Menu Blog

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Top 5 walks around Hong Kong


เส้นทางการเดินเที่ยวภายในเกาะฮ่องกงนั้นมีอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละแห่งก็มีความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นบนชายฝั่งของเกาะที่อยู่ห่างไกล  หรือการเดินขึ้นไปดูวิวของเกาะในมุมมองแบบพาโนรามา นอกจากนี้ในเกาะฮ่องกงยังมีถนนหลายสายที่สวยงามแตกต่างกันไปจนทำให้เราต้องตะลึง และนี่คือ 5 เส้นทางการเดินเที่ยวยอดนิยมในเกาะฮ่องกงที่ “มัชรูมทราเวล” รวบรวมมาเพื่อคุณ

ถนนโบเวน (Bowen Road)


นี่คือถนนสายยอดนิยมบนเกาะฮ่องกงที่ผู้คนมักจะมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือพาสุนัขมาเดินเล่นอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเช้าและตอนเย็น ซึ่งถนนสายนี้จะเป็นเส้นทางบนเนินเขาที่แน่นขนัดไปด้วยต้นไม้เขียวชะอุ่มตลอดสองข้างทาง และยังตั้งอยู่เหนือย่านธุรกิจและแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนหว่านไจ๋ รวมทั้งสวนพฤกษศาสตร์ Happy Valley และที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับวิวทิวทัศน์รอบๆ เกาะฮ่องกงที่งดงามในมุมสูง ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่องรูปทรงต่างๆ ท่าเรือแห่งเกาะฮ่องกง หรือแม้กระทั่งทิวทัศน์ของฝั่งเกาลูน เป็นต้น

องค์พระใหญ่ แห่งเกาะลันเตา (The Big Buddha of Lantau Island)


องค์พระใหญ่แห่งเกาะลันเตาถูกสร้างขึ้นในปี 1993 เป็นพระพุทธรูปสำริดที่มีความสูงถึง 34 เมตร และหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี และยังสร้างบันไดขึ้นไปยังองค์พระจำนวน 268 ขั้น นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่นอกจากจะได้สักการะองค์พระใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังจะได้พบกับความยิ่งใหญ่และงดงามของเทือกเขาที่ตั้งตะหง่านอยู่เบื้องหน้า รวมถึงน้ำทะเลสีฟ้าใสจากบริเวณฐานขององค์พระซึ่งเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของเกาะลันเตา และไม่ไกลจากองค์พระใหญ่มากนัก เป็นที่ตั้งของอารามโป๋หลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดแห่งนึ่งของฮ่องกง โดยอารามแห่งนี้เต็มไปด้วยภาพที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งบรรยากาศยังรื่นรมย์ด้วยเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพรรณภายในสวน

ถนนลูการ์ด เส้นทางรอบเดอะพีค (Lugard Road)


วิคตอเรียพีคถือเป็นจุดชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของเกาะฮ่องกง ที่หากใครมาเยือนฮ่องกง แต่ไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปบนวิคตอเรียพีคแล้วล่ะก็ อาจเรียกได้ว่ายังมาไม่ถึงฮ่องกงจริงๆ ก็ว่าได้ ซึ่งถนนลูการ์ดถือว่าเป็นถนที่มีชื่อเสียงที่สุดจากถนนหลายๆ สายภายในเดอะพีค ด้วยมีลักษณะเป็นวงแหวนพาดพันรอบๆ วิคตอเรียพีค และมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 400 เมตร ดังนั้นจึงทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของอ่าววิคตอเรียได้อย่างชัดเจน อย่างเช่นท่าเรือฮ่องกงและภูเขาที่ห่างไกล ซึ่งหากวันไหนที่มีอากาศดี ท้องฟ้าโปร่งไร้เมฆหมอก ก็จะสามารถมองเห็นจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างชัดเจน ส่วนชื่อของถนนนั้นตั้งตามชื่อของเซอร์เฟรดดริก ลูการ์ด ผู้ว่าการคนที่ 14 แห่งเกาะฮ่องกง

เส้นทางเดินเขาแมคลีฮุสที่แหลมไซกุง  (The MacLehose Trail inside Sai Kung Country Park)


Sai Kung Country Park มีพื้นที่ทั้งหมด 18,533 ไร่ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินเขาลาดชัน สลับกับหุบเขา และชายฝั่งทะเลที่สวยงาม โดยเส้นทางเดินเขาแมคลีฮุสนั้นจะเป็นเส้นทางที่วนรอบแหลมไซกุง ทั้งยังเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดหากนักท่องเที่ยวต้องการจะดูแท่งหินภูเขาไฟของเกาะไฮ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่ต้องเดินผ่าน 2 ใน 10 สถานที่ที่สวยที่สุดของเกาะฮ่องกง ซึ่งก็คืออ่างเก็บน้ำเกาะไฮและหล่องกาวานนั่นเอง

เส้นทางสู่อ่างเก็บน้ำ Tai Tam (Tai Tam Reservoirs)


อ่างเก็บน้ำ Tai Tam คืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในอาณาเขตของ  Tai Tam Country Park ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะฮ่องกง และยังเป็นสถานที่อันเงียบสงบ เพราะอยู่ห่างไกลจากความวุ่นวายของตัวเมือง ดังนั้นเส้นทางนี้จึงเหมาะแก่การเดินกินลมชมวิวเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะค่อนข้างทุลักทุเลบ้างก็ตาม ด้วยเพราะเป็นถนนที่มุ่งตรงขึ้นไปบนเนินเขาที่เต็มไปด้วยกรวดทราย แต่ถ้าใครสามารถผ่านความยากลำบากนี้ไปได้ รางวัลที่คุณจะได้รับก็คือวิวทิวทัศน์อันสวยงามของทิวเขาสีเขียวสุดลูกหูลูกตารอบๆ อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ อีกทั้งที่นี่ยังเต็มไปด้วยผีเสื้อหลากสี นกสายพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งต้นไม้ใบหญ้านานาพรรณให้คุณได้ชื่นชมและศึกษาไปตลอดเส้นทางอีกด้วย

ทัวร์ฮ่องกง



Top 5 walks around Hong Kong


1. ถนนโบเวน (Bowen Road)

2. องค์พระใหญ่ แห่งเกาะลันเตา (The Big Buddha of Lantau Island)

3. ถนนลูการ์ด เส้นทางรอบเดอะพีค (Lugard Road)

4. เส้นทางเดินเขาแมคลีฮุสที่แหลมไซกุง  (The MacLehose Trail inside Sai Kung Country Park)

5. เส้นทางสู่อ่างเก็บน้ำ Tai Tam (Tai Tam Reservoirs)



วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

9 Things To Do In Hong Kong.



เมื่อคิดถึงฮ่องกง คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงการช้อปปิ้งที่คุณสามารถเดินช้อปได้ทุกที่ทั่วทั้งเกาะ หรืออาจจะนึกถึงการหาร้านอาหารอร่อยๆ ไม่ว่าร้านไหนเด่น ร้านไหนดัง หรือร้านไหนที่ว่ากันกันว่าอร่อยนักหนา เป็นต้องขวานขวายไปกินถึงที่ให้ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วแม้ฮ่องกงจะเป็นแค่ประเทศที่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ แต่ก็มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างให้นักท่องเที่ยวทำ และนี่คือ 9 สิ่งที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงเกาะฮ่องกง ที่มัชรูมทราเวลได้คัดสรรและรวบรวมมาเพื่อคุณ!

สัมผัสความงามของเกาะฮ่องกงบน Victoria Peak 


นักท่องเที่ยวที่เคยไปเยือนเกาะฮ่องกงมาแล้วมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าคุณสามารถเลือกทำได้เพียงอย่างเดียวบนเกาะฮ่องกง สถานที่ที่คุณควรไปก็คือ Victoria Peak แต่ถ้าคุณมีช้อยส์หลายอย่างให้เลือกแล้วล่ะก็ คุณก็ควรไปที่นั่นอยู่ดี แต่อาจจะต้องหอบโชคไปบ้างสักเล็กน้อย เพราะถ้าวันไหนอากาศดีไร้เมฆหมอก ก็จะสามารถมองเห็นฝั่งเกาลูนได้อย่างชัดเจน

นั่ง Ding Ding ชมเมือง


มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่าสิ่งนี้คืออะไร Ding Ding ก็คือรถรางสองชั้นรุ่นเก่าที่มีอยู่ทั่วไปในฮ่องกงนั่นเอง ส่วนสาเหตุที่คนฮ่องกงเรียกรถรางว่า Ding Ding นั่นก็เพราะเวลาที่รถจะออกจากสถานี มักจะมีเสียงดิงดิงดังขึ้นทุกครั้งนั่นเอง ซึ่งรถรางแบบนี้จะวิ่งค่อนข้างช้า แตกต่างจากพาหนะขนส่งใหม่ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในฮ่องกง แต่สำหรับคนที่ไม่เร่งรีบ และอยากชมวิวสวยๆ ของเกาะฮ่องกงล่ะก็ Ding Ding คือตัวเลือกที่วิเศษที่สุดสำหรับคุณ ที่สำคัญค่าบริการยังราคาถูกอีกด้วย

ลิ้มรสติ่มซำตำรับดั้งเดิม ณ ร้านน้ำชาสไตล์ฮ่องกง


ถึงเมืองไทยติ่มซำจะหาทานง่ายแม้ในเซเว่น แต่รสชาติก็อาจจะสู้ต้นตำรับแท้ๆ ไม่ได้ การมีโอกาสได้มาชิมติ่มซำจนถึงถิ่น นอกจากคุณจะได้รับรสชาติที่แตกต่างแล้ว ยังจะได้บรรยากาศของสังคมจีนจริงๆ เป็นของแถมอีกด้วย ซึ่งฮ่องกงก็มีร้านอาหารจีนมากมายหลากหลายราคาให้คุณได้ไปทดลองชิม และนอกจากติ่มซำแล้ว ฮ่องกงยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่คุณอาจไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินชื่อ รวมทั้งไม่เคยรับประทานที่ไหนมาก่อน โดยร้านน้ำชาแทบทุกร้านจะมีเมนูอาหารพื้นเมืองสไตล์ฮ่องกงแท้ๆ รอเสิร์ฟนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนัก

ไหว้พระขอพรที่วัดหวังต้าเซียน


คนไทยส่วนใหญ่มักจะรู้จักวัดนี้ในชื่อวัดหวังต้าเซียน แต่ถ้าตามภาษาจีนกวางตุ้งวัดนี้มีชื่อว่าวัดหว่องไทซิน  วัดซึ่งเป็นศูนย์กลางของ 3 ศาสนาคือ เต๋า พุทธ และขงจื๊อ โดยวัดนี้ถูกออกแบบให้มีลักษณะอาคารเป็นแบบศิลปะจีนโบราณที่สวยงามมาก อีกทั้งวัดนี้ยังเป็นวัดที่มีผู้คนให้ความศรัทธาและมากราบไหว้มากที่สุดในฝั่งเกาลูน

เดินท่องราตรีที่ Lan Kwai Fong


ถ้าถามคนฮ่องกงว่าสถานบันเทิงยามค่ำคืนย่านไหนที่ฮอตฮิตสุดๆ 9 ใน 10 คนคงตอบเหมือนกันว่า Lan Kwai Fong แน่ๆ เพราะถึงแม้ว่าที่นี่จะมีพื้นที่เล็กๆ แต่การเดินทางที่สะดวกสบายด้วยเพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญใจกลางเมือง ประกอบกับที่นี่มีร้านอาหาร ผับ รวมทั้งบาร์มากกว่า 90 ร้าน ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมของบรรดานักท่องเที่ยว คนฮ่องกงทั่วไป รวมทั้งเหล่าเซเลบทั้งหลาย ที่ชอบมารวมตัวสังสรรค์โดยเฉพาะในคืนวันศุกร์ สุดสัปดาห์ รวมทั้งเทศกาลสำคัญๆ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวันฮัลโลวีน เทศกาลคริสต์มาส วันปีใหม่ และ Lan Kwai Fong’s beer festival เป็นต้น

สัมผัสวิถีชีวิตคนเมืองบนรถไฟฟ้า MTR 


ออกจะดูเป็นกิจกรรมที่ธรรมดามากๆ แต่นี่คือประสบการณ์อีกหนึ่งอย่างในฮ่องกงที่คุณควรทำเป็นอย่างยิ่งถ้าคุณมีโอกาสได้มาเยือนที่ฮ่องกง แล้วคุณจะเห็นถึงความแตกต่าง...

โชว์ความสามารถที่มีอยู่ในตัวด้วยคาราโอเกะ


คาราโอเกะคืออีกหนึ่งกิจกรรมที่ป๊อปปูลาร์เป็นอย่างมากในเกาะฮ่องกง ที่นี่คุณสามารถค้นหาร้านคาราโอเกะดีๆ ได้ไม่ยาก โดยร้านคาราโอเกะที่ขึ้นชื่อมากๆ ก็ได้แก่ Neway Karaoke, Red Mr KTV รวมทั้งในบาร์ทั่วไปก็มีคาราโอเกะไว้บริการเช่นเดียวกัน

เรียนรู้ภาษาจีนกวางตุ้ง


แน่นอนว่านักท่องเที่ยวบางคนอาจจะพอเข้าใจภาษาจีนกลางบ้างเป็นบางคำ แต่สำหรับภาษาจีนกวางตุ้งนั้นแตกต่างจากภาษาจีนกลาง โดยทั่วไปแล้วคนฮ่องกงจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงวัย คนขับแท็กซี่ บริกรในร้านอาหาร ที่แม้พวกเขาจะพยายามพูดภาษาอังกฤษกับคุณ แต่บางคำถามพวกเขาก็อาจจะไม่เข้าใจ ดังนั้นภาษาจีนกวางตุ้งจึงเป็นอีกหนึ่งภาษาสำคัญที่คุณควรเรียนรู้เมื่อมาเยือนฮ่องกง เพราะมันจะทำให้คุณติดต่อสื่อสารสะดวกสบายขึ้นแม้จะรู้เฉพาะคำศัพท์บางคำก็ตาม

ตื่นเต้นกับการแข่งม้า


การแข่งม้าเป็นธุรกิจพนันชนิดเดียวเท่านั้นที่ถูกกฎหมายในฮ่องกง ดังนั้นสนามแข่งม้าที่ฮ่องกงจึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสุดโปรดของบรรดาอาเสี่ยกระเป๋าหนักทั้งหลาย ที่ชอบเข้ามาเสี่ยงโชคเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นและท้าทายให้กับชีวิต ซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วไปก็สามารถเข้าไปดูการแข่งม้าได้เช่นกัน

ทัวร์ฮ่องกง


9 Things To Do In Hong Kong














วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ชม ชิลล์ ชิม in One night @ Korea by Subway & Mr. Taxi

          สำหรับการผจญภัยของพวกเราในครั้งนี้ เราเริ่มต้นที่ Subway ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเดินทางโดย Subway ที่เกาหลีนั้นจำเป็นต้องอาศัยความแม่นยำในการจดจำเส้นทาง เนื่องจาก Subway มีหลายเส้นทางให้พวกเราได้เลือกสับสนกันเลยทีเดียว โดยเราเริ่มต้นกันที่สถานี Seoul Subway Line 9 ขึ้นที่ National Assembly Station





          จุดมุ่งหมายของเราคือการข้ามฝั่งไปที่กังนัม โดยจะลงที่สถานี Shinnonhyeon Station ฝั่งกัมนัม จากนั้นออกประตูที่ 2 วิธีการใช้บริการ Subway ในครั้งนี้คือบริการ Single Journey Ticket เป็นตั๋ว One Way ราคา 2,500 วอน และมีค่า Deposit card 500 วอน จะได้คืนตอนที่ เราเอา card ไปคืนที่ตู้ตรงทางออก  (Sub way ให้บริการถึงเที่ยงคืนค่ะ)


            พอออกมาจากสถานี Shinnonhyeon Station ก็จะพบกับร้านค้า ร้านอาหาร ผู้คนมากมาย วัยรุ่นชายหญิง ท่องราตรี เดินดูร้านรวงต่างๆ แล้ว และได้แวะชิมร้านริมถนน เป็นร้านขายอาหารทานเล่น จะมีกุ้งทอดเทมปุระ บางอย่างที่เหมือนไส้อั่ว เส้นต๊อกผัดพริกแกง เราลองชิมไส้อั่วดู ข้างในมีส่วนผมของเลือด เครื่องใน วุ้นเส้น ยัดลงไปในใส้หมู และโรยเกลือป่น รสชาติจืดๆ แต่หอมมาก อร่อยมาก



               เดินต่อมาจะมีรถที่ขายเมนูยอดนิยมเลยก็ว่าได้ เรียกว่าทุกร้านจะต้องขายโอเด้งที่ทำมาจากปลา และแป้งสาลี โดยมักจะขายกันแบบเสียบไม้ยาวๆ แล้วจุ่มไว้ในน้ำซุป ราคา 3 ไม้ 1,000 วอน จะมีขวดซอสไว้ฉีดพรมให้ทั่วไม้แล้วทานร้อนๆ อร่อยมากค่ะ อากาศหนาวๆ จะได้บรรยากาศและความอร่อยริมถนนที่ธรรมดา แต่มีอะไรให้ท่านได้เลือกชิมแถมราคาไม่แพงด้วยนะคะ




              ต่อมา...เราพร้อมที่จะผจญภัยอีกอย่างหนึ่งของกรุงโซลแล้ว นั่นคือการใช้บริการ MR.TAXI ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว่าการนั่ง Taxi ที่กรุงโซลนั้น คุณอย่าใช้ความเคยชินในเมืองไทยที่ว่าจะต้องขึ้นแท็กซี่รุ่นใหม่เท่านั้น เพราะถ้าคุณ เผลอไปใช้บริการแท็กซี่สีดำที่มักจะลวงตาคุณด้วยยี่ห้อเบนซ์หรือบีเอ็มดับเบิลยู คุณอาจจะหมดตัวเอาง่ายๆ เพราะรถประเภทนี้คือรถเดอลุกซ์ (ภาษาเกาหลีเรียกว่าโมบอม) และมิเตอร์ราคาเริ่มต้นจะแพงกว่ารถคันอื่นๆ เกือบเท่าตัว! ตามมาดู MR.Taxi ที่เราเลือกใช้บริการในครั้งนี้กันค่ะ คันสีส้มคนขับรถท่าทางน่ารักใจดี เรามีนามบัตรของโรงแรมที่พักยื่นให้กับคนขับแท็กซี่ เขาก็รีบคีย์ข้อมูลลงไปใน Navigator ทันที แผนที่และเส้นทางก็โชว์ที่หน้าจอ พร้อมทั้งระยะทางว่ากี่กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางกี่นาที ไฮเทคมาก โดยจากกังนัมมาถึงที่พักนั้นมีระยะทาง 11 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที อีกทั้งยังโชว์เส้นทางที่จะไปถึงโรงแรมโดยอัตโนมัติ  



           เรามาถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ ซึ่งใช้เวลาเพียง 28 นาที ส่วนค่าบริการครั้งนี้คือ 13,470 วอน MR.Taxi ใจดีลดให้ 13,000 วอน ขอบคุณมากๆ นะคะ

           สำหรับการเดินทางของพวกเราในครั้งนี้ได้ทั้งชม ชิลล์ย่านกังนัม และชิมอาหารตามร้านค้าต่างๆ และ เรียนรู้การเดินทางโดย MR.TAXI และ Sub Way  พอประมาณนะคะ  อยากให้ลอง ถ้าไม่ลองจะไม่รู้นะค้า......

 ทัวร์เกาหลี