค้าที่นี่ยังสามารถต่อรองได้อีกด้วย
โรงละครฮานอย หรือ Hanoi Opera House เป็นโรงละครกลางเมืองฮานอยที่ตั้งอยู่ในบริเวณวงเวียนห้าแยกตรงหัวมุมถนน Ly Thai To ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่เวียดนามยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสระหว่างปี ค.ศ. 1901 – 1911 โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่คล้ายกับโรงอุปรากรปาแลการ์นีเยแห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส บวกกับสถาปัตยกรรมกรีกโดยจะสังเกตได้จากต้นเสาของโรงละครนั่นเอง นอกจากนั้นภายในโรงละครยังตกแต่งอย่างหรูหรางดงาม สามารถจุคนดูได้ถึง 900 ที่นั่ง และปัจจุบันที่นี่ยังมีการจัดการแสดงอย่างสม่ำเสมอ โดยการแสดงส่วนใหญ่จะเน้นไปดีการแสดงดนตรีคลาสสิก เป็นต้น
วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558
3 แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังแห่งเกาะฮ่องกงที่นักช้อปไม่ควรพลาด
เมื่อพูดถึงเกาะฮ่องกง แน่นอนว่าเราก็มักจะคิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างฮ่องกงดิสนีย์แลนด์, วิคตอเรียพีค, อะเวนิว ออฟ สตาร์, โอเชี่ยนปาร์คฮ่องกง, วัดหว่องไท่ซิน ฯลฯ หรือหากเป็นในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลลดทั้งเกาะ ก็ดูจะเหมาะสำหรับขาช้อปชาวไทยทั้งหลายที่นอกจากจะได้เที่ยวแล้วยังได้ช้อปปิ้งสินค้าราคาถูกที่ 1 ปีจะมีเพียงครั้งเดียว นั่นก็คือในช่วงเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคมเท่านั้นเอง เอ... แล้วถ้าหากนักท่องเที่ยวพลาดช่วงเทศกาลลดทั้งเกาะไปแล้วล่ะจะมีแหล่งขายสินค้าราคาถูกตรงไหนในฮ่องกงให้ช้อปได้บ้าง วันนี้มัชรูมทราเวลจะพาคุณไปรู้จักกับ 3 ไนท์มาร์เก็ตชื่อดังแห่งเกาะฮ่องกง ที่บอกได้คำเดียวว่า “พลาดไม่ได้” ค่ะ
How to get there: จากโรงแรมที่พัก ให้นั่งรถไฟฟ้า MTR มายังสถานี Mong Kok ทางออก E2 หรือลงที่สถานี Yau Ma Tei ทางออก A2 จากนั้นจึงเดินไปยังถนน Tung Choi Street ก็จะพบกับ Ladies Market แล้ว
How to get there: Temple Night Street Market ตั้งอยู่บนบนถนน Temple Street ย่าน Yau Ma Tei ระหว่างสถานี MRT Yau Ma Tei กับสถานี Jordan สามารถเดินทางไปได้โดยการนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Yau Ma Tei ทางออก C จากนั้นเดินกลับหลังย้อนกลับขึ้นไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Temple Street
How to get there: Sneaker Street ตั้งอยู่บนถนน Fa Yuen Street ย่าน Mong Kok ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ โดยการนั่งรถไฟฟ้า MTR สายสีแดงมาลงที่สถานี Mong Kok ทางออก D3 จากนั้นจึงเดินเท้าเข้าสู่ถนน Fa Yuen Street
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 3 แหล่งช้อปปิ้งยามค่ำคืนชื่อดังแห่งเกาะฮ่องกงที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากทุกท่าน หวังว่าคงจะถูกใจกันนะคะ อย่างไรก็แล้วแต่มัชรูมขอเตือนนักช้อปอย่างหนึ่งว่า ช้อปน้อยๆ แต่พอดี มองหาสิ่งที่เราต้องการที่สุดเสียก่อน ไม่งั้นกระเป๋าจะน้ำหนักเกินไม่รู้ตัวนะเจ้าคะ
1. Ladies Market
Ladies Market คือตลาดกลางคืนยอดนิยมแห่งหนึ่งบนถนน ถนน Tung Choi Street ในย่าน Mong Kok ซึ่งเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนกันเลยล่ะค่ะ โดยตลาดแห่งนี้จะเต็มไปด้วยร้านรวงขนาดเล็กมากกว่า 100 ร้านค้าเต็มพรืดไปหมด ทั้งนี้สินค้าส่วนใหญ่จะเน้นทาร์เก็ตสำหรับหญิงสาวโดยเฉพาะตามชื่อของตลาดนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง กระเป๋า ของตกแต่งบ้าน ตุ๊กตา ของที่ระลึกน่ารักๆ เป็นต้น ที่สำคัญคุณสาวๆ ที่มาช้อปยังตลาดแห่งนี้ยังสามารถต่อรองราคาสินค้าได้อีกด้วย ทำให้ผู้มาเยือนยิ่งมีความสนุกในการเลือกซื้อหาสินค้ามากยิ่งขึ้นไปอีกHow to get there: จากโรงแรมที่พัก ให้นั่งรถไฟฟ้า MTR มายังสถานี Mong Kok ทางออก E2 หรือลงที่สถานี Yau Ma Tei ทางออก A2 จากนั้นจึงเดินไปยังถนน Tung Choi Street ก็จะพบกับ Ladies Market แล้ว
2. Temple Street Night Market
หลังจากไปช้อปปิ้งที่ Ladies Market มาแล้ว อีกแห่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเช่นกันก็คือ Temple street Market ซึ่งน่าจะเรียกว่าเป็นตลาดสำหรับคุณผู้ชายก็ว่าได้ เพราะที่นี่จะเน้นขายสินค้าสำหรับผู้ชายเป็นส่วนใหญ่อย่างเช่นสินค้าจำพวกกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นาฬิกา ของเล่น ของสะสม ของที่ระลึก นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ภายในบ้าน รวมทั้งร้านอาหารทะเลราคาถูกให้ได้แวะชิมกันอีกด้วย โดย Temple street Market เปิดให้บริการสำหรับนักช้อปทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 – 24.00 น. ส่วนเรื่องของราคาสินค้าของที่นี่ บางร้านนักท่องเที่ยวสามารถต่อรองราคาได้มากถึงครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียวHow to get there: Temple Night Street Market ตั้งอยู่บนบนถนน Temple Street ย่าน Yau Ma Tei ระหว่างสถานี MRT Yau Ma Tei กับสถานี Jordan สามารถเดินทางไปได้โดยการนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Yau Ma Tei ทางออก C จากนั้นเดินกลับหลังย้อนกลับขึ้นไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Temple Street
3. Sneaker Street
สำหรับสถานที่สุดท้ายสำหรับขาช้อปที่มัชรูมทราเวลจะขอแนะนำทุกท่านในวันนี้ก็คือ Sneaker Street หรือตลาดรองเท้าคุณภาพดีราคาถูกที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮ่องกง เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักรองเท้าก็ว่าได้ โดยรองเท้าที่วางขายที่นี่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรองเท้าแฟชั่นและรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังหลากหลายแบรนด์ ทั้งยี่ห้อ Adidas, Nike, Acupuncture, New Balance, Onitsuka Tiger เป็นต้น นอกจากนั้นที่นี่ยังมีอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ รวมถึงสินค้าประเภทกระเป๋า เสื้อผ้า ของที่ระลึกให้ได้ช้อปปิ้งกันอย่างหนำใจอีกด้วย ซึ่ง Sneaker Street เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เที่ยงวันจนถึง 21.30 น.How to get there: Sneaker Street ตั้งอยู่บนถนน Fa Yuen Street ย่าน Mong Kok ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ โดยการนั่งรถไฟฟ้า MTR สายสีแดงมาลงที่สถานี Mong Kok ทางออก D3 จากนั้นจึงเดินเท้าเข้าสู่ถนน Fa Yuen Street
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 3 แหล่งช้อปปิ้งยามค่ำคืนชื่อดังแห่งเกาะฮ่องกงที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากทุกท่าน หวังว่าคงจะถูกใจกันนะคะ อย่างไรก็แล้วแต่มัชรูมขอเตือนนักช้อปอย่างหนึ่งว่า ช้อปน้อยๆ แต่พอดี มองหาสิ่งที่เราต้องการที่สุดเสียก่อน ไม่งั้นกระเป๋าจะน้ำหนักเกินไม่รู้ตัวนะเจ้าคะ