วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557

เปิดประตูสู่อีกมุมมองของการท่องเที่ยวศรีลังกา

ประเทศศรีลังกาคือประเทศที่เป็นเกาะซึ่งตั้งอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ในมหาสมุทรอินเดียทางตอนเหนือ โดยมีพรมแดนทางทะเลติดต่อกับประเทศอินเดียทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และมัลดีฟส์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทั้งยังมีฐานะที่เป็นประเทศอันมีความสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา อย่างเช่น สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งซึ่งเป็นสถานที่ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และเสด็จปรินิพพาน นั่นก็คือสวนลุมพินีวัน พุทธคยา สารนาถ และกุสินารา นอกจากนั้นยังเป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว (พระทนต์) ที่มีอยู่เพียง 2 แห่งในโลก นั่นจึงทำให้ผู้คนมากมายโดยเฉพาะชาวพุทธต่างเดินทางมาแสวงบุญ ณ ประเทศแห่งนี้อยู่เนืองๆ
 

และสำหรับการเดินทางของเราในครั้งนี้ มัชรูมทราเวลจะพาท่านเดินทางสู่ประเทศแห่งจุดกำเนิดของศาสนาพุทธแห่งนี้กัน แต่จุดมุ่งหมายของเรามิได้จะพาทุกท่านไปแสวงบุญแต่อย่างใด เพราะศรีลังกายังมีความน่าสนใจอื่นๆ อีกที่รอให้นักเดินทางจากทั่วโลกได้เปิดประตูเข้าไปค้นหา ซึ่งจุดแข็งของการท่องเที่ยวศรีลังกาที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและระบบนิเวศที่ยังคงบริสุทธิ์จนอาจเรียกได้ว่าเป็นธรรมชาติในแบบดิบๆ แต่สวยงามที่หาไม่ได้ง่ายๆ จากที่ใดในโลก อย่างเขตป่าสงวนที่เต็มไปด้วยสารพัดสัตว์ป่าหายาก โดยเฉพาะช้างป่าที่อยู่มากมาย รวมทั้งชายฝั่งทะเลซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังและฝูงปลาหลากสีสัน นอกจากนั้นสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างของศรีลังกายังเก่าแก่และโดดเด่นไม่แพ้ชาติไหน อันเป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากอารยธรรมสิงหลในอดีตกว่าหลายพันปีมาแล้ว


โดยสถานที่แรกที่ควรไปเยือนหากใครมีโอกาสได้เดินทางไปประเทศศรีลังกาก็คือเมืองโคลัมโบ ซึ่งมีฐานะเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทำให้เมืองแห่งนี้คือแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของศรีลังกาที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด จากนั้นจึงค่อยมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งทางภาคตะวันตกเพื่อพักผ่อนริมชายหาดอันเงียบสงบและสวยงาม ทั้งนี้ศรีลังกายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย อย่างเช่นเมืองเก่า อุทยานแห่งชาติอันเต็มไปด้วยสัตว์ป่า เมืองน่ารักแห่งชายฝั่งทางทิศใต้ ไร่ชาบนภูเขาสูงชัน หมู่บ้านวัฒนธรรมของชาวสิงหล เป็นต้น โดยศรีลังกาได้แบ่งหมวดหมู่ของกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามความชอบของนักท่องเที่ยวแต่ละคนเอาไว้ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่คงความงามบริสุทธิ์แบบธรรมชาติแท้ๆ แหล่งมรดกโลก กิจกรรมโลดโผนผจญภัย เขตป่าไม้ ความสุขและการผ่อนคลาย จุดชมวิว แหล่งพืชผลทางการเกษตร และงานเทศกาลสำคัญต่างๆ


เมื่อไหร่ที่ควรไปศรีลังกา

เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของศรีลังกานั้นค่อนข้างมีความสลับซับซ้อนมากกว่าประเทศอื่นๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงประเทศซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ก็ตาม แต่ก็ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากนัก คืออยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรประมาณ 500 ไมล์ จึงทำให้ที่นี่มีสภาพอากาศอุ่นชื้นและค่อนข้างร้อนเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ส่วนบริเวณที่ราบสูงตอนกลางนั้นอากาศจะค่อนข้างเย็นกว่า และมีฝนตกชุกในช่วงฤดูมรสุม อย่างไรก็ตาม จากผลของสภาวะโลกร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้สภาพอากาศของที่นี่แปรปรวนและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น 

สำหรับสภาพอากาศในบริเวณพื้นที่ทางทิศตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ รวมถึงบริเวณชายฝั่ง และบริเวณพื้นที่ที่เป็นเทือกเขาสูง ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนกันยายนของทุกปีคือช่วงฤดูมรสุม และมีฝนตกชุกที่สุดในเดือนเมษายน – มิถุนายน ในขณะเดียวกัน ทางด้านชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกนั้น ฤดูมรสุมของที่นี่จะค่อนข้างมีความรุนแรงน้อยกว่าอีกฝั่ง โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี และมีฝนตกชุกมากที่สุดในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยือนศรีลังกาคือ ในเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมทางภาคตะวันตกและภาคใต้ รวมถึงบริเวณชายฝั่งและภูเขา ส่วนชายฝั่งทางด้านตะวันออกนั้นสภาพอากาศจะดีที่สุดในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนนั่นเอง 

วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557

อู่หลิงฟาร์ม... ความงามแห่งเกาะไต้หวัน

เกาะไต้หวันเป็นเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน อีกทั้งยังอยู่ภายใต้การปกครองของจีน อย่างไรก็ตาม ไต้หวันนั้นแม้จะได้ชื่อว่าถูกปกครองโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ก็มีสถานะเป็นเอกเทศ รวมทั้งยังมีรัฐสภาและรัฐบาลเป็นของตัวเองอีกด้วย โดยเกาะแห่งนี้แต่เดิมนั้นมีชื่อว่าฟอร์โมซา ซึ่งเป็นภาษาโปรโตกีสที่แปลว่าเกาะสวยงาม อันเป็นชื่อที่บ่งบอกถึงลักษณะภูมิประเทศของเกาะแห่งนี้ได้เป็นอย่างดีโดยที่ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เพิ่มเติม


แม้ไต้หวันจะมีพื้นที่เพียงแค่เป็นเกาะเล็กๆ แต่ที่นี่ก็โดดเด่นด้วยระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ทั้งยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามตามธรรมชาติ อย่างหุบเขาและหน้าผาที่สูงชัน ทะเลสาบอันเงียบสงบ และรายล้อมไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยต่างๆ มากมาย ด้วยกำเนิดของเกาะที่ก่อตัวขึ้นจากเปลือกโลกที่เคลื่อนตัวมาชนกันเมื่อสี่ล้านกว่าปีก่อน นอกจากนั้นไต้หวันยังมีแหล่งท่องเที่ยวอันแสดงถึงวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคนด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ทางด้านเศรษฐกิจ ไต้หวันก็ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกว่าประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลจนกลายเป็นประเทศแห่งเศรษฐกิจลำดับที่ 14 ของโลก        


เพราะฉะนั้นครั้งนี้ มัชรูมทราเวลจึงจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับไต้หวันให้มากขึ้นไปอีก โดยเรามีจุดหมายปลายอยู่ที่อู่หลิงฟาร์มที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงของเมืองไทจงทางภาคตะวันตกของเกาะไต้หวัน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของไต้หวัน จนทำให้ได้รับความนิยมทั้งนักท่องเที่ยวจากในและนอกประเทศ ที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวสามารถไปพักผ่อนบนรีสอร์ทแสนสวย และเที่ยวชมความงามที่แตกต่างของฟาร์มแห่งนี้ได้ในทุกช่วงฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นในช่วงปลายปีที่ต้นไม้รอบๆ ซึ่งส่วนใหญ่คือต้นเมเปิ้ลจะพากันเปลี่ยนสีสัน ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็เป็นช่วงที่ดอกพีช ดอกพลัมเบ่งบาน ฤดูร้อนก็จะมีไม้ดอกในช่วงนี้ และช่วงฤดูหนาว ทั่วทั้งยอดเขาก็ก็กลายเป็นสีขาวโพลนด้วยเกล็ดหิมะที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุกบริเวณพื้นที่


ซึ่งนอกจากความสวยงามของอู่หลิงฟาร์มซึ่งเป็นที่เลื่องลือแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ด้วยการดำเนินโครงการพัฒนาการเกษตรเพื่อนำรายได้มาช่วยเหลือทหารผ่านศึกที่เกษียณอายุราชการอีกด้วย                                  

How to get there:

การเดินทางไปเยือนอู่หลิงฟาร์มนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้ทั้งรถประจำตัว รถไฟ รวมถึงรถเมล์ที่คอยให้บริการตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่วิธีที่สะดวกและง่ายดายที่สุดก็คือ การนั่งรถเมล์สาย Kuo-Kuang จากสถานี Yilan: Kuo-Kuang ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือจากด้านหลังของสถานีรถไฟ Yilan ไปประมาณ 150 เมตร โดยรถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 น. ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง ณ หน้าฟาร์มอู่หลิง